กองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ ยกแผ่นบังเกอร์ป้องกันน้ำท่วม ยาวตลอดแนวลำน้ำเจ้าพระยา 165 เมตร หน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยว

หลายพื้นที่ยังเกิดฝนตกและน้ำป่าไหลหลาก ต่อเนื่อง จ.สุโขทัย น้ำทะลักเข้า รพ. “บิณฑ์” ลงพื้นที่ช่วยอพยพชาวบ้าน จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านหนีตายน้ำป่าทะลักคลองลาน จ.ชัยภูมิ ยังจมบาดาล อ่างเก็บน้ำล้นทะลักเข้าท่วมชุมชนเพิ่มอีก ส่วนอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง แตกเป็น รูโหว่เพิ่มขึ้น ชาวบ้านโวยไม่แจ้งเตือน ขณะนี้เหยื่อสังเวยน้ำท่วมแล้ว 2 ศพ ส่วนพื้นที่ภาคกลาง ริมแม่น้ำ เจ้าพระยาเตรียมรับมวลน้ำ วางแนวกระสอบกันพื้นที่ เศรษฐกิจน้ำท่วม ขณะที่ “อัศวิน” เผยระดับน้ำยังไม่ กระทบ กทม.

ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติน้ำท่วมทั้งภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง กระแสน้ำไหลเชี่ยวเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง จ.นครราชสีมา ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแตกความกว้างกว่า 10 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลทะลักลงมาบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ อ.โนนสูง อ.เมือง และ อ.ด่านขุนทด หวั่นเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนโรงพยาบาลหลายแห่งได้รับผลกระทบ เร่งเคลื่อนย้ายคนไข้หนีน้ำกันอย่างอลหม่าน ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อน พื้นที่ภาคกลางเฝ้าระวังน้ำทะลักเข้าพื้นที่

น้ำป่าซัดรถจม 4 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากซัดในพื้นที่บ้านป่าเหว บ้านกลาง บ้านแม่ก๋อน บ้านห้วยเฮียะ และบ้านจอซิเดอเหนือ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ดินโคลนทับถมเข้าไปในหมู่บ้าน และพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง กระแสน้ำพัดรถกระบะจมน้ำเสียหาย 4 คัน ภายหลังน้ำลดทหารพรานและหน่วย นพค. 36 ร่วมกันกู้รถกระบะ 2 คัน จมอยู่ในลำห้วยแม่กองคาเขตบ้านป่าเหวขึ้นมาได้สำเร็จ

ชาวบ้านหาปลาคลายทุกข์

สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่ 4 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100 ครอบครัว ระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ต้องขึ้นไปอาศัยอยู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ระดับน้ำยังคงไหลข้ามถนนเข้าหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านนำแหออกมาหาปลาคลายทุกข์ ขณะที่พระครูปลัดธนะโรจน์ ปัญญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) เจ้าอาวาสวัดหนองทอง หมู่ 11 ต.บ้านสวน อ.เมืองสุโขทัย พร้อมลูกศิษย์ นำข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มลงเรือไฟเบอร์เดินฝ่ากระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ช่วยกันดันให้เรือเข้าไปภายในวัดกำแพงงาม หมู่ 2 ต.บ้านกล้วย เพื่อนำสิ่งของไปถวายพระและแจกจ่ายให้แก่ญาติโยม

น้ำทะลักเข้า รพ.สุโขทัย

ที่ รพ.สุโขทัย กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมทุกด้านเนื่องจากอยู่ติดกับคลองระบายน้ำ ระดับน้ำสูงถึงเอว ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะวางแนวกระสอบทรายกั้นสูงถึง 5 ชั้น แต่น้ำยังทะลักเข้าไปในโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และประชาชนที่มาใช้บริการต้องนั่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปลงเรือกู้ภัยบริเวณริมถนน เพื่อไปส่งถึงแนวกระสอบทรายหน้าโรงพยาบาลแล้วเดินลุยน้ำเข้าไป ด้าน นพ.มาโนช อู่วุฒิพงษ์ ผอ.รพ.สุโขทัย กล่าวว่า เฝ้าติดตามระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำทะลักเข้าท่วมภายในโรงพยาบาลหมดแล้ว การเดินทางเข้าออกอาจมีปัญหาบ้าง แต่ยังให้บริการตามปกติ ส่วนที่ถนนจรดวิถีถ่อง ต.บ้านกล้วย อ.เมือง ชาวบ้านเข้าไปช่วยรถกระบะจมน้ำไปครึ่งคัน พาคนขับรถออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย

“บิณฑ์” นำทีมช่วยชาวบ้าน

นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผจก.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู นำกำลังอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู กรุงเทพฯ พร้อมเรือท้องแบน- อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำเข้าสนับสนุนทีมกู้ภัยของอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลืออพยพประชาชน ภายในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สุโขทัย รวมถึงจัดตั้งโรงครัวสนามร่วมกตัญญู มีต้น-อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมปรุงสุกบรรจุกล่อง เพื่อนำไปแจกชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบเหตุอุทกภัยที่วัดคูหาสุวรรณ อ.เมืองสุโขทัย

ซ่อมพนังกั้นแม่น้ำวังทอง

ด้านนายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง จ.พิษณุโลก ว่าที่ ร.ต.อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายก อบจ.พิษณุโลก พร้อมทหารจากกองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กองทัพภาคที่ 3 ทหารกองบิน 46 และเจ้าหน้าที่ ปภ.จ.พิษณุโลก ช่วยกันลำเลียงกระสอบทราย และไม้ยูคาลิปตัสใส่เรือท้องแบนลำเลียงเข้าไปบริเวณพนังกั้นน้ำแม่น้ำวังทอง เพื่ออุดพนังกั้นน้ำแม่น้ำวังทองในพื้นที่หมู่ 1 บ้านวังประดู่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง ที่แตกยาวกว่า 7 เมตรเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ย. ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้านและบ้านเรือนประชาชนรวมทั้งพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 ต.วังพิกุล ได้รับความเสียหายและกำลังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ

ชาวบ้านหนีตายน้ำป่าทะลัก

ที่น้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร น้ำสีแดงขุ่นและไหลเชี่ยวเข้าท่วมพื้นที่ อ.ปางศิลาทอง-อ.คลองลาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชรเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำป่าเข้าซัดเข้าไปในบ้านและเร่งอพยพคนออกจากพื้นที่ รวมถึงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข ไก่ เป็ด แพะ และหมูลำเลียงขึ้นไปที่สูง พื้นที่บางจุดน้ำสูงมิดหัว เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ 5 ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร น้ำเข้าท่วมบ้านเสียหายกว่า 300 หลัง ส่วนที่สะพานข้ามแม่น้ำแม่วงก์ หมู่ 5 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี เกิดทรุดตัวถนนถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ ปภ.นำแผงเหล็กมากั้นห้ามผ่าน

พักอาศัยอยู่ที่เต็นท์ข้างทาง

ชาวบ้านพื้นที่หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ อาศัยอยู่ริมถนนชุมแสง-หนองบัว ต่างรีบขนของใช้นำมาวางไว้ที่ถนน เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นนำเต็นท์มาตั้งไว้ให้ เพื่อให้ชาวบ้านพักอาศัยชั่วคราวจนกว่าระดับน้ำจะลดลง ด้านนายวินิจ ประสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า น้ำป่าที่หลากมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ย. ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้ชาวบ้านขนข้าวของขึ้นมาอยู่ที่เต็นท์ข้างถนนก่อน ระดับน้ำสูงถึงหน้าอก 1.2 เมตร บ้านเรือนจมน้ำกว่า 20 หลัง

ร่วมแรงโกยทรายใส่กระสอบ

ส่วนมวลน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลถึงเขตพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์แล้ว โดยเฉพาะชุมชนตลาดสดท่าตะโก ที่ว่าการอำเภอท่าตะโกและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบ ระดับน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า ส่วนบ้านเรือนในพื้นที่ ต. ท่าตะโก น้ำท่วมสูงถึงเอว ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบที่เทศบาลตำบลท่าตะโก เพื่อนำไปทำแนวป้องกันน้ำท่วมเข้าบ้านเรือน ส่วนนายไพสิษฐ์ กาบทอง กำนัน ต.พรหมนิมิต อ.ตาคลี นำเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยพรหมนิมิต เข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่ถูกน้ำท่วมที่หมู่ 8 บ้านกกกว้าว และหมู่ 7 บ้านโพธิ์คอย ยกสิ่งของและขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าออกจากบ้านไปเก็บไว้ที่สูง

อ่างเก็บน้ำพรมทะลักท่วม 5 ตำบล

ด้านภาคอีสานสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องติดกัน 3 วัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำจากเขื่อนห้วยกุ่มและจากเทือกเขาภูเขียวสูงขึ้นมากไหลเข้าอ่างเก็บน้ำพรม ต.โนนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ปริมาณน้ำวัดได้ 5.493 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 159.95 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง 3.434 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร 5 ตำบล ประกอบด้วย โนนทอง กุดเลาะ บ้านยาง บ้านหัน และบ้านเป้า เสียหายกว่า 2 พันไร่ คณะผู้บริหารเขื่อนจุฬาภรณ์ลงพื้นที่ติดตามสภาพน้ำท้ายเขื่อนห้วยกุ่ม พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและน้ำดื่มช่วยเหลือชาวบ้าน

ขนโลงศพเตรียมไปสวด

ส่วนที่ตัวเมืองชัยภูมิกลายเป็นเมืองบาดาล การนำผู้เจ็บป่วยส่งรักษาตัวในโรงพยาบาลชัยภูมิเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่สร้างสะพานไม้เป็นทางยาวเพื่อขนย้ายรับส่งผู้ป่วยและญาติ ตั้งแต่ถนนด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปยังภายใน รพ.ชัยภูมิ ญาติผู้ป่วยเสียชีวิตบางรายขนโลงเคลื่อนญาติไปสวดบำเพ็ญกุศลกันอย่างทุลักทุเล ระดับน้ำสูงถึงเอว ด้านนายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ สั่งการให้รถดับเพลิงพร้อมรถบรรทุก 6 ล้อของเทศบาลเมืองชัยภูมิ ระดมขนย้ายประชาชนหลายชุมชนที่น้ำท่วมบ้านเรือนชั้นล่างอาศัยอยู่ไม่ได้ เร่งอพยพชาวบ้านไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว คาดว่าผลกระทบการถูกน้ำท่วมโซนเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิ ช่วง 4 วันที่ผ่านมา สร้างความเสียหายไปแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท

ผวจ.โคราชโต้อ่างไม่แตก

จากเหตุอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง จ.นครราชสีมา ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแตกความกว้างกว่า 10 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลทะลักลงมาพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.โนนสูง อ.เมือง และ อ.ด่านขุนทด เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนชาวบ้านเฝ้าระวังหวั่นเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ด้านนายกอบชัย บุญอรณะ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลน้ำไหลเข้าในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน และมวลน้ำไหลมายังอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง ทำให้กรมชลประทานจำเป็นต้องเปิดช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างเพิ่มเติมจากเดิมเพื่อระบายน้ำออกเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากอ่างเก็บน้ำแตกหรือเสียหายจากน้ำแต่อย่างใด ช่องระบายน้ำที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเท่านั้น เนื่องจากน้ำเกินความจุของอ่าง ที่ผ่านมาปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรเกินความจุมาก่อนแล้ว และระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง มวลน้ำที่มากขึ้น หากไม่เปิดช่องระบายน้ำเพิ่มเติม อาจจะทำให้สันเขื่อนเกิดความเสียหายได้

แจงเพิ่มช่องระบายน้ำ

ส่วนชลประทานจังหวัดนครราชสีมา แจ้งว่าเนื่องจากปริมาณน้ำจากพื้นที่ อ.ด่านขุนทด ไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง มีปริมาณมากจนเกินกว่าที่อ่างจะรับไหว ทำให้มวลน้ำกัดเซาะคันดินพนังกั้นน้ำจนพังลง เป็นการจงใจเพิ่มช่องระบายน้ำ ยืนยันไม่ใช่เขื่อนแตก ตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ พยายามปรับสมดุลน้ำให้เข้าออกเท่ากัน ต้องเพิ่มช่องทางการระบายน้ำ อนาคตมีแนวโน้มที่อาจเพิ่มช่องระบายน้ำอีก แต่ไม่ใช่เขื่อนแตก โดยมวลน้ำได้ไหลลงไปพื้นที่ด้านล่าง นอกจากนี้ มวลน้ำบางส่วนยังล้นออกทางสปิลเวย์ประตูระบายน้ำฉุกเฉินของอ่างด้วย

โวย “อ่างแตก” ไม่แจ้งเตือน

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง แห่กันไปดูการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำกันเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การระบายน้ำออกในแบบที่ไม่สามารถควบคุมการหยุดระบายได้ รวมถึงการที่พนังกั้นน้ำพังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยชาวบ้านเรียกกันว่า “อ่างแตก” ถ้าหากอยู่ในแผนการระบายน้ำ น่าจะแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำให้เตรียมความพร้อม แล้วให้เริ่มอพยพไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นค่อยดำเนินการระบายน้ำ

อ่างแตกหนักเป็นช่องโหว่

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 โคราช นำโดรนขึ้นไปบันทึกภาพสถานการณ์น้ำในอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง บริเวณจุดที่มีมวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักล้นแนวคันดิน หน้าประตูระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง น้ำล้นท่วมแนวคันดินเกือบทั้งหมดแล้ว เทียบกับจากเดิมเป็นช่องกว้าง 10 เมตรเท่านั้น ก่อนมวลน้ำไหลฝ่าแนวคันดินชั้นที่ 2 ด้านข้างประตูระบายน้ำกลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ มวลน้ำไหลทะลักรุนแรงลงสู่พื้นที่ด้านล่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักกินพื้นที่กว้างขวาง ขณะเดียวกัน มวลน้ำที่ระบายลงด้านล่างวันละกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร หรืออัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลหลากท่วมถนนหนทางทางเชื่อมหลายหมู่บ้านใน อ.โนนไทย และ อ.พระทองคำ รวมทั้งถนนสายหลักโนนไทย-พระทองคำ เขตชุมชนพื้นที่ตลาด ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ รถยนต์สัญจรผ่านยากลำบาก บางจุดถนนถูกตัดขาดชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนมากสถานการณ์น่าเป็นห่วง

สังเวยกระแสน้ำเชี่ยว 1 ศพ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านลำห้วยทะลุ ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ว่า เด็กจมน้ำในฝายกั้นน้ำใกล้หมู่บ้าน ไปตรวจสอบพร้อมนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่งมหากว่า 1 ชม. กระทั่งพบศพ ด.ช.ชูศักดิ์ ภูมิพักตร์ อายุ 13 ปี สอบถามญาติทราบว่า เด็กในหมู่บ้านชวนกันไปเล่นน้ำ ขณะนั้นกระแสน้ำแรงมวลน้ำไหลมาจำนวนมากซัดร่างจมหายไป

แจ้งท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเฝ้าสังเกต

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ภาคกลาง ที่ชุมชนวัดมะปราง ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำท่วมสูงระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านอพยพมาอยู่ที่เต็นท์และเพิงพักริมถนนชัยนาทอินทร์บุรี ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำเหนือจาก จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยวัดได้ 2,439 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้น 10-15 ซม. วัดได้ +16.84 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ +15.53 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่พื้นที่ท้ายเขื่อนยังคงต้องเฝ้าสังเกตระดับน้ำและประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

สิงห์บุรีเตรียมรับมวลน้ำ

นายณรงค์ศักดิ์ วิงวอน นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสิงห์บุรีและคณะครูในสังกัดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี และทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ 1 จ.ลพบุรี ร่วมกันกรอกกระสอบทราย เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ปริมาณน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เร่งนำกระสอบทราย ไปเรียงแนวถนนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชุมชนบ้านบางแคใน-ชุมชนบ้านบางแคนอก และชุมชนบ้านบางกระบือระยะทาง 2 กม. และนำไปอุดท่อระบายน้ำ ภายในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำในท่อออก เช่นเดียวกันที่ จ.อ่างทอง วางแนวกระสอบทรายริมแม่น้ำเจ้าพระยา กั้นน้ำเข้าพื้นที่เศรษฐกิจ

อุทัยฯ น้ำป่าทะลัก

จ.อุทัยธานี สถานการณ์น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ยังคงไหลบ่าลงสู่แม่น้ำตากแดดอย่าง ต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงนี้ในพื้นที่มีฝนตกชุกอย่างหนัก ทุกวัน ส่งผลให้มวลน้ำดังกล่าวทะลักเข้าท่วมพื้นที่รับน้ำโดยรอบเพิ่มเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน ล่าสุดระดับน้ำล้นท่วมสะพานเส้นทางหลักของชาวบ้านหมู่ 3 ต.โคกหม้อ ระดับน้ำ สูงถึงหัวเข่า เจ้าหน้าที่แขวงการทางนำป้ายมาปิดเส้นทาง ไม่ให้รถผ่าน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 200 หลัง

พบศพหนุ่มใหญ่ริมคลอง

ส่วนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ราษฎรหนักสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านหลายพันคน และสัตว์เลี้ยง ไปยังที่สูงให้ปลอดภัย ล่าสุด พบศพนายสุทธิชัย สังสารวัฎ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ถูกกระแสน้ำซัดหายไปตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ไปพบอยู่ในกอหญ้า ริมคลอง ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริโยธรรมสถานบ้านหมี่ นำกำลังไปช่วยชายถูกกระแสน้ำซัดตกถนน บ้านหมี่-โคกสำโรง พบนายเมธี เลี้ยงถนอม อายุ 39 ปี ลอยคออยู่ในน้ำ เร่งโยนเชือกพร้อมห่วงยาง ช่วยชีวิตได้อย่างปลอดภัย ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ ป่าสักในพื้นที่ จ.ลพบุรี ขณะนี้ระดับน้ำป่าสักไหลลงมาจาก อ.วิเชียรบุรี และ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เพิ่มล้นตลิ่งในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ที่ ต.บัวชุม ต.ท่ามะนาว ต.ท่าดินดำ และ ต.ลำนารายณ์ ระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของมีค่า และสัตว์เลี้ยงไปไว้ยังที่ปลอดภัย

วางแนวกั้นวัดไชยวัฒนาราม

ที่วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรี อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ ยกแผ่น เหล็กหรือแผ่นบังเกอร์ป้องกันน้ำท่วมแบบสำเร็จรูป โดยแผ่นบังเกอร์ความสูง 1.90 เมตร กว้าง 1.20 เมตร รวม 138 แผ่น ซ่อนอยู่ในแนวฐานเขื่อนถาวร ทำจากอิฐและปูนสูงกว่า 50 ซม. ยาวตลอดแนวลำน้ำเจ้าพระยา 165 เมตร ที่หน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด สำหรับวัดไชยวัฒนาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.พระนคร ศรีอยุธยา มีนักท่องเที่ยวนิยมแต่งชุดไทยมาเที่ยวและ ถ่ายรูป หลังจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมาถ่ายทำ ละครออกอากาศทางช่อง 3 ทำให้นักท่องเที่ยวให้ ความสนใจเข้าย้อนรอยอดีตเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านในชุมชนริม 2 ฝั่งคลอง น้ำท่วมสูงถึงเอว ชาวบ้านต้องนำรถยนต์ และรถ จยย.ขึ้นไปจอดบนสะพานหนีน้ำ วัดหลายแห่ง ถูกน้ำท่วมโดยรอบ

กรมศิลปากรป้องโบราณสถาน

นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า รับรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน 2,500 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณโดยรอบพื้นที่อุทยานฯมีระดับสูงขึ้นจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ประมาณ 30 ซม. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามมีระดับสูงกว่าสันเขื่อน 20 ซม. วัดธรรมารามระดับน้ำเสมอสันเขื่อนโดยอุทยานฯได้ช่วยกันติดตั้งแผงป้องกันน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ โบราณสถานอื่นๆที่ตั้งอยู่ริมน้ำ และอาจได้รับผล กระทบจากน้ำท่วมนั้น สำนักศิลปากรที่ 3 พระนคร ศรีอยุธยาและอุทยานฯ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันแล้ว ติดตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมที่โบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกส และโบราณสถานวัดกษัตราธิราชวรวิหาร มีระดับน้ำต่ำกว่าสันเขื่อน 40 และ 50 ซม. ตามลำดับ ในส่วนของโบราณสถานที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแห่งอื่นๆ เช่น โบราณสถานวัดเชิงท่า และโบราณสถานป้อมเพชรซึ่งมีระดับสูงกว่า จะดำเนินการทำแนวป้องกันน้ำอย่างเร่งด่วนเช่นกัน

อบจ.ปทุมธานีลอกคลองรอรับ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง “บิ๊กแจ๊ด” นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ปทุมธานีว่า ขอความร่วมมือจากกรุงเทพฯ อย่าปิดประตูน้ำทั้งหมด โดยเฉพาะที่คลองสามวา เพราะถ้าผันไม่ได้จะท่วมทุ่งรังสิตทั้งหมด ในพื้นที่มีหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมากชาวบ้านจะเดือดร้อน ดังนั้นขอฝากกรมชลประทานไว้ด้วย ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อบจ.ปทุมธานี เร่งลอกคลองทั้งหมดตั้งแต่คลอง 1-12 ช่วยกำจัดวัชพืชผักตบชวาไม่ให้มีโดยเด็ดขาด เพื่อจะเร่งระบายน้ำได้เร็วที่สุด เชื่อว่า ปีนี้พี่น้องชาวปทุมธานีจะต้องไม่เกิดอุทกภัยแบบปี 54 โดยเด็ดขาด

วางแผนน้ำเมืองนนท์

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขาฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นาย สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.นนทบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เดินทางเข้าตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำหน้ามัสยิดท่าอิฐ หมู่ 10 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นดูแผนที่แนวตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา และหารือกับผู้นำท้องถิ่น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า จ.นนทบุรี มีพื้นที่ที่เว้นช่วงการก่อสร้างเเนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกจำนวน 10 จุด หลังจากนี้จะผลักดันงบประมาณประจำปี 2567-2568 เป็นจำนวนเงินกว่า 3 พันล้านบาทให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำรอยเหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา และในส่วนของการดูแลต่างๆ ขอบอกกับพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำว่า หากได้รับผลกระทบจากปัญหาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ภาครัฐจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ และดูแลในเรื่องของความเดือดร้อนตลอด 24 ชม.

“นิพนธ์” ลงพื้นที่หาดใหญ่

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมว.มหาดไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ที่ประตูระบายน้ำบ้านหน้าควน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาเข้าสู่คลองระบายน้ำภูมินาถดำริหรือคลอง ร. 1 ก่อนระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นช่วงฤดูน้ำหลากของภาคใต้ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่ตัวเมือง อ.หาดใหญ่ มั่นใจว่าปีนี้น้ำไม่ท่วมเนื่องจากคลองระบายน้ำ ร.1 อยู่ระหว่างการปรับปรุงขยายคลองและแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 91.5 สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากปริมาณน้ำไม่มากไปกว่าปี 2553

กรมชลฯแจ้งน้ำในเขื่อน

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชล ประทาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 49,111 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุอ่างรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 25,180 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้รวมกันอีก 26,970 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,648 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 4,952 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้รวมกันอีกประมาณ 13,223 ล้าน ลบ.ม.

นายกฯห่วง ปชช.ระดมช่วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ถึงสถานการณ์อุทกภัยจากผลกระทบพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า ในระยะนี้ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” แม้ปัจจุบันจะลดระดับความรุนแรงลง แต่ยังคงมีฝนกระจายหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีมวลน้ำสะสมหลายจังหวัด อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้ รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ย.มีข้อสั่งการต่อกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.) จัดทำแผนรับมือน้ำท่วมระดับประเทศ และถ่ายทอดคำสั่งไปยังศูนย์ ปภ.จังหวัด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติการได้ทันทีในพื้นที่เสี่ยงภัย 24 ชั่วโมง ด้วยชุดปฏิบัติการจากหน่วยราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ อาสาสมัครและประชาชนจิตอาสาเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ตลอดจนจัดตั้งโรงครัวพระราชทานจากพระมหากรุณาธิคุณ แจกจ่ายถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน หากสถานการณ์มีแนวโน้มไม่ปลอดภัย ทาง ปภ.ของพื้นที่จะอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิง ที่จัดเตรียมไว้อย่างทันท่วงที โดยให้ฝ่ายปกครอง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ ตามมาตรการสาธารณสุขป้องกันโควิด-19

ทำแผนฉุกเฉิน กทม.-ปริมณฑล

นายกฯระบุด้วยว่า เตรียมแผนป้องกันและรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นกับจังหวัดอื่นๆทางตอนล่างของประเทศ รวมถึงเขต กทม.และปริมณฑล ส่วน จ.สุโขทัย เป็นจุดบรรจบลุ่มน้ำยม-น่านตอนล่าง ลักษณะเป็นแอ่งกระทะมักจะมีน้ำล้นตลิ่ง และเข้าท่วมขังเป็นเวลานาน เมื่อมีพายุได้รับผลกระทบสูง มอบหมายให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะกรมชลประทาน เร่งระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบนเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำและแม่น้ำยม พร้อมกำชับให้แก้ปัญหาน้ำท่วมใน จ.สุโขทัยอย่างยั่งยืนตามแผนงานรัฐบาล ระยะสั้นเน้นพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก ระยะกลางเน้นปรับปรุงลำน้ำที่ตื้นเขิน ปรับปรุงคลองระบายน้ำรอบเมืองสุโขทัย ระยะยาว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จะขับเคลื่อนปรับปรุงคลองหกบาท คลองยม-น่าน ให้ระบายน้ำได้ดีขึ้น พัฒนาแก้มลิงทะเลหลวง และแก้มลิงวังทองแดงเติมน้ำใต้ดินจากน้ำท่วมขังบริเวณบางระกำ จะทำให้ปัญหาอุทกภัยของ จ.สุโขทัยลดน้อยลงในอนาคต

น้ำยังไม่กระทบ กทม.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดฝนตกทั่วทั้งประเทศ และตกหนักบางแห่ง ซึ่งรวมถึง กทม.และปริมณฑลด้วย ฝนที่ตกหนักในจังหวัดภาคกลางทางตอนบนของ กทม. อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ไหลผ่าน กทม. มีระดับสูงเพิ่มมากขึ้น สมทบกับระดับที่สูงขึ้นจากฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ ทำให้ปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จะไหลผ่าน กทม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,400-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กทม. อยู่ที่ระดับ 1.55 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร อยู่ ประมาณ 1.45 เมตร ยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่ กทม. และยังต่ำกว่าระดับน้ำในปี 54 ที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 2.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง