“บิ๊กตู่” แสลงหูใช้นิ้วอุดหู เมินสื่อซักชื่อ “บิ๊กป้อม”นั่งนายกฯ วอนเรื่องการเมืองเบาๆลงบ้าง “ประวิตร” ไม่ตอบปมนั่งผู้นำขัดตาทัพ “บิ๊กน้อย-ธรรมนัส” เชียร์สุดลิ่มเหมาะสมเป็นนายกฯแก้ปัญหาประเทศ เลขาฯ ศท.ชี้เกิดอุบัติเหตุ การเมืองในสภาฯใช้ ม.272 วรรค 2 ไฟเขียวคนนอกขู่ศึกซักฟอกระวังมือที่มองไม่เห็นซ่อนมีดไว้ข้างหลัง “พิเชษฐ” แตกหักรัฐบาลพร้อมถูกขับพ้น พปชร. ยกกลุ่ม 16 กาหัวโหวตสวนไม่ไว้วางใจ “สันติ” ตุกติก ประมูลท่อน้ำอีอีซี ปชป.ล้อมคอกเพิ่มคุณสมบัติทางเพศ แก้เกณฑ์คัดสมาชิกพรรค “อรอนงค์” ไม่รอไขก๊อกทิ้ง กก.บห. “สมชัย” บี้ กกต.สอบคลิปเสียง “แรมโบ้” เพิกเฉยขู่ฟัน ม.157
ปัญหาข้าวของแพงซ้ำเติมวิกฤติชีวิตคนไทย เพิ่มแรงกดดันพุ่งเข้าใส่รัฐบาล จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงกับ ออกปากโลกเปลี่ยนเราต้องปรับทั้งนโยบายรัฐบาลและ นโยบายการเมือง พร้อมขอร้องให้การเมืองเบาๆลงบ้าง
“บิ๊กตู่” วอนการเมืองเบาๆลงบ้าง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่ตึกสันติ ไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้โอวาทคณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ต่อมาเวลา 09.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นว่า โลกเปลี่ยนเราต้องปรับนโยบาย รัฐบาลและนโยบายการเมืองต้องปรับทั้งหมด ถ้าเรา อยู่แบบนี้มันไปไม่ได้ หลายอย่างที่กำลังจะโตต้อง ล้มและพังลงมา บางครั้งเป็นเพราะความไม่เข้าใจ ซึ่งกันและกัน จึงอยากจะขอร้องกันว่าการเมืองเบาๆ ลงบ้างก็แล้วกันนะ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น ไม่เชื่อถือกัน แล้วจะแก้กันอย่างไร การแก้ ปัญหาต้องแก้ด้วยวิธีการร่วมมือ ถ้าขัดแย้งกันตั้งแต่ต้นมันคุยกันไม่รู้เรื่อง ไปกันไม่ได้แล้วจะไปแก้อะไรได้ ใครจะได้รับผลกระทบ รัฐบาลนั้นแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือประชาชน วันข้างหน้า นโยบายภาครัฐต้องปรับหลายอย่าง เราพยายามปรับมา หลายอย่างแล้ว แต่มันเดินมาได้ช้าเนื่องจากความขัดแย้งสูง การจะปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆของประเทศไทยนั้นยอมรับว่ายาก ก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง
แกล้งอุดหูสื่อซัก “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ
เมื่อถามว่า ได้ยินข่าวเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เกี่ยวกับเรื่องนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมกับทำนิ้วแยงไปที่หู เหมือนไม่อยากได้ยิน ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์มีสีหน้าและน้ำเสียงคล้ายกับคนอ่อนล้า และไม่สดชื่น
“บิ๊กป้อม” ไม่ตอบปมผู้นำขัดตาทัพ
เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานโอลิมปิก แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยเข้ารับโอวาทจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก่อนร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกฯ เข้าร่วม โดย พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะ ตอบคำถามกรณีนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เสนอให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพในช่วงเวลา ที่เหลือของรัฐบาล เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม หมดความกังวลในช่วง ที่ลงจากอำนาจ โดย พล.อ.ประวิตรมีท่าทีนิ่งเฉยไม่ได้ ตอบคำถามใดๆ ขณะที่ พล.อ.วิชญ์รีบเดินทางออกจากทำเนียบฯ เพื่อไปร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรค ศท. โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์เช่นกัน
“ธนกร” ย้อนฝ่ายค้านจะหน้าแตก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทยระบุพรรคพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะน็อกในสภาฯ ว่า หากฝ่ายค้านเรียกการโหมโรงรายวันว่า หนังตัวอย่าง คงเป็นหนังที่เตรียมตัวเจ๊งได้เลย ทำท่าว่า จะออกแนวน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง อาจเป็นฝ่ายค้านเองที่ถูกรัฐบาลเอาข้อเท็จจริงมาชี้แจงจนต้อง หน้าแตกกลางสภาฯได้ ที่ผ่านมาประชาชนแทบจะ ไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านเสียเองโหมโรงว่าดี โหมโรงว่า ข้อมูลเด็ด แต่สุดท้ายทะเลาะกันเองว่าถูกคนในพรรค กีดกันไม่ให้อภิปราย ยืนยันว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ พร้อมชี้แจงทุกประเด็น ไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่อาจ ขัดใจที่ยังอยู่ขวางหูขวางตาคนที่อยากกลับมามีอำนาจ อีกครั้ง ไม่อยากให้ฝ่ายค้านมือถือสากปากถือศีล อดีตรัฐมนตรีพรรคตัวเองติดคุกเพราะทุจริตไปแล้วกี่คนเคยนับหรือไม่ ถ้าในอดีตยังแสดงให้เห็นถึงความ โปร่งใสไม่ได้ ไม่ควรจะมาขอโอกาสอีกครั้ง
“โจ้” ยื่นสอบประมูลท่อน้ำอีอีซี
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ขอให้ตรวจสอบ ความไม่โปร่งใสการประมูลท่อส่งน้ำของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังในโครงการอีอีซี มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานอีอีซี โดยนายยุทธพงศ์กล่าวว่า การประมูลงานนี้ไม่โปร่งใส กรมธนารักษ์ไม่เปิดให้เสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ แต่บอกต่อ ทำให้มีบริษัทเข้าร่วม ประมูลเพียง 5 บริษัท และบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ที่เป็นบริษัทคูหาเดียวได้รับงานไป แทนบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ ที่ถือหุ่นใหญ่โดยการประปา ส่วนภูมิภาคและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่เป็นหน่วยงานรัฐผู้ดำเนินการอยู่ก่อนไม่ได้งานเดิม อีกทั้งยังเร่งรีบให้เซ็นสัญญาวันที่ 3 พ.ค. อยากถามนายกฯ ว่า ทำไมเปิดประมูลตามปกติเพื่อให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ร่วมประมูล ถ้าการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน
แฉ “พิเชษฐ” ยอมแตกหักรัฐบาล
นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ได้ทานอาหารร่วมกับนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.พรรค พปชร.ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 นายพิเชษฐกล่าวกับ ตนว่า เคยดำรงตำแหน่งประธานการประปาส่วนภูมิภาค หากเกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ยอมแน่นอน จะยอมแตกหักกับรัฐบาล และนายพิเชษฐระบุว่า ได้แจ้งเรื่องไปกับ โฆษกรัฐบาลเพื่อแจ้งไปยังนายกฯโดยตรงด้วย นอกจากเรื่องนี้แล้วกลุ่ม 16 ได้สอบถามตนว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมและเอาจริงกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้หรือไม่ หารือกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพร้อมจะอภิปรายแน่นอนเรื่องเรือดำน้ำไม่มี เครื่องยนต์ การเปิดประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีแบบไม่โปร่งใส และรถไฟฟ้าสายสีเขียว อยากดูบางพรรคจะยกมือโหวต อย่างไร แต่กลุ่ม 16 ยืนยันกับตนแล้วว่าท่อส่งน้ำหาก รัฐบาลเดินหน้าจะขอแตกหักกับรัฐบาลแน่นอน
นายกฯใหม่ดูชื่อในตะกร้าก่อน
เมื่อถามว่า กรณีมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกฯ ช่วงที่เหลือ พรรคเพื่อไทยรับได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย เราเป็นฝ่ายค้าน เน้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อล้ม รัฐบาลให้ได้ ต้องไล่ พล.อ.ประยุทธ์ก่อน 8 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองเสียหายหมดแล้ว นายกฯต้องใช้รายชื่อที่ถูก เสนอโดยพรรคการเมืองก่อน การเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร ไกลเกินไป ต้องดูชื่อในตะกร้าก่อน การยื่นอภิปรายยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยพร้อม จะหนักกว่าการอภิปรายตามมาตรา 152 ช่วงจะยื่นคงต้องหารือในวิปฝ่ายค้านก่อน แต่จะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์
“สุธรรม” จวก “เทือก” ยุติปลุกระดม
นายสุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.โจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ยกเรื่องระบอบทักษิณมาปลุกระดมว่า ก่อนปี 49 ที่พรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล บ้านเมืองสงบ ประชาชนกินดีอยู่ดี นายสุเทพกับพรรคพวกทนไม่ได้ แพ้เลือกตั้งต่อเนื่องจึงมีกลุ่มคนไปวางอุบายล้มรัฐบาล จากการเลือกตั้งหลายครั้งหลายรูปแบบ นายสุเทพควรเลิกคิดปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้คนในสังคมได้แล้ว
ด้าน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค เพื่อไทย กล่าวว่า นายสุเทพย้อนกลับไปดูผลงานตัวเอง สร้างความเสียหายใหญ่หลวง ทั้งชัตดาวน์ประเทศ นำขบวนบุกยึดทำเนียบ ขัดขวางเลือกตั้งปี 57 ถูกกกต.ดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่ง ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปี ฐานก่อการ ยังกวักมือเรียกคณะรัฐประหารล้มรัฐบาลปี 57 เป็นต้นตอผลักประเทศให้ตกต่ำดำดิ่งถึงทุกวันนี้ พูดวาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองไว้หลอกคนกลุ่มเดิม คนต้องโทษคดีกบฏจะกล้าหาญวิจารณ์อดีตนายกฯตามครรลองประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับในเวทีโลกทั้งสองท่าน
กลุ่ม 16 ขู่โหวตไม่ไว้วางใจ “สันติ”
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงการไปทานอาหารกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม เมื่อค่ำวันที่ 28 เม.ย.ว่า คุยกันเรื่องการเมือง สอบถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะเรื่องบริษัทอิสท์วอเตอร์ แพ้ประมูลบริษัทวงษ์สยามก่อสร้างโครงการระบบท่อส่งน้ำพื้นที่อีอีซี เป็นเรื่องรับไม่ได้ บ.อิสท์วอเตอร์ สร้างขึ้นมาเพื่อบริหารโครงการอีสเทิร์น ซีบอร์ดทั้งหมด เป็นบริษัทลูก กปน.และ กปภ. รู้เรื่องประปาดี ในฐานะอดีตประธาน กปภ.สอบถามฝ่ายค้านได้รับคำยืนยันมีข้อมูลเพียงพอ หากอภิปรายไม่ไว้วางใจ และฝ่ายค้านมีข้อมูลหนักแน่นตรงกับที่ตนมี กลุ่ม 16 จะยกมือสวนแน่นอนได้ตกลงกันแล้ว เรื่องอื่นไม่ติดใจทั้งเรือดำน้ำ รถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่อิสท์วอเตอร์ยอมไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายยกมือสวนแน่ เมื่อถามว่าจะไม่วางใจรัฐมนตรีคนไหนบ้าง นายพิเชษฐตอบว่า รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกรมธนารักษ์คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นคนมาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ หากนายกฯไม่ทบทวน ต้องไม่ไว้วางใจนายกฯด้วย เป็นผู้นำต้องรู้เรื่อง หากไม่ทบทวนจะถูกกล่าวหาว่ารับสินบนด้วย
“พิเชษฐ” ลั่นพร้อมถูกขับพ้น พปชร.
นายพิเชษฐกล่าวว่า ขอคัดค้านการเซ็นสัญญาให้บริษัทวงษ์สยาม วางระบบประปาในอีอีซีในวันที่ 3 พ.ค. พร้อมยกมือไม่ไว้วางใจนายสันติ ถ้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. ยังหนุนหลังคนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ ตนยอมถูกขับออกจากพรรค พปชร. ยืนยันออกมาสู้เรื่องนี้ ไม่มีการต่อรองเรียกร้องกล้วย แก่แล้วอายุ 79 ปี ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายแล้วมีข้อมูลสอดคล้องตรงกัน แต่รัฐบาลยังตะแบงไปเซ็นสัญญา ต้องแตกหักกัน ขอเอาประเทศชาติ ไม่เอาตัวบุคคล เดี๋ยวคนก็ตายไป แต่ประเทศยังอยู่
“ธรรมนัส”ปลุก ศท.จะเป็นบ้านใหญ่
เมื่อเวลา 10.25 น. ที่ศูนย์ประชุมอาคารยูทาวเวอร์ ถนนศรีนครินทร์ พรรคเศรษฐกิจไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1/2565 นำโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิส ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรค นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อในฐานะนายทะเบียนพรรคและ น.ส.
ธนพร ศรีวิราช เหรัญญิกพรรค พร้อม ส.ส.และสมาชิกพรรค โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ครอบครัวเศรษฐกิจไทยเรากำลังสร้างจากครอบครัวเล็กๆที่มี ส.ส.18 คน ให้กลายเป็นครอบครัวใหญ่ มีตัวแทนพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัด คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคได้ร่างนโยบายสำคัญแบบไทยๆ เราจะร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองให้ฐานรากมั่นคง แล้วสิ่งอื่นๆจะตามมา
ชูว่าที่นายกฯทั้งคนใน–คนนอก
จากนั้น พล.อ.วิชญ์กล่าวเปิดการประชุมว่าขอยืนยันต่อสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยเราเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ดั่งคำขวัญที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน” การที่จะมั่นคงได้ การเมืองต้องมั่นคงมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตยที่โปร่งใสตรวจสอบได้ กระจายอำนาจอย่างเหมาะสม และมีผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีประชาชนอยู่ในใจอยู่เสมอ พรรคเศรษฐกิจไทยมีชื่อบุคคลที่เป็นผู้นำจะเสนอเป็นนายกฯ ทั้งคนในและคนนอกพรรคจะประกาศต่อเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และพร้อมเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของเราเร็วๆนี้
ทาบ “ธีระชัย–มิ่งขวัญ” ร่วมทีม ศก.
ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ว่าทีมเศรษฐกิจพรรคเมื่อถึงเวลาและพร้อมจะเปิดตัวทั้งหมด รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต ยืนยันทีมเศรษฐกิจเราเป็นมืออาชีพ ยอมรับพรรคได้ทาบทามนายมิ่งขวัญแสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง มาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค อาจมีคนอื่นด้วย จะเป็นใครขอให้รอก่อน ของดีไม่ควรเปิดเผยก่อน ส่วนกรณีมีชื่อนายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง ยืนยันพรรคไม่เคยทาบทาม ส่วนแคนดิเดตนายกฯของพรรค ต้องแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่มีวิกฤติขณะนี้ จะเป็นใครถึงเวลาจะมาเอง
ยก “บิ๊กป้อม” ขึ้นผู้นำได้ใช้ ม.272 วรรค 2
เมื่อถามถึงนายกฯสำรองเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดขึ้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้มองไปถึงจุดนั้น มองไปแค่จุดเดียวคือการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อถามว่ามีบางคนเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นนายกฯเป็นได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่าอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร หากถามว่าเป็นนายกฯได้หรือไม่ ความจริงท่านเป็นได้ตลอดเวลา แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวท่าน ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ คงอยากให้บ้านเมืองสมานฉันท์ แก้ไขปัญหาทุกเรื่อง น่าจะเป็นทางออกที่ดี เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่าไม่ขอวิจารณ์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจหากเกิดอุบัติเหตุการเมืองในสภา คงใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 เมื่อถามว่าคิดว่านายกฯคนนอกใครมีความเหมาะสม ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ยังไม่ทราบ เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะกุมบังเหียนรัฐบาลได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เราไม่สามารถไประบุได้ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ เมื่อถามถึงที่ให้ใช้มาตรา 272 วรรค 2 หมายถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ได้รับการสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไวเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเรื่องใดเมื่อไหร่
ขู่ศึกซักฟอกระวังมือที่มองไม่เห็น
เมื่อถามว่าวิเคราะห์เสียงในสภาขณะนี้เป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตอนนี้ต้องพูดว่ามือที่มองไม่เห็นมันเยอะ สภาฯยังไม่เปิดยังไม่รู้ และเดี๋ยวสภาฯเปิดจะรู้ เพราะตอนนี้ทุกคนต่างซ่อนมีดไว้ข้างหลังตัวเองหมด จึงยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมั่นใจอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นหนังม้วนใหญ่ล้มรัฐบาลได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เปิดประชุมสภาฯวันที่ 22 พ.ค.จะรู้ ไม่มีความลับหรอก เมื่อถามว่าช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ การแจกกล้วยจะสะพัดอีกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ยังไม่รู้มีประเด็นการอภิปรายอะไรบ้าง และใครจะโดนบ้าง ต้องมาคอยดูกัน ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยยืนยันอยู่ข้างประชาชน เมื่อถามย้ำว่ามือที่มองไม่เห็น หมายถึงคนในรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แต่ละพรรคมีของดีของตัวเอง มีมือดีของตัวเอง ตอนนี้เรามองไม่เห็น เพราะสภาฯปิด ทุกคนแอบไปคุยกันเองในแต่ละพรรค เมื่อถามว่าเปิดสภามาจะเกิดการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างทางการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่อย่างนั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคงไม่พูดแบบนั้น
“เฮ้ง” ดีลพรรคเล็กต้องเรียนรู้อีกเยอะ
เมื่อถามกรณีพรรคเล็กนัดกินข้าวและพูดคุยกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานในฐานะ ผอ.พรรค พปชร.ว่า ตนมีประสบการณ์เรื่องนี้เยอะ แต่ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ อย่าลืมว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นคนดีลเรื่องพวกนี้ รู้ดีมากกว่าใคร มากกว่าคนที่พยายามเสนอตัวเป็นตัวกลางเคลียร์เรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่านายสุชาติพูดถึงเรื่องกล้วยในวงทานอาหารกับพรรคเล็ก เหมือนจะเป็นการเหน็บไปถึงใครหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสหัวเราะพร้อมบอกว่า “ผมว่ารัฐมนตรีเฮ้ง ต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด”
“วิชญ์” เชียร์ “บิ๊กป้อม” เหมาะนายกฯ
ต่อมา พล.อ.วิชญ์ให้สัมภาษณ์ กรณี ร.อ.ธรรมนัสมองถึงใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 ให้มีนายกฯคนนอก หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองว่า น่าจะเป็นไปได้ หากทุกอย่างนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่านายกฯในบัญชีรายชื่อที่มีอยู่ไม่พอใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่พอ แต่คนไม่ศรัทธา คนไม่เอาก็ไม่เอา อย่างมากต้องหาคนที่ประชาชนต้องการที่ทำเพื่อประชาชน “ผมไม่ได้มองใคร ผมมองแค่ พล.อ.ประวิตร เพราะเหมาะสม จะช่วยประเทศได้เวลานี้ ทำงานมาตลอดน่าจะรู้ดีว่าทำอย่างไร รัฐบาลจะรอดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่บอกไม่ได้ อยู่ที่คำตอบของนายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยเราอยู่ในฝ่ายรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญจะยึดประชาชนเป็นหลัก ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เราไม่เอาด้วย
“อรอนงค์” ไขก๊อกทิ้ง กก.บห.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. น.ส. อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นใบลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรคมีผลทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหากรณีการล่วงละเมิดทางเพศ เป็นข้อหาร้ายแรงกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งนี้ น.ส.อรอนงค์เป็น 1 ใน 7 กก. บห.กลุ่มผู้หญิงที่ตกเป็นข่าวว่าจะลาออก แต่ถูกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคขอร้องไว้จึงได้ชะลอการยื่นใบลาออกไว้ก่อน คาดว่ากลุ่ม กก.บห.กลุ่มดังกล่าวจะยื่นใบลาออกจาก กก.บห.หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
“สรชา” ลาออกพ้นสมาชิกพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 29 เม.ย. น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา อดีตผู้สมัคร ส.ส. สมุทรปราการ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากมีประชาชนในเขตเลือกตั้งสอบถามถึงเรื่องภายในพรรคและจุดยืนพรรคทั้งกรณีนายปริญญ์และแชตไลน์ กก.บห.เดือดที่เป็นข่าวฉาวหลุด รวมถึงไม่พอใจในจุดยืนการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค
ปชป.เพิ่มคุณสมบัติทางเพศ
เมื่อเวลา 14.40 น. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางตรวจสอบคุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกผู้จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชา ธิปัตย์และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค เปิดเผยว่า ได้ข้อสรุปให้ระบุในข้อบังคับพรรค 1. เพิ่มข้อ 19 คุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรค “ต้องไม่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดทางเพศรวมถึงการกระทำความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว เด็ก สตรี รวมทั้งการค้ามนุษย์ และการค้าประเวณี 2.เพิ่มหมวดแนวปฏิบัติว่าด้วยการต่อต้านการละเมิดและหรือคุกคามทางเพศ ครอบคลุม ความรุนแรงที่เกิดจากอคติทางเพศ ความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศ ความผิดการคุกคามทางเพศ ความผิดการกระทำความรุนแรงในครอบครัว และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ มีกลไกรับทราบข้อมูล รับเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมละเมิดและหรือคุกคามทางเพศของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและกรรมการบริหารพรรค มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามแนวทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ การตรวจสอบต้องได้รับการยินยอมจากผู้เสียหาย ดำเนินการเป็นความลับ 3.จัดกิจกรรมรณรงค์และสร้างความตระหนักรู้เรื่องการต่อต้านการละเมิดและหรือการคุกคามทางเพศ จะนำเข้าสู่กรรมการบริหารและที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อปรับแก้ข้อบังคับพรรค
“พีระวิทย์” ยัน 4 พรรคเล็กกอดคอสู้
นายพีระวิทย์ เรืองลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ให้สัมภาษณ์กรณี 4 พรรคเล็ก คือ พรรคเพื่อชาติไทย พรรคไทรักธรรม พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และพรรคประชาธรรมไทย จะยุบรวมมาทำงานร่วมกันในนามพรรคเพื่อชาติไทยว่า เป็นเพียงแนวความคิด ต้องดูสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก่อนจะหารด้วย 100 หรือ 500 แต่ควรอยู่ในพรรคเล็กที่คุ้นเคยสนิทสนมกันมากกว่าไปอยู่พรรคใหญ่ หากจะยุบรวมคงเป็นช่วงปลายปีช่วงยุบสภา พรรคเล็กอยากได้วิธีคำนวณหาร 500 มากกว่า 100 คะแนนจะอยู่ที่ 1 แสนคะแนนต่อคน อย่างน้อยเหลือ ส.ส.พรรคละ 1 คนยังดี ถ้าสุดท้ายได้สูตรหาร 100 พร้อมสู้อาจรวมกันแล้วให้บางคนไปลง ส.ส.เขต หรือไปอยู่ร่วมพรรคใหญ่ ต้องดูข้อเสนอจะให้ความสำคัญเราอย่างไร
“กรณ์” คุย 2 ปีพรรคกล้าชื่อติดหู
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าและอดีต รมว.คลัง เปิดเผยถึงการประชุมใหญ่พรรคกล้าในวันที่ 30 เม.ย.ว่า ครบรอบตั้งพรรคกล้า 2 ปีจำได้ ว่าพรรคตั้งขึ้นก่อนล็อกดาวน์ครั้งแรก จากนั้นลงช่วยเหลือ ประชาชนตั้งแต่วันแรกไม่ว่าจะสถานการณ์โควิด เศรษฐกิจปากท้อง สิ่งที่สัมผัสได้ ประชาชนเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นบทบาทภาระหน้าที่ในฐานะพรรคน้องใหม่ แม้ยังไม่มี ส.ส.แต่ตั้งใจทำงานเต็มที่ช่วยกันสร้างรายได้ให้กับประชาชน พรรคกล้าพร้อมเป็นแพลตฟอร์มให้ผู้มีความรู้ความสามารถ จากหลากหลายวิชาชีพมาช่วยกันนำเสนอทางออกสร้างโอกาสให้ประเทศ ส่วนผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคกล้า คัดมาเฉพาะผู้ที่เกาะติดพื้นที่จริงช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงโควิดลงพิสูจน์ตัวเองช่วยเหลือในพื้นที่ คิดว่าประชาชนรู้จักพรรคกล้ามากขึ้น
“สมชัย” จี้ กกต.สอบคลิป “แรมโบ้”
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย พร้อมนายวีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน สร.เข้ายื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสอบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯเนื่องจากมีคลิปเสียงที่หลุดมาสุ่มเสี่ยงกระทำความผิดกฎหมายการเลือกตั้ง นายสมชัยกล่าวว่าได้นำคลิปเสียงและคำถอดเทปมาให้ กกต.ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินเกินที่กฎหมายกำหนดที่เกินวงเงิน 1.5 ล้านบาท แจ้งข้อมูลค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งเป็นเท็จ จะถือเป็นโอกาสหรือไม่ที่จะนำเงินนั้นไปใช้ซื้อเสียง จะผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (1) ถ้า กกต.ไม่ตั้งคณะทำงาน ขอสงวนสิทธิฟ้อง กกต.ทั้งคณะในฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ กรณีรองเท้าราคาแพงที่นางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯรับเกิน 3 พันบาท ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนด้วย
ปูด 1 กกต.แวบก่อนให้ใบส้ม “สุรพล”
จากนั้นนายสมชัยได้ยื่นหนังสือต่อประธาน กกต.กรณีที่ประชุม กกต.ให้ใบส้มนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โดยนายสมชัยกล่าวว่าคำพิพากษาของศาลพบว่า กกต.ลงมติเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 ความจริง กกต. มี 7 คนแสดงว่ามี 1 คนที่ไม่ได้ร่วมประชุมลงมติ แต่เมื่อดูรายงานการประชุมพบว่า เมื่อเปิดการประชุมวันที่ 27 เม.ย.62 มี กกต.เข้าประชุมครบทั้ง 7 คน พอถึงวาระที่ 5.1 เป็นต้นไปมีวาระให้ใบส้มคือวาระที่ 5.4 มี กกต.คนหนึ่งเดินออกจากที่ประชุม เขียนสั้นๆว่าติดภารกิจ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงมติมาตรา 18 ระบุว่า กกต.ถ้าหากไม่ได้อยู่ในที่ประชุมหรือขาดประชุมต้องมีเหตุผลที่สมควร มิฉะนั้นจะถือเป็นความผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ให้เวลาตอบ 30 วัน ถ้าหลีกเลี่ยงลงมติเป็นความผิดมาตรฐานทางจริยธรรม จะส่งไป ป.ป.ช.ดำเนินการมาตรฐานทางจริยธรรมต่อไป หรือถ้า กกต.ทั้ง 7 คนนั้นไม่ใส่ใจจะตอบสังคม จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบทั้งคณะ
ปล่อยชั่วคราวเมนู–ใบปอ–ผักบุ้ง
ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ยื่นคำร้องขอฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ น.ส.ณัฐนิชหรือใบปอ ดวงมุสิทธิ์ อายุ 19 ปี น.ส.สุพิชฌาย์ หรือเมนู ชัยลอม อายุ 20 ปี และ น.ส.เนติพร หรือผักบุ้ง เสน่ห์สังคม อายุ 26 ปี ความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา 112 กรณีวันที่ 18 เม.ย. ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์สำรวจความเห็นหัวข้อเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่ทางเท้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีจตุจักร ทางเชื่อมรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าว สถานีรถไฟฟ้าสนามเป้าและกองพลทหารม้าที่ 2 ในชั้นสอบสวนทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ คุมตัวผู้ต้องหาจะครบ 48 ชั่วโมงแต่สอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นจึงขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก 12 วัน พงส.คัดค้านปล่อยชั่วคราว ศาลอนุญาตฝากขัง ทนายความยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวคนละ 9 หมื่นบาท ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมกำหนดเงื่อนไข