มือปืนอาศัยความมืดบุกเข้าไปกระหน่ำยิงเซียนไก่ชนชื่อดัง “เสี่ยโก้ราชบุรี” วัย 40 ปี ขณะกำลังขึ้นรถเบนซ์เพื่อขับกลับบ้าน หลังจากพาเพื่อนมาดูไก่ชนที่สนามแข่งย่าน ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี คมกระสุนเจาะเข้าร่าง 6 นัด เพื่อนหามส่งรพ. แต่สุดท้ายเสียชีวิต ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดหาเบาะแสตามล่าตัวแล้ว
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รองผกก.สอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันตาย ที่หน้าสนามไก่ชนแห่งหนึ่งพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุพบรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน ฆฆ-5454 กทม. มีรอยคมกระสุนเจาะเข้าที่กระจกข้างฝั่งคนขับ และพบหัวกระสุนที่ประตูฝั่งซ้าย นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนตกพื้นถนนอีก 3 ปลอก
ตรวจค้นโดยรอบบริเวณรถยังพบกระป๋องเบียร์ตกอยู่จำนวน 1 กระป๋อง ห่างจากรถเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร ส่วนคนที่ถูกยิงทราบชื่อ นายอภิชัย อุดมผล หรือ “เสี่ยโก้ราชบุรี” อายุ 40 ปี เป็นชาวต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พลเมืองดีและกลุ่มเพื่อนช่วยกันนำตัวส่งรพ.ไปก่อนหน้านี้ เบื้องต้นพบว่าถูกยิงเข้าที่ชายโครงขวา 6 นัด กระสุนถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การระบุว่า ผู้ตายทำธุรกิจซื้อขายไก่ชน ก่อนหน้านี้มาเล่นพนันไก่ของคนอื่นในสนาม ไม่ได้ไปมีปากเสียงกระทบกระทั่งอะไรกับใครทั้งสิ้น หลังสนามปิดตนและผู้ตายได้เดินตามกันมาห่าง ๆ เพราะมีคนทยอยออกจากสนามกว่า 1,500 คน จนต้องเบียดกันไปมา กระทั่งตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้ง ตอนนั้นคิดว่ารถยนต์คันอื่นน่าจะเหยียบอะไรเพราะดังไม่มาก แต่สักพักก็ได้ยินเสียงดังรัว ๆ จึงมั่นใจว่าเป็นเสียงปืนแน่นอน ไม่นานนักก็มีคนที่เดินนำหน้าตนวิ่งสวนทางมาบอกว่า “โก้” โดนยิง ตนจึงรีบไปดูก่อนจะช่วยกันประคองร่างส่งรพ.ลาดหลุมแก้ว ทั้งนี้ทราบมาว่าผู้ตายขับรถมากับเพื่อนอีกคน โดยจุดที่ถูกยิงไม่ใช่พื้นที่จอดรถเพราะลานจอดเต็ม ผู้ตายต้องไปจอดรถไกลและไม่มีไฟส่องสว่าง อาจทำให้คนร้ายฉวยโอกาสดังกล่าวก่อเหตุ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว กำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและตามเส้นทางต่าง ๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีเพื่อหาเบาะแส พร้อมกับเรียกตัวเพื่อนที่เดินทางไปด้วยกันมาสอบปากคำ ในส่วนของศพผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม รอให้ญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป