ภรรยา-หมอแถลงอาการ ‘เอส กันตพงศ์’ ป่วยหัวใจอักเสบเฉียบพลัน หยุดหายใจถึง 20 นาที ก่อนช่วยเหลือจนกลับมาได้ ตอนนี้ยังอยู่ในการดูแล
หลังพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ เกิดอาการวูบหมดสติ กลางงานอีเวนต์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 ที่ผ่านมา และต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU อยู่ร่วมเดือน โดยมี “คิตตี้ คริสติน่า วิงเคลอร์” ภรรยาของพระเอกหนุ่ม เฝ้าอยู่ไม่ห่าง ก่อนภาพเหมือนพระเอกหนุ่มอาการจะเริ่มดีขึ้น ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 22 มิ.ย.66 ที่รพ.บำรุงราษฎร์ คิตตี้ คริสติน่า พร้อมด้วยคุณแม่ของเอส กันตพงศ์ เอ ศุภชัย ผู้จัดชื่อดัง พร้อมทีมแพทย์ที่รักษา ร่วมกันแถลงถึงอาการป่วยของพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์
คุณแม่ของเอส กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเอสพยายามขยับเสื้อตลอด ก่อนหมดสติไป โดยก่อนหมดสติเอสจะค่อยๆ ล้มลงไป ซึ่งโชคดีที่มีคุณหมออยู่บริเวณนั้นด้วย จึงช่วยปั๊มหัวใจเอสอยู่พักใหญ่ วันนั้นเอสหยุดหายใจในนาทีนั้น โดยปั๊มหัวใจมาถึงร.พ.ตำรวจ ก่อนหัวใจขึ้นมาและเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นได้ปฐมพยาบาลและย้ายมารพ.บำรุงราษฎร์ ในวันที่ 11 พ.ค. อาการโดยรวมตอนนี้ยังรักษาอยู่
หมอที่รักษาพระเอกหนุ่ม เผยว่า ตั้งแต่คนไข้ย้ายมาโรงพยาบาล ทีมแพทย์ช่วยกันรักษา จากการตรวจพบสาเหตุอาการคือ ภาวะหัวใจอักเสบเฉียบพลัน กรณีนี้อยู่ในขั้นรุนแรง การทำงานหัวใจลดลงอย่างมากและหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง หลังย้ายเข้ามาคนไข้ถูกประเมิน ในตอนนั้นเอสถูกใส่เครื่องพยุงชีพ โดยอยู่ในภาวะวิกฤตมาก ก่อนเริ่มการรักษาและเริ่มตอบสนองการรักษาดีขึ้น จากนั้นลดการใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงชีพลงในวันที่ 21 มิ.ย. โดยทุกอย่างเกือบปกติแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อติดตามอาการและโอกาสหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หมอที่รักษาพระเอกหนุ่ม เผยอีกว่า หลังคนไข้หยุดหายใจ ทำให้ไตและสมองผิดปกติด้วย แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาปกติแล้ว ส่วนเรื่องของสมอง ผู้ป่วยรับรู้และดีขึ้นตามลำดับ จากนี้ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ระบบประสาท เพื่อฟื้นฟู โดยตอนนี้ย้ายมาอยู่หอผู้ป่วยปกติและกำลังทำกายภาพบำบัด
หมอที่รักษาพระเอกหนุ่ม เผยอีกว่า อาการคนไข้อยู่กับการฟื้นตัวของคนไข้ ตอนนี้คนไข้ตื่นและรับรู้ภาวะง่ายๆ ได้ จากประวัติคนไข้พบหยุดหายใจ 20 ขึ้นนาทีขึ้นไป จากการซักประวัติ และหลับไปถึง 8 วัน การกลับมาได้ขนาดนี้ถือว่าน่าพอใจมาก ตอนนี้ยังต้องติดตามประเมินอย่างต่อเนื่อง โดยเอสรับรู้และรู้ตัวทุกอย่าง
“ภาวะที่เกิดขึ้นมาจากหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง จนทำให้ล้มลง โดยคนไข้ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อน ความจริงโรคนี้พบได้ในทุกช่วยอายุ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่นและวัยทำงาน”หมอกล่าว
เอ ศุภชัย กล่าวว่า วันที่มาเยี่ยม เอสก็จำพี่เอได้ แต่ทั้งหมดต้องใช้เวลาฟื้นฟู