ชาวแฟลตดินแดงส่ง ตัวแทนแจ้งความ 3 ข้อหา ดำเนินคดีกลุ่มวัยรุ่นป่วน แยกดินแดง โวยตำรวจ ไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ยันไม่มีคนอาศัยในแฟลตร่วมก่อเหตุเพราะถูกทำร้ายด้วย “น.1” มาเจรจาเอง ทำข้อตกลงห้ามให้ที่หลบซ่อนกลุ่มคนนอกที่ก่อเหตุ ตำรวจ ปอท. ซุ่มออกหมายบุกจับ นศ.สาว แอดมินเพจ กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฝากขังศาลทันที “ณัฐวุฒิ” แถลงคาร์ม็อบ “ขับรถยนต์ชนรถถัง 19 ก.ย.” รำลึกลุงนวมทอง สตาร์ตแยกอโศกมนตรีจบที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ส่วนม็อบอิสระ-ทะลุแก๊ส ประกาศรวมพลวันเดียวกันแยกดินแดง บุกบ้าน “บิ๊กตู่” ราบ 1 “ก้าวไกล” แถลงผลตรวจสอบ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ปมยิง 2 ม็อบเยาวชน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด 54 ตัว พบชายต้องสงสัยเป็นมือปืน ก่อเหตุนาน 8 นาที ไม่กลัว ตำรวจ ยันมีการใช้ความรุนแรงจริง ขณะที่แม่เด็ก ที่ยังโคม่าโวยคดีไม่คืบ
กรณีความเคลื่อนไหวทางการเมืองขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ของม็อบทะลุแก๊สบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เกิดเหตุปะทะกับตำรวจ คฝ.รายวัน ความคืบหน้าจาก สน.ดินแดง เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ก.ย. กลุ่มชาวแฟลตดินแดงราว 100 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการปาประทัดยั่วยุตำรวจ คฝ. ของกลุ่มวัยรุ่นเข้าเรียกร้อง พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ช่วยเหลือประสานงานและหามาตรการป้องกันการรวมตัวของวัยรุ่น เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตตลอด 1 เดือน นางเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า ตั้งแต่มีการรวมตัวของวัยรุ่นชาวแฟลตดินแดงที่ไม่เห็นด้วยต้องยอมอดทนอดกลั้น เพราะเคารพสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ยิ่งนับวันเหตุการณ์ยิ่งบานปลาย เริ่มใช้อาวุธหนัก ส่อเจตนาไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย สร้างความปั่นป่วน จากเคยชุมนุมแค่ 2-3 ทุ่มตอนนี้ขยับไปตี 1-2 ลูกหลานนอนไม่ได้ ชาวแฟลตบางคนถูกไล่ทำร้าย
ต่อมา พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ออกมาพบชาวบ้าน ขอให้ทุกคนใจเย็น หากได้รับผลกระทบสามารถแจ้งความตามกฎหมาย ยืนยันตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลยหาทางจัดการกับปัญหานี้ต่อเนื่อง หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านมอบหมายให้ตัวแทน 3 คนเข้าแจ้งความ พ.ต.ท.ธราธิป จันทร์มณี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดินแดง แบ่งเป็นผลกระทบทางเสียง ผลกระทบจากทรัพย์สินเสียหาย และผลกระทบจากการถูกทำร้ายร่างกาย
วันเดียวกัน นายอดิศร โพธิ์อ่าน ฐานะตัวแทนประชาชน คนดินแดง-ห้วยขวาง เข้ายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าเร่งรัดคดีกับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. โดยมี พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ร่วมรับหนังสือ นายอดิศรกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายภูวดล ประสิทธิ์ มาแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 10 คน ที่รุมทำร้ายพร้อมนายชนชิต จันทร์ทัด ด้วยอาวุธมีดและไม้ ขณะขี่รถ จยย.กลับบ้าน ตั้งแต่ปากซอยสุทธิพร 1 ไปบนสะพานข้ามแยกถนนพระราม 9 ก่อนวิ่งหนีไปบนสะพานได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืน 1 ครั้ง ทำให้นายภูวดลบาดเจ็บที่ศีรษะและแขนจากของมีคม ส่วนนายชนชิตพลัดตกจากสะพานพระราม 9 กระดูกขาทั้ง 2 ข้างและกระดูกสะโพกหักอาการสาหัส
ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.มายัง สน.ดินแดง พบประชาชนกลุ่มดังกล่าว ประชุมหารือเป็นเวลา 1 ชม. พล.ต.ท.ภัคพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามแก้ไขปัญหาเรื่อยมา แต่ตำรวจมีข้อจำกัดการทำงาน เนื่องจากหลังก่อเหตุหลบหนีเข้าที่พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมได้ ขณะที่ชาวบ้านยืนยันเช่นกันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนนอกพื้นที่ไม่ใช่คนในละแวกนี้ เมื่อได้ประเด็นปัญหาตำรวจตัดสินใจประชุมหารือร่วมกับผู้พักอาศัยย่านดินแดง เพื่อแยกผู้พักอาศัยออกจากผู้ชุมนุม พร้อมขอความร่วมมือผู้พักอาศัยย่านดินแดงอย่าเปิดรับบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ช่วงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเด็ดขาด
เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รองผกก.3 บก.ปอท.นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ ค.403/2564 ลงวันที่ 17 ก.ย.ตรวจค้นบ้านเลขที่ 114/41 หมู่บ้านนวลตอง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่พักแกนนำกลุ่มชุมนุมทางการเมืองพบ น.ส.นิราภร อ่อนขาว อายุ 20 ปี นศ.ปี 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามหมายจับศาลอาญาความผิดตาม ม.116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(3) ยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดี พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผกก.3.บก.ปอท.เผยว่า หลังจากสอบปากคำจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลอาญาทันที พร้อมค้านการประกันตัว
ที่ศาลอาญา ตำรวจ บก.ปอท.นำตัว น.ส.นิราภร อ่อนขาว มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก คำร้องบรรยายว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.พนักงานสอบสวนจับกุม น.ส.นิราภรกล่าวหาว่ากระทำด้วยประการใดๆเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง และการก่อการร้ายกับข้อหาอื่น ผู้ต้องหาปฏิเสธ พฤติการณ์เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ผู้ต้องหาเปิดเฟซบุ๊กชื่อแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ปลุกระดมประชาชนร่วมการชุมนุมประท้วงรัฐบาล เป็นการชุมนุมโดยไม่ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด และไม่ได้ชุมนุมโดยสันติวิธี เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต่อมาตรวจค้นบ้านเลขที่ 114/41 หมู่ 18 หมู่บ้านนวลตอง จ.ปทุมธานี พบผู้ต้องหาจึงแสดงหมายจับ ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมาย ตรวจค้นยึดของกลางหลักฐานหลายรายการ การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานอีก 10 ปาก รอผลพิสูจน์ต่างๆ ขอฝากขัง 12 วันตั้งแต่วันที่ 17-28 ก.ย.คัดค้านประกันตัว ล่าสุดศาลให้ประกันตัว วงเงิน 25,000 บาท
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) วันเดียวกัน พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 ฐานะโฆษก ภ.4 เผยว่า สืบเนื่องจากกรณีวันที่ 13 ก.ย.เวลา 02.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจาก รพ.ศรีนครินทร์ว่ามีคนร้ายก่อเหตุวางเพลิงเผาซุ้มป้ายเฉลิมพระเกียรติฯหน้าโรงพยาบาลเสียหาย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 สั่งชุดสืบสวนสอบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิด หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุ 2 คน ช่วงเช้าที่ผ่านมา (17 ก.ย.) นำหมายเข้าตรวจค้นห้องพักจับกุมผู้ก่อเหตุคือนายเจมส์ (นามสมมติ) ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.181/2564 และนายบอส (นามสมมติ) ตามหมายจับที่ จ.182/2564 ลงวันที่ 16 ก.ย. ข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ พร้อมยึดรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน กร-3740 อุบลราชธานี ให้การปฏิเสธ
ที่ศูนย์ข่าวยูดีดี อาคารเอเวอร์รี่มอลล์ จ.นนทบุรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงจัดชุมนุมคาร์ม็อบ “ขับรถยนต์ชนรถถัง 19 ก.ย.” ว่า วัตถุประสงค์หลักไม่เพียงแค่การรำลึก 15 ปีรัฐประหาร 19 ก.ย.49 แต่เน้นว่าการรัฐประหาร 19 ก.ย. และ 22 พ.ค.57 จนถึงการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือเรื่องเดียวกัน สังคมไทยตกอยู่ในละครนี้มา 15 ปี ต่างกันแค่ตัวแสดง คาร์ม็อบครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่แสดงพลัง แต่แสดงให้ประชาชนที่ต่อสู้มาตลอด 15 ปี ยังมีพลังมุ่งมั่นนำพาประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย วันนัดหมายจะพร้อมกันที่แยกอโศกเวลา 14.00 น. หัวขบวนหันหน้าไปทางพระราม 4 ท้ายขบวนตั้งอยู่ที่ถนนอโศกมนตรี 15.00 น.เคลื่อนขบวนไปยังแยกพระราม 4 ข้ามสะพานกรุงเทพเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าเข้าถนนราชดำเนินกลาง ในขบวนมีรถยนต์ จักรยานยนต์ และแท็กซี่ เนื่องจากรำลึกวีรกรรมนายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่ขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถัง จุดหมายอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่มีเวทีปราศรัยแต่แสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าประชาธิปไตยประเทศนี้ถูกคลุมถุงดำมา 15 ปี แสดงสัญลักษณ์ขับรถยนต์ชนรถถังเพื่อต่อต้านเผด็จการ ยุติการชุมนุมประมาณ 18.00 น.
เฟซบุ๊กเพจ “ทะลุแก๊ส-Thalugas” ผู้ติดตาม 11,493 คน หนึ่งใน 4 เพจหลักบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่เผยแพร่ข้อมูลการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นทะลุแก๊สที่แยกดินแดง แชร์ข้อความกลุ่ม “ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการประยุทธ์” ใจความว่า ทะลุแก๊สช่วยกระจายข่าวนัดรวมพลวันที่ 19 ก.ย. เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของประชาชน กลุ่มต่อต้านรัฐบาลและแนวร่วมประชาธิปไตยทั้งหลายที่จะรวมพล มุ่งหน้าไปราบ 1 เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ทรราชประยุทธ์ จันทร์โอชา หดหัวแอบตัวเองอยู่ในค่ายทหาร กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการประยุทธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคนร่วมเดินขบวนไปด้วยกัน พร้อมทั้งตะโกน “ทรราช ออกไป ประยุทธ์ ออกไป ปรสิต ออกไป” จุดรวมตัวแยกสามเหลี่ยมดินแดงเวลา 17.30-20.30 น. ร่วมกันขับไล่ทรราชและกำจัดปรสิตบ้านเมืองให้หมดไป การเสียสละควรค่าต่อเมื่อเราเสียสละเพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างให้ดีขึ้น #ม็อบ19กันยา #ทะลุแก๊ส
ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ประธาน กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คณะทำงานศึกษากรณีความรุนแรงระหว่างชุมนุมทางการเมือง แถลงผลการศึกษาความรุนแรงระหว่างชุมนุมวันที่ 16 ส.ค. ด.ช.ธนพล (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ถูกยิงปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าหัวไหล่ และ ด.ช.วาฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดง กระสุนเข้าคอฝังใกล้แกนสมองโคม่า มีมารดา ด.ช.วาฤทธิ์ ร่วมแถลง พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า คณะทำงานรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด 54 ตัว สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง วงจรปิด กทม.แยกโรงกรองน้ำเวลา 20.34 น.วันที่ 16 ส.ค.จับภาพกลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ 12 คน ชุดไปรเวต จอดรถปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 เข้าทำร้ายผู้ชุมนุม โดยเฉพาะชายเสื้อสีอ่อนกางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้าง มือหนึ่งถือปืน อีกมือใช้ไม้ไล่ฟาด เวลา 20.38 น.ชายชุดดำวิ่งมาพร้อมเล็งปืนยิงไปทางกลุ่มคนริมถนน คาดว่าคือผู้ยิง ด.ช.ธนพล เวลา 20.42 น. กล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่ จยย.เข้าซอยประชาสงเคราะห์ 21 ไปหลัง สน.ดินแดง
พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวต่อว่า เวลา 20.44 น. ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพ ด.ช.วาฤทธิ์วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรีมุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ ก่อนถูกยิงล้มลงมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง ทิศทางยิงมาจากซอยหน้า สน.ดินแดง ซึ่งไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ เนื่องจากปากซอยถูกตำรวจกั้นรั้วกีดขวางกันผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมเผาสิ่งของที่รั้วเป็นไฟกองใหญ่ กล้องวงจรปิดยังจับภาพชายเสื้อสีอ่อน กางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้างยืนอยู่ปากซอย ทิศทางที่กระสุนถูกยิงไปยัง ด.ช.วาฤทธิ์ ชายคนดังกล่าวแต่งกายใกล้เคียงกับชายที่ปรากฏในเหตุยิง ด.ช.ธนพลอย่างมาก คณะทำงานตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย คณะทำงานสืบหาหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า มีการใช้ความรุนแรงบริเวณจุดเกิดเหตุจริง แต่ผ่านมา 1 เดือนตำรวจกลับไม่ออกมาชี้แจง ด้านมารดา ด.ช.วาฤทธิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันนี้น้องยังอยู่ที่โรงพยาบาล ตนยังไม่ได้รับความคืบหน้าคดี ไม่อยากให้เรื่องเงียบ