โคราชอ่วมน้ำลำตะคองทะลักเข้าตัวเมืองท่วมโรงพยาบาล วัด และหน่วยงานราชการ ต้องขนของขึ้นที่สูงกันอลหม่าน ส่วนอ่างเก็บน้ำ 4 อ่างหลักเกินความจุแล้ว 3 แห่ง ชัยภูมิท่วมรอบ 2 เร่งสูบน้ำออกจากตัวเมือง ปราจีนน้ำทะลักสูงถึงหน้าอก สิงห์บุรีคันดินแตกน้ำเหนือหลาก นายกฯสั่งอุดรอยรั่วพร้อมจัดงบ 400 ล้านบาทสร้างเขื่อน ขณะที่ “ประวิตร” ตรวจเมืองกาญจน์รับมือภัยแล้ง
สถานการณ์น้ำท่วมยังขยายเป็นวงกว้างหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เทศบาลนครนครราชสีมา ปริมาณน้ำลำตะคองไหลผ่านโรงพยาบาลมหาราช ระดับน้ำในคลองสูงกว่าบริเวณรอบนอกโรงพยาบาล ทำให้น้ำดันเข้าไปยังท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำจากท่อส่งคืนลำตะคอง นอกจากนี้ ยังนำกระสอบทรายปิดกั้นจุดสำคัญภายในโรงพยาบาล และเตรียมขนย้ายเวชภัณฑ์ต่างๆขึ้นที่สูง ส่วนบริเวณถนนด้านหน้าทางเข้า รพ.มหาราชนครราชสีมา ระดับน้ำสูงขึ้นระยะทางประมาณ 500 เมตร รถเล็กสัญจรเข้าออกลำบาก เช่นเดียวกับที่หน้า รพ.เซนต์แมรี่ เกิดน้ำท่วมถนน เจ้าหน้าที่นำกระสอบมากั้นน้ำไม่ให้ทะลักเข้าไปภายใน
ส่วนที่วัดศาลาลอย ชุมชนวัดศาลาลอย และชุมชนท้าวสุระน้ำลำตะคองติดด้านหลังวัดเอ่อล้นเข้าท่วมภายในวัดศาลาลอยทั้งหมด ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า โดยเฉพาะเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี รวมทั้งรูปปั้นท้าวสุรนารี คุณย่าบุญเหลือ พระยาปลัดทองคำน้ำท่วมจนถึงฐานสักการะชั้นบน และน้ำท่วมเจดีย์บรรจุอัฐิ ส่วนโบสถ์หลังเก่าอายุหลายร้อยปีมวลน้ำล้อมรอบทั้งหมด ส่วนบ่อปลา เต่า และปลาไหลที่มีญาติโยมนำมาปล่อยหลายพันตัวหน้าอุโบสถหลังใหม่ สัตว์น้ำว่ายออกจากบ่อจนหมดไม่สามารถป้องกันได้ทัน ขณะเดียวกัน ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 4 อ่างหลักของจังหวัด คืออ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำลำแชะ และอ่างเก็บน้ำมูลบน ล่าสุดเกินปริมาณกักเก็บแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำมูลบน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลมาถึงเขตเทศบาลนครนครราชสีมาแล้ว คาดว่าจะส่งผลกระทบกับประชาชนตลอดแนวน้ำลำตะคองไหลผ่าน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันให้มวลน้ำระบายไหลผ่าน พื้นที่ออกไปโดยเร็ว คาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 วันน้ำจะลดลง ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 315 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 100% ของความจุเขื่อนที่ 314 ล้าน ลบ.ม. ยืนยันว่าขณะนี้เขื่อนลำตะคองยังไม่ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อน เพราะถึงแม้ปริมาณน้ำจะเต็มความจุแล้ว แต่เขื่อนออกแบบมาให้ยังสามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ชลประทานจะรอให้มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลผ่านเขตเมืองนครราชสีมาไปก่อน แล้วจะระบายน้ำออกจากเขื่อน
จากผลกระทบพายุ “คมปาซุ” พัดผ่านพื้นที่อีสาน ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยทราย และอ่างเก็บน้ำลำคันฉู อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ น้ำล้นสปิลเวย์ลงมาสมทบกับน้ำสาขาทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนใน ต.บ้านขาม ต.หนองโดน และ ต. กุดน้ำใส เป็นรอบที่สอง พระครูวรกิจ ปัญญาวุฒิ เจ้าอาวาสวัดคลองหว้า ต.บ้านขาม และชาวบ้านช่วยกันนำแคร่ไม้สร้างสะพานทางเดินชั่วคราวระยะทางกว่า 100 เมตร เพื่อให้พระออกไปรับบิณฑบาต ขณะเดียวกันมวลน้ำจำนวนมากไหลต่อมายัง ต.หนองโดน และต.กุดน้ำใส ทำให้ถนนสายเลี่ยง อ.จัตุรัส น้ำท่วมสูงถูกตัดขาด
สำหรับน้ำท่วมในระลอก 2 ที่ จ.ชัยภูมิ เกิด น้ำท่วมสร้างความเสียหายใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ภูเขียว อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.จัตุรัส อ.บำเหน็จณรงค์ อ.เทพสถิต และ อ.บ้านเขว้า หนักสุดใน อ.ภูเขียว และ อ.เกษตรสมบูรณ์ น้ำป่าไหลทะลักท่วมทั้ง 2 อำเภอ ขณะนี้น้ำท่วมในตัว อ.ภูเขียว เริ่มลดลงบ้างแล้วแต่ยังเหลือในพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่น่าเป็นห่วงอยู่ในพื้นที่ ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 5 หมื่นไร่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายกว่า 500 ครอบครัว ประชากรเดือดร้อนร่วม 1,000 คน ส่วนน้ำในเขื่อนลำประทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง น้ำล้นออกทางระบายน้ำสูง 20 ซม.ไหลลงสู่ลำประทาว มีมวลน้ำผุดขึ้นมาตามท่อระบายน้ำในเมืองชัยภูมิต่อเนื่อง น้ำท่วมผิวจราจรสายต่างๆในเมืองชัยภูมิ ชาวบ้านยังคงเฝ้าระวังป้องกันน้ำไหลเข้าบ้าน เทศบาลเมืองชัยภูมิเร่งเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 20 เครื่อง สูบน้ำออกจากตัวเมือง เพื่อไม่ให้น้ำผุดมาจากท่อระบายน้ำเอ่อท่วมในย่านเศรษฐกิจ
ที่ จ.ยะลา เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านเรือนริมตลิ่งบ้านศรีนคร หมู่ 3 ต.คีรีเขต อ.ธารโต พังเสียหาย 1 หลัง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันมาหลายชั่วโมง กระทั่งเกิดน้ำป่าไหลมาจากเทือกเขาสันกาลาคีรีไหลลงมาอย่างรวดเร็ว ด้านนายภักดี ศรีศาสนานนท์ นายอำเภอธารโต พร้อมด้วยนายปัจฉิมณรงค์ ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดป้องกัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านที่เกิดเหตุ ขณะนี้น้ำในคลองท้ายหมู่บ้านลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายทั้งหมด นำข้อมูลรายงานไปยัง ปภ. จังหวัดยะลา เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ที่ จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องและขยายเป็นวงกว้าง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำ รวมทั้งน้ำเอ่อเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน ประชาชนยังคงต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออก ส่วนที่ชุมชนตลาดเก่าระดับน้ำยังคงสูงขึ้น ทะลักเข้าชุมชนในเขตเทศบาลตลาดใหม่บริเวณชุมชนโรงสี-ไปรษณีย์ น้ำท่วมถนนทางเข้าบ้านที่ท้ายซอย ระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ชาวบ้านต้องใช้เรือเดินทางเข้าออก ส่วนที่โรงเรียนเทศบาล 2 วัดใหม่ท่าพาณิชย์ ในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ มีน้ำไหลมาจากแควพระปรง จ.สระแก้ว ไหลข้ามถนนเข้าท่วมอาคารเรียน โดยเฉพาะอุปกรณ์เครื่องเล่นเด็กถูกน้ำท่วมเสียหาย นอกจากนี้ที่บ้านท่าขี้เหล็ก หมู่ 9 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี พบว่าน้ำจากแควพระปรงไหลเข้าท่วมหมู่บ้านทำให้บ้านเรือนเสียหาย 124 หลังคาเรือน นาข้าว พืชผล การเกษตร และบ่อปลาถูกน้ำท่วม ส่วนสัตว์เลี้ยงวัวและควายขาดแคลนอาหาร นอกจากนี้ยังพบว่ามีบ้านของประชาชนถูกน้ำท่วมสูงจนถึงชั้นบนของบ้าน ต้องนำไม้มาต่อเป็นที่นอนชั่วคราว
ภายหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนอยู่ที่ 2,745 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คันดินกั้นน้ำพังที่บริเวณหมู่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและสถานที่ราชการอย่างรวดเร็ว สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี ที่ว่าการอำเภออินทร์บุรี และสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง วัดวาอาราม และบ้านเรือนถูกน้ำท่วม ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณวัดเฉลิมมาศ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี ทั้งนี้นายกฯกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งสำรวจรอยรั่ว และดำเนินการ อุดรอยรั่วให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นายกฯกล่าวว่า ยืนยันว่าปีหน้ามีเขื่อนกั้นน้ำแน่นอน รัฐบาลจัดงบประมาณให้แล้วกว่า 400 ล้านบาท เพื่อทำพนังกั้นน้ำเพิ่มเติม มี สนทช.ทำแผนร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองทำแผนก่อสร้างพนังกั้นน้ำบางแคในเพิ่มอีก 4 กม. เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวจะเริ่มดำเนินการปลายปีนี้ใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท
ส่วนที่ จ.อ่างทอง น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นพนังกั้นน้ำที่ ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประสบอุทกภัยก่อนหน้านี้ยังได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่อง เช่นเดียวกัน จ.สุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ระดมกำลังวางแนวกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าตัวเมือง
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ผอ.กอง อำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เดินทางไปถึงบริเวณเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนจาก ตร.ภ.จ.กาญจนบุรี และกองกำลังสุรสีห์ รับทราบสถานการณ์น้ำภาพรวมและถึงแผนบริหารจัดการน้ำ การเตรียมรับน้ำหลากปี 64 และ เตรียมการสำหรับฤดูแล้งปีถัดไป การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลองและคลองจระเข้สามพัน พร้อมกล่าวมอบนโยบายกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม จากนั้น พล.อ.ประวิตรไปที่เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี รับทราบสถานการณ์น้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ แล้วมอบนโยบายให้เตรียมแผนกักเก็บน้ำสำรองทั้งผิวดินและใต้ดินไว้รองรับฤดูแล้งหน้า พร้อมกำชับกำหนดแผนจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า มรสุมที่พัดผ่านทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งใน 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และกาญจนบุรี รวม 27 อำเภอ 77 ตำบล 302 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,466 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ทั้งนี้ ยังคงมีสถานการณ์ ที่ จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จ.นครปฐม และ จ.สระแก้ว