กลาโหมสหรัฐเผยจรวดนำวิถีความแม่นยำสูงของรัสเซียใกล้หมดแล้ว
The Guardian รายงานว่า คอลิน คาห์ล เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสกระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่า จากข้อมูลข่าวกรองจรวดนำวิถีความแม่นยำสูงของรัสเซียใกล้หมดแล้ว และรัสเซียน่าจะต้องพึ่งพาระเบิดไม่นำวิถีและกระสุนปืนใหญ่เป็นหลัก
ระเบิดที่ไม่มีระบบนำวิถีจะเคลื่อนที่แบบวิถีกระสุนทำให้ยากต่อการเล็งเป้า ทำให้ไม่สามารถโจมตีเป้าหมายที่ต้องการ ส่งผลให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง
คาห์ลเผยกับ Reuters ว่า ช่วง 28 วันแรกที่รัสเซียบุกยูเครน รัสเซียยิงขีปนาวุธทุกแบบทุกขนาดไปแล้วอย่างน้อย 1,200 ลูก ทว่าไม่ใช่ทุกลูกจะโจมตีถูกเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ โดยขีปนาวุธนำวิถีของรัสเซียมีอัตราความผิดพลาดถึง 60%
“การเปิดเผยตัวเลขนี้ช่วยอธิบายได้ว่าเหตุใดรัสเซียจึงล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์เบื้องต้นนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานเมื่อ 1 เดือนก่อน อาทิ การทำลายกองทัพอากาศยูเครน แม้ว่ากองทัพรัสเซียจะแข็งแกร่งกว่ากองทัพยูเครนที่มีขนาดเล็กกว่า”
คาห์ลเผยกับ Reuters ว่า ขีปนาวุธร่อนที่ปล่อยจากอากาศมีอัตราความล้มเหลวอยู่ที่ 20-60% โดยผู้เชี่ยวชาญ 2 รายเผยกับ Reuters ว่า อัตราความผิดพลาดที่มากว่า 20% ถือว่าสูง
ทว่า คาห์ลเผยว่า รัสเซียยังคงมีอาวุธอื่นๆ อาทิ ขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นดินสู่อากาศและขีปนาวุธร่อนอีกมากมาย “ผมหมายความว่าพวกเขาใช้เงินไปมาก แต่พวกเขาก็ทุ่มเทอย่างมาก และพวกเขายังมีเหลืออีกมาก”
Ukrainian Military TV/Handout via REUTERS