กองกำลังกะเหรี่ยงปะทะทหารพม่า เสียงปืนแตกแนวชายแดนระนอง ชาวบ้านหนีตายข้ามแม่น้ำกระบุรีมาฝั่งไทย

กองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารพม่าปะทะกันครั้งแรกที่ชายแดน ด้าน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยชาวบ้านหวายแดง หนีตายข้ามแม่น้ำกระบุรี เข้ามายังฝั่งไทย หน่วย ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี และ ตชด.415 จัดวางกำลังเข้มตลอดแนวชายแดน

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ จ.บกเปี้ยน ภาคตะนาวศรี ซึ่งแยกเป็นจังหวัดใหม่ออกมาจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา โดยที่หมู่บ้านหวายแดง อ.บกเปี้ยน จ.บกเปี้ยน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ บ้านหาดตุ่น คุ้มหวายแดง หมู่ที่ 8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ที่มีต้นแม่น้ำกระบุรีกั้นแนวชายแดนได้เกิดเสียงปืนเล็กยาว หรือปืนอาก้า ยิงปะทะกันสนั่นบริเวณท่าเรือบ้านหวายแดง ระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงที่เพิ่งเข้ามาเคลื่อนไหวและควบคุมหมู่บ้านตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาร่วม 3 เดือน

ชาวบ้านในพื้นที่แนวชายแดนไทยสามารถถ่ายคลิปเสียงยิงปะทะกันต่อเนื่องอย่างที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน มีชาวบ้านจากหมู่บ้านหวายแดง ข้ามแม่น้ำกระบุรี หนีตายเข้ามาในพื้นที่นั่งหลบภัยในสวนปาล์มน้ำมันทางฝั่งไทยจำนวนนับร้อยราย และกระจายตัวกันไปในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.ปากจั่น และ ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง และมีการปะทะกันถึงเย็นก่อนฟ้าจะมืด ซึ่งจุดที่ยิงปะทะกันตรงจุดนี้เป็นกลุ่มกะเหรี่ยงที่มีกำลังประมาณ 160 นาย ที่แฝงตัวในหมู่บ้าน และกองกำลังทหารเมียนมาที่ส่งกำลังมาจากจังหวัดเกาะสองไม่ทราบจำนวน โดยสามารถมองเห็นกำลังทหารกะเหรี่ยงที่ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ และยึดฐานที่มั่นบริเวณท่าเทียบเรือห้วยแดงเอาไว้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรีคอยยืนเฝ้าสังเกตการณ์ เห็นการสู้รบด้วยอาวุธปืนตามริมแม่น้ำกระบุรี โดยไม่มีกองกำลังฝ่ายใด รวมทั้งการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาทางฝั่งไทย

จากการสอบถามชาวเมียนมาครอบครัวหนึ่งที่มีทั้งพ่อ แม่ ผู้พิการนั่งรถเข็น และเด็กๆ ชาวเมียนมา ที่ข้ามหนีตายมายังฝั่งไทยได้ความว่า หมู่บ้านที่มีการต่อสู้กันคือหมู่บ้านหวายแดง เป็นชื่อเดียวกับคุ้มหวายแดง บ้านหาดตุ่น ม.8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ทางฝั่งไทย โดยมีกองกำลังของกะเหรี่ยงประมาณ 160 นาย ที่เข้ามายึดและเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน โดยไม่ทราบกำลังทหารของเมียนมาที่ยังไม่สามารถเข้ามายึดคืนหมู่บ้านหวายแดงคืนกลับ ซึ่งทางทหารไทยได้ดูแลตามหลักสิทธิมนุษย์ชน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศพร้อมตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน ไม่ให้กองกำลังใดเข้ามาในประเทศ และไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนชาวไทย

พลตรีวรเดช เดชรักษา ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจกับชุดลาดตระเวนและชุดเฝ้าตรวจ รวมทั้งการลาดตระเวนทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ เพื่อให้เห็นครบทุกมิติ และนำข้อมูลมาปรับแผนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกันแนวชายแดน เมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์มีการสู้รบกันบ้าง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดระนอง ซึ่งมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน มีการอพยพมาอยู่ตามแนวชายแดนใกล้กับประเทศเรา พร้อมทั้งได้เน้นย้ำทั้งชุดเฝ้าตรวจและลาดตระเวนตามแนวชายแดนให้ทหารกองกำลังเทพสตรี หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 และชุดเฝ้าตรวจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4105 ได้เพิ่มความถี่และความเข้ม ทั้งการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ แต่ในห้วงที่ผ่านมายังไม่มีผลกระทบด้านความมั่นคงกับประเทศเราแต่อย่างใด แต่ได้เตรียมแผนการป้องกัน และแผนการรองรับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว