จับตาพรุ่งนี้ ศบค.ชุดใหญ่ เคาะปลดล็อกถอดหน้ากากอนามัยแบบสมัครใจ เพิ่มจังหวัดสีเขียว คลายล็อกผับ-บาร์-คาราโอเกะ เพิ่มความสะดวกเข้า-ออกประเทศ
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 17 มิ.ย. เตรียมเสนอประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย อาทิ การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่สีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด, ผ่อนคลายให้เปิดกิจการและสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้, ส่วนเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและมาตรการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างสะดวกมากขึ้น
เมื่อถามถึงการยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ได้พิจารณาเสนอให้ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวม
พล.อ.สุพจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเสนอให้มีปรับมาตรการที่เกี่ยวกับการเข้า-ออกประเทศ ด้วยระบบไทยแลนด์พาส ให้มีความสะดวกมากขึ้นและสอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก รวมถึงเอื้อต่อการจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายตามแนวชายแดน ทั้งที่เป็นจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่อนปรนทางการค้า รวมทั้งการท่องเที่ยวผ่านเรือสำราญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ด้วย
“ความสำเร็จในการเปิดประเทศ การเดินหน้าระบบเศรษฐกิจทุกระดับในประเทศ ตลอดจนการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างปลอดภัย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างสูงสุด หากประชาชน และองค์กรทุกภาคส่วนได้ตระหนักและร่วมมือกันดำเนินชีวิต ดำเนินกิจกรรมหรือกิจการ ภายใต้มาตรการและข้อแนะนำด้านสาธารณสุข ก็มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถอยู่กับโควิดได้และเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างปลอดภัย” พล.อ.สุพจน์ กล่าว