ยอดตายจากโควิดในสหรัฐฯพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบครึ่งปี โควิดเดลตายังดันตัวเลขผู้ป่วยใหม่พุ่งในบางรัฐ ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนเริ่มชะลอ
สำนักข่าว ซีเอ็นบีซี รายงานข้อมูลจากมหาวิทยาลัย จอห์นฮอปกินส์ ที่ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เฉลี่ยในสหรัฐอเมริกา กลับมาพุ่งแตะ 2,031 ศพต่อวัน เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยรัฐขนาดใหญ่อย่างรัฐฟลอริดา มีผู้เสียชีวิตต่อวันมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 376 ศพ รองลงมาเป็นรัฐเทกซัส ที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 283 ศพต่อวัน ซึ่งตัวเลขของผู้ป่วยทั้งสองรัฐนี้รวมกันคิดเป็น 1 ส่วน 3 ของผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤติโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยมียอดผู้เสียชีวิตรวมทะลุ 690,000 ศพ ซึ่งมากกว่าผู้เสียชีวิตจากวิกฤติไข้หวัดสเปนระบาดในปี ค.ศ. 1918
ขณะเดียวกัน อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ นั้นลดลงจากเดือนก่อนหน้า 35 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางความกังวลว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ อาจซ้ำเติมวิกฤติโรคระบาด ส่งผลให้มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น แต่ตัวเลขผู้ป่วยโควิดรายใหม่และผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่าในอนาคตหากยอดผู้ติดเชื้อลดลง ยอดผู้เสียชีวิตก็จะค่อยๆ ลดลงตามไปด้วย และในปีนี้วิธีการรักษาโรคโควิด-19 ยังมีความก้าวหน้ามากกว่าเดิม แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ทำให้ยอดผู้ป่วยในบางรัฐ เช่น โอไฮโอ อะแลสกา และเวสต์เวอร์จิเนีย ยังคงพุ่งสูง