นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย.นี้ โดยขอให้หยิบประเด็นการอนุญาตหรือปลดล็อกนักท่องเที่ยวจีนจากบางมณฑลให้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ เนื่องจากในตอนนี้รัฐบาลจีนยังใช้นโยบายซีโร่โควิด-19 และไม่ปลดล็อกให้พลเมืองเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ยังไม่เห็นทิศทางนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทย จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้สร้างความสำเร็จในการหารือร่วมกัน
ส่วนแนวทางการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะสามารถเสนอได้ภายในการประชุมนัดวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก่อนการประชุมเอเปก โดยหากได้รับการอนุมัติและกระทรวงมหาดไทยสามารถออกข้อยกเว้นได้ ก็สามารถทำได้ทันทีเพราะขณะนี้มีความพร้อมอยู่แล้ว ในพื้นที่ที่เสนอไป ได้แก่ ถนนบางลา ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา และกรุงเทพฯ ใน 3 พื้นที่ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย ซอยพัฒน์พงศ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ โดยหากได้รับการอนุมัติแล้ว จะเริ่มนำร่องที่แรกในถนนบางลา ภูเก็ต เพราะมีความพร้อมมากที่สุด
“แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าทั้งเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ จะต้องทำให้ได้อย่างน้อยรวมกัน 2.7 ล้านคน หรือเดือนละ 1.3 ล้านคน หรือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของต่างชาติ อยู่ที่ 45,000-50,000 คนต่อวัน เพื่อให้ทั้งปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำได้ที่ 10 ล้านคน ตามเป้าหมายที่วางไว้”
ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์หารือเรื่องการส่งนักท่องเที่ยวจีนมาไทย แต่ต้องใช้ศิลปะในการเจรจา เนื่องจากจีนยังคงนโยบายซีโร่โควิด-19 หากเราขอให้ส่งนักท่องเที่ยวมาตรงๆ หากเขาตอบไม่ได้ก็ลำบาก ดังนั้น สิ่งเราควรบอกเขาคือไทยรอรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่ตลอดเวลา.