ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำโลกหลายแห่ง รวมทั้ง “ฟอร์ด” “โฟล์คสวาเกน” และ “เดมเลอร์” พยายามหาทางรับมือกับปัญหาชิปขาดแคลนทั่วโลก แต่คาดว่าปัญหานี้จะยาวนานกว่าที่คาดการณ์
เฮอร์เบิร์ต ดีสส์ ซีอีโอของโฟล์คสวาเกน, โอลา กัลเลนนิส ซีอีโอของเดมเลอร์ และกันเนอร์ เฮอร์แมนน์ ประธานคณะกรรมการบริหารฟอร์ด ยุโรป ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีที่งานมิวนิค มอเตอร์ โชว์ เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ว่า ยากที่จะบอกได้ว่าปัญหาชิปขาดแคลนที่ซับซ้อนนี้ จะได้รับการแก้ไขเมื่อใด
ซีอีโอโฟล์คสวาเกนจากเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป ระบุว่า บริษัทสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอย่างมาก อันเป็นผลมาจากปัญหาการขาดแคลนชิป
“เราค่อนข้างอ่อนแอเนื่องจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์” นายดีสส์กล่าว “เราได้รับผลกระทบในจีนมากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก นั่นเป็นเหตุผลที่เรากำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด”
นายดีสส์กล่าวว่า เพื่อนร่วมงานของเขาในประเทศจีนได้ผลักดันให้มีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น โดยระบุว่าการขาดชิปเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของอุตสาหกรรมยานยนต์
ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกน คาดว่า สถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์จะดีขึ้นหลังจากช่วงวันหยุดฤดูร้อน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยมาเลเซียซึ่งมีซัพพลายเออร์ของโฟล์คสวาเกนจำนวนมาก ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลง
นายดีสส์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าปัญหาการขาดแคลนชิปจะเริ่มลดลงเนื่องจากประเทศต่างๆ มีอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาชิปขาดแคลนนี้จะยังคงเป็นเรื่องที่พบเจอทั่วโลกไปอีกระยะหนึ่ง
“เราจะพบกับปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากอุตไอโอทีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจะมีข้อจำกัดบางประการที่เราต้องจัดการ” ซีอีโอโฟล์คสวาเกน กล่าว
