รัฐบาลสหรัฐฯ เอาจริงกับการจัดการแฮกเกอร์อย่างมาก ด้วยการตั้งรางวัลนำจับแฮกเกอร์กลุ่ม DarkSide โดยเสนอเงินรางวัลนำจับสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นับตั้งแต่การก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายโจ ไบเดน ก็ได้ประกาศนโยบายปราบปรามแฮกเกอร์ และการต่อสู้กับการใช้งานซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ หรือ Ransomware อย่างจริงจัง จนนำมาสู่การเสนอมอบเงินรางวัลสูงสุดถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผู้ที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการระบุหรือที่อยู่ตำแหน่งของผู้นำกลุ่มแฮกเกอร์ DarkSide อันโด่งดังได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ถ้าหากเป็นแฮกเกอร์กลุ่มอื่น ที่มีส่วนร่วมหรือคบคิดกับกลุ่ม DarkSide ในส่วนนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะมีเงินรางวัลให้มากที่สุดตามระเบียบ นั่นคือ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลที่สามารถใช้ในการจับกุม
การประกาศตั้งรางวัลนำจับในครั้งนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นความพยายามที่จะปกป้องและจัดการการใช้งานซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่โดยอาชญากรไซเบอร์ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนที่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของการใช้ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่
จุดเริ่มต้นที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา แสดงความโกรธเกรี้ยวต่อกลุ่มแฮกเกอร์ เนื่องจากในช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท Colonial Pipeline ถูกแฮก
จากเหตุการณ์นั้น ทำให้ต้องเกิดการหยุดการทำงานของท่อส่งน้ำมัน ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันที่ Colonial Pipeline ดูแลอยู่มีประมาณ 5,500 ไมล์ คิดเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 45 เปอร์เซ็นต์ของน้ำมันที่ต้องใช้ในฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยการโจมตีครั้งนี้ DarkSide เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งหมดนี้ ถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อการปราบปรามแฮกเกอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่
ที่มา: TechCrunch