จับแล้ว! “นายกหนึ่ง” คนดังเมืองคอน ยิงลูกบ้านดับอ้างผ่านมาเจอจะช่วยส่งรพ.

จับแล้ว นายกหนึ่ง นายก อบต.คนดังเมืองคอน หลังถูกศาลออกหมายจับคดียิงลูกบ้านดับคาบ้าน ภรรยาคนตายออกมาเจอยืนอยู่กับลูกน้อง แต่อ้างว่าผ่านมาพบคนถูกยิง เลยจอดลงมาช่วยจะพาส่งรพ. ล่าสุดตำรวจให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 2 แสน ญาติวอนตำรวจทำคดีตรงไปตรงมา เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ต้องหาเป็นผู้กว้างขวาง

เวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.ย. 2565 ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสงค์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้อนุญาตให้ประกันตัว นายทรงศักดิ์ มุสิกอง หรือนายกหนึ่ง อายุ 46 ปี นายก อบต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายทรงศักดิ์ยังมีตำแหน่งเป็น กต.ตร.ประจำ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 6 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 344/2565 ลงวันที่ 19 ก.ย. 2565 ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งนายทรงศักดิ์ใช้หลักทรัพย์วงเงิน 2 แสนบาทประกันตัวออกไป โดยมีญาติๆ และทีมงานนำรถตู้มารับ ออกด้านหลังโรงพักหลบผู้สื่อข่าวไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นและ 9 มม. จำนวน 2 กระบอก ยิงนายยอดเพชร รอดศร อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 2/6 หมู่ 3 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากกลับมาจากงานศพญาติจาก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับ นางวาสนา ทองสุข อายุ 43 ปี ภรรยาและญาติ มาถึงบ้านแล้วภรรยาได้เข้าบ้าน ส่วนสามีได้ถอดเสื้อออกมานั่งเล่นหน้าบ้านได้ไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ภรรยาจึงวิ่งออกมาดูหน้าบ้านพบร่างนายยอดเพชรสามีนอนจมกองเลือดอยู่แล้ว และในที่เกิดเหตุได้พบนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งพร้อมพวกรวม 2 คนขับรถยนต์กระบะตอนครึ่งสีดำ เปิดไฟหน้ารถจอดอยู่ข้างร่างของสามี ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร ภรรยาจึงรีบเดินไปที่รถ เห็น นายทรงศักดิ์ มุสิกอง หรือนายกหนึ่ง ยืนท้ายรถยนต์กระบะด้านขวา และเห็นชายวัยรุ่นอีก 1 คนยืนท้ายกระบะด้านซ้าย กับมีชายวัยรุ่นอีก 1 คนยืนอยู่ท้ายรถยนต์กระบะ

ขณะนั้น นายทรงศักดิ์กับพวกจะพาร่างนายยอดเพชร(ต่อมาเสียชีวิต) ผู้ตายขึ้นรถยนต์กระบะของนายทรงศักดิ์ แต่ภรรยาผู้ตายเข้าใจว่าจะพาสามีไปซ้อมทำร้าย เพราะเข้าใจว่าถูกทำร้ายในตอนแรก จึงได้ยกมือไหว้ขอร้องขอชีวิตบอกนายทรงศักดิ์ ว่า อย่าทำผู้ตาย ผู้ตายมีลูก 4 คน แต่นายทรงศักดิ์บอกว่าผู้ตายถูกยิงจะพาไปโรงพยาบาล แต่ภรรยาไม่ให้พาไป นายทรงศักดิ์จึงบอกว่ามีตำรวจมาด้วย จากนั้นได้พาผู้ตายขึ้นรถ แล้วนางวาสนา ภรรยาผู้ตายขอไปด้วย นั่งด้านหลังกับผู้ตาย พร้อมกับชายวัยรุ่นอีก 1 คน ส่วนอีก 1 คน นั่งคู่ด้านหน้ากับนายทรงศักดิ์ โดยนายทรงศักดิ์เป็นคนขับ แต่ระหว่างทางนายทรงศักดิ์ได้จอดรถให้ลูกน้องที่นั่งท้ายกระบะลงระหว่างทาง 1 คน

จากนั้นเมื่อพานายยอดเพชรไปส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ส่งเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว นายทรงศักดิ์ก็ขับรถออกไปทันที โดยไม่ได้แจ้งเหตุเรื่องผู้ตายถูกยิงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ผู้ตายมีบาดแผลบริเวณหน้าอกและปลายคางเป็นรูพรุน และบาดแผลที่ชายโครงซ้ายอีก 2 แผล แพทย์ระบุบาดแผลน่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นและอาวุธปืน 9 มม.รวม 2 กระบอก ซึ่งแพทย์พยายามช่วยชีวิตสามีอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่รอด นายยอดเพชรสามีเสียชีวิตที่ รพ.มหาราชฯ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา

ต่อมา บ่ายวันที่ 19 ก.ย. 2565 พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานเหตุการณ์ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นนายก อบต.ปากนครและกต.ตร. จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสงค์ สว.(สส.), พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส. และตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ออกทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้าย จนกระทั่งตอนค่ำวันที่ 19 ก.ย. ทาง พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เชิญตัวนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นจังหวะที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอนุมัติออกหมายจับนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง ทาง พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ จึงนำหมายจับของศาลไปแจ้งข้อหาจับกุมนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง ทันที

เบื้องต้น นายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าขณะเกิดเหตุกำลังจะขับรถพร้อมลูกน้องไปดูนากุ้ง ผ่านไปเจอนายยอดเพชรถูกยิงได้รับบาดเจ็บพอดี จึงลงไปช่วยเหลือนำร่างนายยอดพชรส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเสียชีวิตเวลาต่อมา ซึ่งตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุตามที่เข้าใจกัน

ขณะที่ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจมีน้ำหนักพยานหลักฐานมากพอจึงอนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่งตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ต้องกลัวว่าตำรวจะเข้าข้างใคร โดยหลังออกหมายจับนายทรงศักดิ์แล้ว ตำรวจได้คุมตัวนายทรงศักดิ์เข้าห้องขังทันที พร้อมนำอาวุธปืน 9 มม.จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืน.380 จำนวน 3 กระบอก รวม 4 กระบอกของนายทรงศักดิ์มาทำการตรวจอย่างละเอียดแล้วและส่งตรวจหารอยเขม่าดินปืนที่มือนายทรงศักดิ์ด้วย ส่วนที่ตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวนายทรงศักดิ์ด้วยหลักทรัพย์ 2 แสนบาท เพราะเห็นว่าผู้ต้องหามีตำแหน่งหน้าที่การงาน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่หลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันตัวออกไปในเช้าวันนี้ (20 ก.ย.) สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน กำลังเร่งรวบรวบรวมหลักฐานเพื่อเสนอขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไปในเร็วๆนี้

ขณะที่ศพของ นายยอดเพชร รอดศร บ่ายวันนี้ (20 ก.ย.) หลังแพทย์ทำการผ่าชันสูตรศพแล้ว ทางนางวาสนา ทองสุข เมียและญาติๆ ได้รับศพนายยอดเพชร สามีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคีรีรัตนาราม หรือวัดเผียน หมู่ 6 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางญาติๆ มาร่วมรดน้ำศพด้วยความโศกศร้าเสียใจ โดยมีกำหนดฌาปนกิจศพนายยอดเพชรในวันที่ 26 ก.ย. 2565 ที่วัดเดียวกัน

นางวาสนา เมียผู้ตายกล่าวว่า ตนไม่เห็นขณะสามีถูกยิงว่าใครเป็นคนยิง เนื่องจากอยู่ในบ้านกำลังนั่งปัสสาวะในห้องน้ำ แต่พอได้ยินเสียงปืนดัง 3-4 นัดก็ตกใจรีบวิ่งออกมามาดูหน้าบ้าน พบร่างสามีถูกยิงเจ็บสาหัสแล้ว โดยมีนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง พร้อมพวกรวม 3 คนยืนในที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจออกหมายจับนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่ง ก็เชื่อว่าตำรวจน่าจะมีพยานหลักฐานมากพอที่จะออกหมายจับ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการทำคดีต่อไป อยากขอให้ความเป็นธรรมให้กับตนและครอบครัวด้วย เพราะขาดที่พึ่งเสาหลักของครอบครัวไปแล้วไม่รู้จะไปพึ่งใครนอกจากตำรวจ ส่วนผู้ต้อหาก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่จนไม่มีใครกล้าสู้กับบุคคลเหล่านี้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งจะได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่ง ต่อไป ทั้งนี้สาเหตุของเรื่องนี้น่าจะมาจากการที่นายทรงศักดิ์ เคยห้ามปราม นายยอดเพชร ไม่ให้จับปลาในบ่อปลาแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน แต่ห้ามไม่ฟัง จนกระทั่งต่อมานายยอดเพชรถูกยิงเสียชีวิต.