‘บิ๊กโจ๊ก’ โวรู้พิกัด 2 คนร้ายร่วมฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชายเยอรมัน กลางเมืองพัทยา ชลบุรี แล้ว ลุยเปิดปฏิบัติการปูพรมล่าตัว เชื่อชนวนเหตุ ประสงค์ต่อทรัพย์ แย้มจับเพิ่มเจ้าของบ้านเกิดเหตุ จ่อถกด่วน ผกก.สภ.เมืองพัทยา-สภ.หนองปรือ กวาดล้างมาเฟียพัทยา
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมันว่า จากการประชุมมอบหมายงานวานนี้ (10 ก.ค.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทน ผบก.จว.ชลบุรี และศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ทำให้เราพบศพของนายฮันส์ ปีเตอร์ มีการฆ่าหั่นศพเก็บไว้ในตู้แช่ ซึ่งตรงกับที่ตำรวจได้สันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้ว่า เจ้าตัวอาจจะไม่มีชีวิตแล้ว จากนั้นพอเก็บร่องรอยพยานหลักฐาน อาทิ รอยนิ้วมือ ดีเอ็นเอ รอยฝ่ามือเสร็จสิ้น เราได้มีการขอศาลอาญาออกหมายจับ ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย 1.MRS.PETRA CHRISTL GRUNDGREIF (เพธา) ชาวเยอรมัน 2.MR.OLAF THORSTEN BRINKMANN (โอลาฟ) ชาวเยอรมัน และ 3.นายซาฮ์รูค คารีม อุดดิน ชาวปากีสถาน สัญชาติไทย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า วันนี้สามารถติดตามจับกุมนางเพธาได้แล้ว พร้อมทั้งยังได้มีการจับกุมนายนิโค (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ และเตรียมขอศาลออกหมายจับเช่นเดียวกัน สำหรับในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย คือ นายโอลาฟ และนายซาฮ์รูค อยู่ระหว่างการหลบหนีภายในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ตำรวจทราบพิกัดของทั้งคู่แล้ว แต่ขอละเว้นการเปิดเผยไว้ก่อน และในบรรดาขบวนการนี้ เราจะจับกุมได้ทั้งหมดทุกคนที่เกี่ยวข้อง อย่างไรต้องขอเวลาสักระยะ ยืนยันรีบเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีแน่นอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยด้วยว่า เรื่องนี้ต้องรีบทำให้เร็ว เพราะคนร้ายเหล่านี้รู้วิธีการ และมีความเกี่ยวพันในเรื่องของยาเสพติด และยังเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อาศัยประเทศไทยเป็นแหล่งพักพิงและก่อเหตุ ซึ่งในพื้นที่พัทยา ชาวบ้านเขาทราบกันดีว่ามีขบวนการนี้อยู่ อีกทั้งในคืนนี้ ประมาณ 22.00 น. ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมกับ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผกก.สภ.หนองปรือ โดยจะเรียกพูดคุยหารือทั้งหมด เพราะชาวบ้านเอือมระอาหมดแล้ว
สำหรับประเด็นที่จะพูดคุยหารือ เช่น ลักษณะการอาศัยในไทยโดยใช้วีซ่า ซึ่งก็จะวกกลับไปที่ตำรวจ ตม. ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะการใช้วีซ่ารีไทร์เมนต์ (Retirement) หรือวีซ่าธุรกิจ ต้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ไม่ใช่มีแค่เงินแล้วทำได้ อยู่ได้ เพราะตนเล็งเห็นว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีลักษณะพิเศษ เข้ามาไทย มีการสักทั้งตัว อย่างไรก็ตามตนต้องกำชับว่า ตำรวจ ตม. จะต้องกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ให้หมดทั้งพัทยาและหนองปรือ เพราะหนองปรือถือเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อกลับจากพัทยา ทั้งนี้ ผกก. ทั้งสอง สภ. ต้องเข้มแข็ง จะให้มีเหตุการณ์จีนอุ้มจีน หรือเยอรมันอุ้มเยอรมันในไทยไม่ได้