ปิดจ๊อบ 315 เสียงหนุนนายกฯเพื่อไทย รวมไทยสร้างชาติ -พรรคพลังประชารัฐ รวมโหวตให้ยกพรรค หาเพิ่มเสียงสว.อีก 60 เสียง แบ่งเก้าอี้รมต.แล้ว
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ และแถลงร่วมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯจากพรรคพท.ไปแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทยรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 238 เสียง
ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกันแต่ก็แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียงให้พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยหากเป็นเช่นนั้นจะเพิ่มอีก 36 เสียง และพรรคประชาธิปไตยใหม่อีก 1 เสียง จะทำให้รวบรวมเสียงได้ 315 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งหมด 500 คนแล้ว
แต่การโหวตนายกฯต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภาที่ประกอบด้วย สส.และสว.รวม 748 คน (สส.ลาออก 1 คน, สว.ลาออก 1 คน) ทำให้ต้องได้เสียงสว.เพิ่มเพียง 60 เสียง เพื่อมีเสียงรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่งหรือ 375 เสียง เพื่อผลักดันแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย
ในส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่าในสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลจะได้คนละกี่เก้าอี้ เพราะต้องเอาตัวเลขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดมาคำนวณ โดยจะนำจำนวน 315 เป็นตัวตั้งหารด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี 35 เก้าอี้ ตก 9 เสียงต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี และจะมีความชัดเจนว่าพรรคไหนได้กระทรวงใดหลังเลือกนายกฯเสร็จสิ้น
สำหรับสมการรัฐบาลล่าสุดนี้ ทำให้พรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่