กลุ่มคนอีสาน บ่ทน แจ้งตำรวจดำเนินการกับกลุ่มคนที่ย่ำยีเหยียดหยามคนอีสาน ตามคลิปในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ TOXIC
เวลา 11.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว หรือทนายแดง อายุ 60 ปี ตัวแทนกลุ่มคนอีสาน..บ่ทน นำรถขยายเสียงพร้อมป้ายติดข้างรถ ข้อความว่า “หยุด ย่ำยี เหยียดหยาม คนอีสาน” จอดอ่านแถลงการณ์หน้าอาคาร สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนที่จะยื่นหนังสือตามใบแถลงการณ์ให้ พ.ต.ท.จตุเรศ ดรอ่อนเบ้า สว.สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จากนั้นเข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับคนที่ย่ำยี เหยียดหยาม คนอีสาน ตามคลิปในแอปพลิเคชันชื่อ คลับเฮาส์ TOXIC
นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว หรือทนายแดง อายุ 60 ปี ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังแจ้งความว่า กรณีที่มีวัยรุ่นตามที่อยู่ในคลิปแอปพลิเคชันชื่อ คลับเฮาส์ TOXIC พูดเหยียดหยามคนอีสานนั้น อาจจะมีหลายคนมองว่าเป็นคำพูดของคนที่ไร้ความคิด แต่มันคือคำพูดที่ดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนอีสาน จึงต้องมาแจ้งความให้ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานกระทำการโดยทุจริตนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อมูลบิดเบือนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนการแจ้งความในครั้งนี้เรามองว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นนิสัยสันดานส่วนตัวของบุคคลคนนั้น เพราะการที่มีความคิดเหยียดเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของคนอีสานนั้น ในทางกฎหมายยังไม่ทราบว่าจะออกมาในรูปแบบใด เพราะคนพวกนี้อาจจะทำได้เพียงการออกมายกมือข้อโทษ และว่าตัวเองรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ขอยืนยันว่ากลุ่มคนอีสานบ่ทน จะเดินหน้าเอาผิดคนที่ย่ำยี เหยียดหยาม คนอีสานให้ถึงที่สุด
ส่วนข้อความในแถลงการณ์ระบุว่า จากกรณีปรากฏคลิปเสียงในโลกโซเชียลแพร่สะพัด มีข้อความดูถูกเหยียดหยามคนอีสานอย่างชัดแจ้ง โดยเป็นคลิปเสียงที่คนกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันทางแอปพลิเคชันชื่อ คลับเฮาส์ TOXIC ข้อความโดยสรุปดูถูกเหยียดหยามว่า คนอีสานสกปรก, ชาติพันธุ์-บรรพบุรุษ พ่อแม่ต่ำต้อยผสมพันธุ์ออกลูกด้อยคุณภาพ, กินหมา, ใจแตก มีผัวแต่อายุ 12 ปี, ตัวดำน่าเกลียดน่ากลัว, ผู้หญิงชอบขายตัวหาผัวฝรั่ง ฯลฯ กล่าวโดยสรุปเราเชื่อว่าไม่เฉพาะแต่คนอีสานเท่านั้นที่ไม่สบายใจ หากแต่คนไทยผู้รักความสงบสามัคคี คนดีๆ เขาฟังแล้วคงไม่สบายใจเช่นกัน และอยากจะให้มีกระบวนการที่จะหยุดยั้งกลุ่มบุคคลผู้ใช้คำพูดและมีความคิดเหยียดเชื้อชาติคนอีสาน แถลงการณ์ฉบับนี้ใช้ชื่อ “คนอีสาน” คงไม่ต้องถามว่าเป็นกลุ่มตั้งมาอย่างไร เมื่อไหร่ พวกเราคนอีสานมีสำนึกและความภาคภูมีใจในการที่เกิดเป็นคนอีสาน เช่นเดียวกับคนทุกเชื้อชาติ เชื้อสายพงศ์พันธุ์คนอีสานมีที่มาพัฒนาการอย่างยาวนาน คนอีสานเป็นคนรักความสงบ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทั้งในกลุ่มเชื้อชาติเดียวกันและต่างเชื้อชาติ คนอีสานไม่ชอบความขัดแย้ง แต่เมื่อใดมีภัยคุกคามคนอีสานก็สู้ไม่ถอย คนอีสานเคารพรักผู้หลักผู้ใหญ่และบรรพบุรุษ และยึดมั่นในฮีตคลองประเพณีวัฒนธรรมอย่างเหนียวแน่น แม้ในสภาพสังคมทันสมัยในปัจจุบันก็ไม่อาจจะกร่อนกลืน “มูลเชื้อคนอีสานได้” หากกลุ่มบุคคลที่บังอาจกระทำการดูถูกเหยียดหยามคนอีสานได้รู้ได้เข้าใจใช้สติปัญญาและสำนึกของความเป็นคนไทยผู้เจริญ เชื่อว่าพวกเขาคงอาจจะไม่กระทำการที่ต่ำตมน่าสมเพชเวทนาเช่นนี้เป็นแน่
แถลงการณ์ฉบับนี้มีเจตนาที่จะดึงสติเตือนใจพี่น้องคนอีสานและคนไทยผู้เจริญให้ใช้ปัญญาในการพิจารณาต่อกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ควรใช้อารมณ์จนขาดสติและเหตุผล หากจำเป็นต้องตอบโต้ขอให้ตอบโต้อย่างสร้างสรรค์ตามกฎกติกาและครรลองของกฎหมายบ้านเมืองที่มีอยู่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคม คงไม่มีประโยชน์ที่พวกเราคนอีสานและท่านผู้เจริญทุกท่านจะตอบโต้ด้วยกิริยาวาจาสามานย์เช่นที่กลุ่มบุคคลพวกนี้ได้กระทำ
ท้ายที่สุดนี้พวกเราคนอีสานก็ยังพร้อมที่จะให้อภัยกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ควรต้องแสดงตัวออกมา แล้วกระทำการใดๆ อันถูกต้องเหมาะสมที่จะทำให้พวกเราคนอีสานพอใจและสบายใจขึ้น แต่หากกลุ่มบุคคลพวกนี้ยังไม่สำนึกละอายต่อพฤติกรรมอันต่ำตม พวกเราในนามคนอีสานก็จำต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าจัดการ
กลุ่มคนอีสาน..บ่ทน จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ต่อกลุ่มบุคคลที่บังอาจดูถูกเหยียดหยามคนอีสาน ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฐานกระทำการโดยทุจริตนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อมูลบิดเบือนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งกระทบหรืออาจกระทบสร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อสังคม ประชาชนและศีลธรรมอันดี และพวกเราขอยืนยันว่าจะไปให้สุดขุดให้ถึง และร่วมกันขจัดการเพาะเชื้อร้ายลัทธิเหยียดเชื้อชาติ”.