หนุ่มรองกรรมการผู้จัดการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อดัง คนขับรถเบนซ์ชนท้ายรถเก๋งฮอนด้าตาย 3 ศพบนทางด่วนขั้นที่ 2 ข้ามคลองแสนแสบ แขวงหัวหมาก ได้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนด้วยเงินสด 2 แสนบาท พร้อมไปขอขมาญาติผู้เสียชีวิต
จากกรณีศูนย์ควบคุมจราจร ทางด่วน 2 รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันมีผู้เสียชีวิต 3 รายบนทางด่วนขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยมี น.ส.อัจฉรา เข็มทอง อายุ 30 ปี เสียชีวิตที่นั่งเบาะคนขับ นายสมศักดิ์ จามจุรี อายุ 44 ปี เสียชีวิตที่นั่งเบาะข้างคนขับ และน.ส.ชวพร นวลสุวรรณ อายุ 30 ปี เสียชีวิตที่นั่งเบาะหลัง รถเก๋งฮอนด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฆษ 8497 กรุงเทพมหานคร บริเวณท้ายรถด้านหลังถูกชนพังยับเยิน
ส่วนรถที่ขับพุ่งเข้าชนท้ายคือรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีขาว ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ต 5448 กรุงเทพมหานคร มีนายจินทวัส หรือโบ๊ท พงศ์บางลี่ อายุ 33 ปี เป็นวิทยากรสร้างการเป็นพ่อค้าออนไลน์ และ เป็นรองกรรมการผู้จัดการผลิตภัณฑ์ยี่ห้อเครื่องสำอางชื่อดัง เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
หลังสอบสวนเบื้องต้น พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รอง ผกก.สน.ทางด่วน 2 ในฐานะหัวหน้าสถานี กล่าวว่า นายจินทวัส คนขับรถเบนซ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปรับประทานอาหารและดื่มสุราที่ร้านอาหารย่านรามอินทรา ขณะขับรถมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุนายจินทวัสขับอยู่ในเลนปกติไม่เห็นรถคู่กรณี มาเห็นก็ตอนรถคู่กรณีเปลี่ยนเลนกะทันหัน จึงพยายามเบรกแล้วแต่ไม่ทัน ส่วนรถเก๋งฮอนด้าคู่กรณียังไม่ทราบว่าปลายทางจะไปทางไหน แต่มีรายงานว่าจะไปที่จ.ชลบุรี นอกจากนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบสภาพถนนไม่มีลักษณะอันตราย เป็นถนนทางตรงที่กำลังจะขึ้นเนิน การขับขี่อาจจะต้องมีการเหยียบคันเร่ง
ต่อมา เวลา 13.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผู้กำกับการ งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน 2 กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายจินทวัส หรือโบ๊ท พงศ์บางลี่ อายุ 33 ปี แล้ว ทั้งนี้ นายจินทวัส ได้รับทราบข้อหาแล้ว และได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วว่านายจินทวัสไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและหลังรับทราบข้อกล่าวหาจะไปงานร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิต ทางพนักงานสอบสวนจึงพิจารณาให้ประกันตัว โดยผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 200,000 บาท
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผกก.สน.ทางด่วน 2 กล่าวว่า ตำรวจได้ดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถขณะมึนเมาสุรา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุไปสังสรรค์กับเพื่อนย่านรามอินทรามา และตอนเกิดเหตุนายจินทวัสไม่เห็นรถคู่กรณีมาก่อน กระทั่งมีการชน ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีมีฐานะทางสังคม แล้วจะมีผู้ใหญ่กดดันเรื่องคดี นั้น ขอยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้น จากการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบว่ามีจำนวน 99 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนเรื่องการตรวจสอบรถทั้ง 2 คันนั้น อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ส่วนเรื่องการเยียวยา ทราบว่าทางคู่กรณีได้มีการเจรจากัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป อาจต้องมีการนัดพูดคุยกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะต้องมาทำความเข้าใจกัน