พรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้านเร่งเครื่องปั่น ก.ม.ลูก พท.ดันเข้าสภาฯภายในสัปดาห์นี้ “ชลน่าน” ไม่ติดใจเพื่อนแยกวงยื่นต่างหาก “ชัยธวัช” เข็นร่างก้าวไกลสกัดเกมยุบพรรค วิปรัฐบาลจ่อชงพรรคร่วมรัฐบาลร่างเดียวประกบร่างของ ครม. “สมชัย” วิเคราะห์บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อไทยคะแนนนำโด่งทิ้งห่าง เย้ย พปชร.ตัวตั้งตัวตีแก้เข้าทางคู่แข่ง “เทพไท” ซ้ำพรรคร่วมรัฐบาลตีโง่เอง ยื่นดาบให้ศัตรู ฟื้นระบอบทักษิณคืนชีพ “ธรรมนัส” พร้อมเต็มพิกัด ท้ารบครบ 440 เขต มั่นใจทะลวงอีสาน กวาด ส.ส.ทั่วประเทศเพิ่ม “วิเชียร” ระบุวิธีคิดยุคใหม่เปลี่ยนไปแล้ว วัยกลางคนตัวแปรชี้ขาด “ชวน” ผวาถ้ายุบสภาช่วง ธ.ค.-ม.ค.65 ปัญหาเกิด ศาลสั่งถอนประกัน “รุ้ง” นอนคุกอีกคดี “แอมมี่” ติดกำไลอีเอ็ม-ห้ามออกนอกบ้าน
หลังจากรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ต่างเร่งดำเนินการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับกติกาใหม่
“ชวน” ชี้ยุบสภา ม.ค.-ธ.ค.มีปัญหา
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 พ.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2564 ว่า เมื่อโปรดเกล้าฯลงมามีผลใช้บังคับ สภาฯต้องเตรียมการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งให้สอดคล้อง ไม่ซับซ้อนมากน่าจะเดือน ธ.ค.หรือ ม.ค.รัฐบาลจะเสนอกฎหมายเข้ามา ช่วงเวลานั้นหากมีการยุบสภาจะมีปัญหา พูดไว้เผื่อล่วงหน้า แต่หวังว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจว่ากระบวนการคงไม่ช้า เท่าที่สอบถามภายในทราบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว หากเสนอมาช่วงเดือน ธ.ค. บรรจุเข้าระเบียบวาระเดือน ธ.ค. ได้เลย กำชับไปแล้วให้รีบพิจารณาให้พร้อมเข้าสภาทันที ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 เดือน ธ.ค.ทำได้ ได้ขอความร่วมมือสภาให้มาประชุมและนัดประชุมวันศุกร์เพิ่มพิเศษพิจารณาเรื่องค้างคา
พท.ดัน ก.ม.ลูกเข้าสภาสัปดาห์นี้
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านประจำสัปดาห์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลประชุมว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะจัดงานสานสัมพันธ์ร่วมกันวันที่ 7 ธ.ค.แถลงผลการทำงานในรอบปี ประเมินบทบาทการตรวจสอบรัฐบาล รวมถึงแนวทางทำงานในอนาคต ฝ่ายค้านจะเร่งทำร่างกฎหมาย 2 ฉบับเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ เคารพเอกสิทธิ์ทุกพรรคเปิดโอกาสให้เสนอกฎหมายในนามพรรคตัวเอง พรรคเพื่อไทยยกร่างกฎหมาย 2 ฉบับเสร็จแล้ว หากพรรคฝ่ายค้านอื่นจะร่วมลงชื่อกับร่างของเราก็ยินดี ขณะที่การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติตามมาตรา 152 จะยื่นญัตติหลังปีใหม่ช่วงนี้ไม่เหมาะสม ต้องยื่นให้ร่างกฎหมายลูกได้รับการพิจารณาเร่งด่วนก่อน คาดว่า ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 เดือน
ยึดเกณฑ์ปี 54 นับแต้มปาร์ตี้ลิสต์
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามกติกาใหม่การคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องกลับไปใช้วิธีเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2554 ตัวบทชัดเจนว่าแยกกันนับ ระบบเขตเลือกตั้งและวิธีทำไพรมารีโหวตยังคงมีอยู่ไปยกเลิกไม่ได้จะขัดรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ทำให้คล่องตัวได้ เช่น ไม่จำเป็นต้องมีทุกเขตหรือมีสาขาอยู่แล้วก็ส่งได้ ให้สาขาพิจารณาใครเป็นตัวแทนเขต เพื่อให้ยืดหยุ่นแต่ไม่ทิ้งหลักการเดิม รับฟังความเห็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังเห็นต่าง วิธีคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเป็นสิทธิแต่ละพรรค หากพรรคก้าวไกลจะเสนอร่างกฎหมายลูกคนละฉบับถือเป็นสิทธิ ไม่จำเป็นต้องเสนอตรงกัน
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หวังว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นจะปลดสลักแรกการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง พรรคพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งมาตลอด ทั้งบุคลากรคนรุ่นใหม่ ผู้มากประสบการณ์ และประสบ การณ์บริหารประเทศ หวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น
เย้ย “บิ๊กตู่” ยิ่งบริหารคนยิ่งจน
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกฯสั่งกระทรวงการคลังทบทวนโครงการบัตรคนจนขยายผู้ได้รับสิทธิเป็น 15 ล้านคนเริ่มลงทะเบียนปลายปีว่า สะท้อนการบริหารงานล้มเหลวของนายกฯยิ่งบริหารคนไทยยิ่งจน เดิมผู้ได้บัตรคนจนปี 63 มี 13.6 ล้านคน เพิ่มเป็น 15 ล้านคนในปีนี้ 1 ปี ทำให้คนไทยยากจนลงจนต่ำกว่าเส้นมาตรฐานไปอีกราว 1.4 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้นกว่า 10% ช่วงเวลาคนไทยลำบากกลับไม่ไยดี ไม่เจรจาหาทางออกร่วมกัน ลอยตัวค่าครองชีพทุกประการ ค่าน้ำมันสูงเกินจะทำธุรกิจ ค่าทางด่วน ค่าไฟฟ้าเตรียมปรับขึ้นทั้งระบบ สวนทางรายได้ในกระเป๋าประชาชนหดหาย รัฐบาลแก้ปัญหาแบบปะผุ ยิ่งปล่อยให้บริหารต่อไปมีแต่สร้างความยากแค้นให้ประเทศ
ก้าวไกลจ่อแยกยื่นคนละฉบับ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับไว้แล้ว คงนำเข้าสู่พิจารณาที่ประชุม ส.ส. ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ แต่บอกไม่ได้ว่าต่างจากพรรคเพื่อไทยอย่างไร เพราะยังไม่เห็นร่างพรรคเพื่อไทย แนวทางที่พรรคได้เคยหารือกันไว้ นอกจากเสนอแก้ระบบการเลือกตั้งหรือวิธีการนับคะแนนแล้ว จะเสนอแนวทางทำให้การเลือกตั้งมีความเสรี โปร่งใส เป็นธรรม และแนวทางส่งเสริมให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน ให้พรรคตั้งและดำเนินการง่าย แต่ถูกยุบยาก
หาช่องแก้ลำให้ยุบพรรคยากขึ้น
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคทำร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับไว้เรียบร้อยเเล้ว คณะทำงานจะเคาะประเด็น วันที่ 23 พ.ย. นำเข้าที่ประชุม ส.ส.พรรค โดยร่างพ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ให้นับคะแนนเลือกตั้งรวมกัน ไม่แยกนับที่หน่วยเลือกตั้ง การประกาศผลต้องอำนวยความสะดวกสื่อ พรรคการเมืองในการเผยแพร่ข้อมูลผลการนับคะแนนไม่เป็นทางการ เพื่อจะให้อยู่ในที่สว่างที่สุด ไม่ให้เกิดข้อสงสัยว่ามีการเปลี่ยนแปลงคะแนนหรือไม่ ระบบเลือกตั้งเราพร้อมทั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) หรือระบบแบบคู่ขนานปี 40 ส่วน พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง การส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตเดิมต้องมีตัวแทนพรรคประจำเขตจะขอแก้เป็นประจำจังหวัดละ 1 คน การยุบพรรคตามมาตรา 92 จะทำให้ข้อหาชัดเจนขึ้น ไม่ใช่ทุกข้อหายุบพรรคได้ ที่มีการจับตาการยุบสภา เชื่อว่าพรรคหลักของรัฐบาลยังอยู่ในภาวะแบบนี้ ยังจัดทัพไม่เสร็จ ภายในมีปัญหา นายกฯน่าจะยังไม่ตัดสินใจยุบสภาเร็วๆนี้ ความขัดแย้ง 2 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อว่าทั้งฝ่ายยังไม่พร้อมจะสู้ศึกเลือกตั้งในเวลาใกล้ขนาดนี้ กฎหมายลูกน่าจะผ่านไปก่อน หากยังไม่มีอุบัติเหตุอะไรที่มากกว่านี้จริงๆ น่าจะไปต่อแบบนี้สักพักจนถึงช่วงเดือน ส.ค. นายกฯจะครบวาระ 8 ปี
“ประชาชาติ” มั่นใจได้ ส.ส.เพิ่ม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาชาติพร้อมไม่ว่าจะลง เลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียวหรือ 2 ใบ เลือกตั้งครั้งก่อนได้ ส.ส. 7 คน เป็น ส.ส.เขตถึง 6 คน ได้บัญชี รายชื่อแค่ 1 คน ส.ส.เขตที่ได้รับเลือกตั้งมีคะแนนต่ำกว่าคะแนนพึงมีทำให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อย แต่เมื่อใช้บัตร 2 ใบแยกจากกันวิธีนี้พรรคน่าจะได้ ส.ส.มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา อีกทั้งได้ทำโพลไม่เป็นทางการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีคะแนนนิยมสูงเป็นอันดับหนึ่งทั้ง 12 เขต ยังมีคนสนใจจะลงสมัครในนามพรรคอีก เราคงได้ ส.ส.มากกว่าเดิมแน่นอน แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มาตรา 91 เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่แก้ไขเพิ่มเติมในปี 2554 มาตรา 98 ดังนั้น วิธีคำนวณคะแนนควรจะเหมือนกัน คือนำคะแนนบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง คงใช้บรรทัดฐานต่างไปจากนี้ยาก
“สมชัย” แฉบัตร 2 ใบ พท.นำโด่ง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า เคยคำนวณการเปลี่ยนแปลง ส.ส. บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคจะได้ภายใต้กติกาใหม่บัตร 2 ใบ ใช้ฐานคะแนนเลือกตั้งปี 2562 เพื่อไทยได้เพิ่มจาก 0 เป็น 32 พลังประชารัฐเพิ่มจาก 19 เป็น 24 ก้าวไกลลดจาก 50 เหลือ 18 พรรคกลาง พรรคเล็กลดลงทุกพรรค ยกเว้นประชาชาติ พรรคจิ๋ว 1 เสียง 12 พรรคสูญพันธุ์หมด พปชร.อย่าเพิ่งดีใจ คราวที่แล้วเพื่อไทยส่งผู้สมัครเขต 238 เขต จาก 350 เขต หรือร้อยละ 68 ด้วยบัตรเดียว เขตใด ไม่ส่งเขตนั้นไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่คราวนี้เป็นบัตร 2 ใบแม้ส่งไม่ครบจะได้คะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ คิดบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ จำนวนบัญชีรายชื่อเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวใหม่คือ 32 คน รวมเขตอีก 136 เขต เป็น ส.ส. 168 คน ทิ้งห่าง พปชร.ได้เขตรวมบัญชีรายชื่อใหม่แค่ 121 คน คงหาข้อกล่าวอ้างจัดตั้งรัฐบาลได้ยาก ยกเว้นไม่มีมารยาทการเมือง งานนี้โทษใครไม่ได้ เพราะ พปชร.เป็นตัวตั้งตัวตีแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตร 2 ใบ พรรคเพื่อไทยต้องบอกว่าขอบคุณมาก
“คึก” ชี้โง่เองระบอบทักษิณคืนชีพ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งระบบ 2 ใบ ส.ส.ระบบเขต 400 คน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน บังคับใช้เป็นทางการ ไม่เห็นด้วยกับวิธีการคิดคำนวณที่นั่ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขใหม่ เอื้อประโยชน์ให้พรรคเพื่อไทยโดยตรงจากเดิมไม่มี ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อเลย แต่ตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขใหม่นี้ จะทำให้มี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 30 คน ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบพรรคอื่นเต็มๆ การเลือกตั้งตามกติกาใหม่จะทำให้ระบอบทักษิณคืนชีพมาอีกครั้ง เราหนีระบอบทักษิณกลับมาเจอกับระบอบประยุทธ์ มาแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดทางให้ระบอบทักษิณกลับคืนมาอีก ถือว่าเป็นวิบากกรรมของประเทศ ไทย จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากพรรคร่วมรัฐบาลยื่นดาบให้ศัตรู ตีโง่ให้เขาเอง
พช.ฟุ้งมีของโกยเสียง ปชช.ได้
น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติทำหนังสือถึงที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านรับทราบกรณีพรรคเพื่อชาติเปลี่ยน หัวหน้าพรรคมาเป็นนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส. อุตรดิตถ์ จะเข้าร่วมประชุมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านสัปดาห์หน้า หลังนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เปิดตัวเป็นหัวหน้าพรรคสร้างความฮือฮาอย่างมาก จากนี้พรรคจะชูนโยบาย เพื่อชาติ เพื่อประชาชน เตรียมผลักดันนโยบาย เกษตรร่ำรวย มั่นใจว่ามีศักยภาพและจะสร้างสีสันในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า เรียกคะแนนเสียงจากประชาชนได้ท่วมท้นตามที่หัวหน้าพรรคคนใหม่กล่าวไว้ว่า “พรรคเพื่อชาติจะเป็นพรรค ประชาธิปไตยสายกลาง จะไม่ขวาจะไม่ซ้ายจนตกขอบ จะเชิญชวนคนไทยทั้ง 70 ล้านคนมาร่วมคิดร่วมสร้างและเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน
ไทยสร้างไทยชงแก้ รธน.ทั้งฉบับ
ที่พรรคไทยสร้างไทย นายโภคิน พลกุล ประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ กล่าวว่า การโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทำให้เห็นว่าการแก้ไขรายมาตราทำได้ ส่วนการแก้ไขทั้งฉบับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติก่อน พรรคไทยสร้างไทยจะยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 มอบให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามาพิจารณาแก้ไขโดยยกร่างประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อนำเสนอ ครม. ส.ส.และ ส.ว.รวมทั้งการเข้าชื่อของประชาชน 50,000 ชื่อ หรือทำประชามติว่าต้องการ ให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
พปชร.คึกเต็มพิกัดชิง ส.ส. 400 เขต
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ยืนยันพรรค พปชร. พร้อมเลือกตั้งแบบใหม่ จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 400 เขตทั่วประเทศแน่นอน หัวหน้าพรรค ตนและแกนนำพรรคลงพื้นที่ต่อเนื่อง มีว่าที่ผู้สมัครครบหมดทุกจังหวัดแล้ว ทุกจังหวัดเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดครบเกือบหมดทุกเขตแล้ว กลไกพรรควางไว้เรียบร้อยหมด ล่าสุดไปที่ จ.ขอนแก่นเมืองหลวงภาคอีสานที่มี ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญเก่าถึง 132 ที่นั่ง พรรคจึงให้ความสำคัญอย่างมาก มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะและได้ที่นั่ง ส.ส.ในภาคอีสานและจังหวัดอื่นทั่วประเทศมากขึ้น ผลงานที่ทำเพื่อประชาชนในฐานะแกนนำรัฐบาลเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนทุกมิติรอบด้าน จึงมั่นใจมีชัยชนะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
วิป รบ.ชง ก.ม.ลูกประกบร่าง ครม.
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมวิปรัฐบาล โดยนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลหารือจัดทำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นตั้งคณะทำงานรวบรวมแนวทางจัดทำกฎหมายลูกนำไปจัดทำในนามของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องหารือร่วมกับ กกต.และ ครม. ฝ่ายรัฐบาลจะจัดส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญ 2 ฉบับคือร่าง ครม.และร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ไม่กังวล รัฐบาลทำงานเต็มที่แล้ว ไม่มีข้ออะไรทำให้เสียหาย
“วิเชียร” เย้ย พท.อีสานจะเปลี่ยนไป
ด้านนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค พปชร.กล่าวว่า กฎหมายลูกยังมีความคิดเห็นหลากหลาย คงต้องใช้เวลาพูดกันพอสมควร กรณีบัตร 2 ใบไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องมาคำนวณ เพียงแต่จะคุ้มครองพรรคเล็กขนาดไหน ต้องได้เสียงเท่าไหร่ของทั้งประเทศถึงเอามาคำนวณ เมื่อถามว่าบัตร 2 ใบ ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบกว่าพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรค พปชร.หรือไม่ นายวิเชียรกล่าวว่า ไม่เชิง อยู่ที่ยุทธศาสตร์การแข่งขันจะใช้อะไรหาเสียง แต่ไม่อยากพูด เวลานี้ภาคอีสานหลายคนคิดว่าเป็นของพรรคเพื่อไทย ความคิดและวิธีคิดของประชาชนสมัยใหม่อาจเปลี่ยนไปแล้ว เด็กรุ่นใหม่ที่นิยมพรรคก้าวไกลก็เยอะ แม้พรรคเพื่อไทยจะพยายามชิงความนิยมในกลุ่มเด็กแต่ไม่เป็นผล ความจริงตัวแปรคือคนวัยกลางคนจะเลือกไปตามเด็กหรือไปตามผู้ใหญ่
“นิกร” ยัน ส.ส.พึงมีไม่เป็นปัญหา
นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า วิปรัฐบาลมาคิดร่วมกันให้ยื่นรวมกันดีกว่า จึงตั้งคณะกรรมการมีนายวิเชียรเป็นประธาน ทำเกือบเสร็จแล้ว ให้ฝ่ายกฎหมายสภาดูอยู่ เตรียมขอความเห็นต่อ กกต.จะแก้วิธีนับคะแนนคล้ายรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แก้ไขปี 2554 รวมคะแนนทั้งประเทศและมาหารรวมด้วย ส.ส.100 คน รัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 92 ที่ระบุว่า ส.ส.พึงมีจึงไม่เกิดผลอะไร การนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) จึงใช้ไม่ได้ พรรคใดเห็นต่างไปแปรญัตติ พรรค ชทพ.ไม่เสียเปรียบตอนแก้เป็นบัตร 2 ใบ เรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถือหลักการประชาชนสะดวกและบัตร 2 ใบนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ทำไว้เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา แต่กฎหมายพรรคการเมือง ต้องแก้ไขจำนวน ส.ส. การทำไพรมารีโหวตไม่สอดคล้อง กันเลย จะเสนอแก้ไขให้เป็นกึ่งการทำไพรมารีโหวต ให้เหมือนตอนเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คิดว่าใช้เวลา ไม่น่าถึง 180 วัน
ภท.การันตียังไม่มีเหตุให้ยุบสภา
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะเสนอร่างกฎหมายลูก รวมเป็นร่างเดียวแล้ว พรรคภูมิใจไทย เตรียมพร้อมปรับตัว คาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นรูปแบบใด พรรคจะจัดประชุมใหญ่สามัญวันที่ 19 ธ.ค.ที่ จ.นครราชสีมา วาระสำคัญเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส่วนกระแสข่าวการยุบสภา หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแล้วทำไมต้องยุบ มีเหตุผลอะไร เหตุต้องยุบสภาคือสภาไม่อยู่ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่วันนี้สภาไม่มีปัญหาต้องยุบ และนายกฯบอกว่าไม่ยุบ จึงไม่มีเหตุต้องยุบสภา
เลื่อนมีตติ้งพรรคร่วม รบ. 3 ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. สั่งให้เลื่อนจัดงานกระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 26 พ.ย. ที่สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธ ปาร์ค ไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค.เนื่องจากวันที่ 24-26 พ.ย.มีการประชุมสภา ขณะที่นายกฯมีภารกิจร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซมครั้งที่ 13 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บินไปร่วมประชุมองค์การอนามัยโลก ที่สวิตเซอร์แลนด์และ ส.ส.ต้องรีบกลับพื้นที่ไปเตรียมเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในวันที่ 28 พ.ย.
นายกฯโชว์กึ๋นพลิกโฉมประเทศไทย
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน สมัยพิเศษฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ผ่านระบบการประชุมทางไกล มีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลามเป็นประธาน ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียน โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงย้ำให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นอันดับต้น สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน นายกฯ ได้เผยถึงวิสัยทัศน์พัฒนาประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาศักยภาพของประชาชนให้พร้อม ก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 มุ่งสู่ Next Normal โดยพลิกโฉมประเทศไทย มุ่งเน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมจากฐานราก การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บช.น.หวั่น “ทะลุแก๊ส” ก่อเหตุซ้ำ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการเชิงรุกแก้ไขปัญหากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ดินแดงเมื่อวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่สายตรวจพบวัตถุคล้ายระเบิดพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ 17 ลูก และพลุไฟ 3 กระบอก บริเวณสวนหย่อมปากซอยราชปรารภ 10 ชุดหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดหรืออีโอดีเข้าพิสูจน์เก็บกู้หลักฐานตรวจสอบหาความเชื่อมโยงผู้กระทำผิด จึงต้องเฝ้าระวังการก่อเหตุของกลุ่มทะลุแก๊สต่อเนื่อง ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน ก.ค.63 ถึงปัจจุบันมีคดีชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 792 คดี สั่งฟ้องไปแล้ว 401 คดี สอบสวนอยู่ 391 คดี
ศาลสั่งห้าม “แอมมี่” ออกจากบ้าน
ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวคดีหมายเลขดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนพยาน และมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล จำเลยที่ 5 นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก จำเลยที่ 6 และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ จำเลยที่ 17 กรณีที่จำเลยทั้ง 3 ร่วมกับพวกรวม 22 คน ร่วมกันดูหมิ่นสถาบัน ร่วมกันชุมนุม “คดีปักหมุดสนามหลวง” เมื่อวันที่ 19 ก.ย.63 ศาลพิเคราะห์ว่า จำเลยที่ 5 ประกาศเชิญชวนให้ออกมาชุมนุมแต่งกายชุดดำในวันที่ 28 ก.ค.64 ผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว ให้เพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวและออกหมายขัง ส่วนจำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 17 แม้ร่วมชุมนุมแต่ไม่มีพฤติกรรมร้ายแรง กำชับให้ผู้กำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น และห้ามจำเลยที่ 17 ออกจากบ้านช่วงเวลา 16.00-05.00 น. เว้นแต่มีเหตุเจ็บป่วย หรือพบแพทย์ พร้อมให้ติดกำไลอีเอ็ม ส่วนจำเลยที่ 6 หากได้รับการปล่อยชั่วคราวในคดีอื่นก็ให้ใช้เงื่อนไขเดียวกันกับจำเลยที่ 17
ตรวจพยานคดีรีเดมบุก ร.1 ทม.รอ.
อีกคดีศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.884/2564 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา และนายธนะชัย เอื้อลือชา หรือหอย รามคำแหง กับพวกรวม 20 คน ผู้ชุมนุมกลุ่มรีเดม ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 ขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย และก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และอื่นๆตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีชุมนุมวันที่ 28 ก.พ.64 ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ส่วนที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.2/2564 กล่าวหานายกฤษพล ศิริกิตติกุล กรณีใช้คัตเตอร์กรีดแขนในห้องพิจารณาวันที่ 11 ต.ค.64 เรียกร้องให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหามาตรา 112 ถึงเวลานัดผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปรากฏตัวในห้องพิจารณา ศาลพิเคราะห์แล้วเชื่อว่าจงใจหลบหนี ให้ออกหมายจับและจำหน่ายคดีชั่วคราว
กักขัง 9 ม็อบละเมิดศาลธัญบุรี
ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ศาลนัดฟังคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.1/2564 ที่ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดธัญบุรีกล่าวหา เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายณัฐชนน ไพโรจน์ นายสิริชัย นาถึง นายชาติชาย แกดำ ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก ฟ้า-พรหมศร วีระธรรมจารี นายแซม สาแมท สัญชาติกัมพูชา น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกูลและนายธนพัฒน์ กาเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-9 กรณีเหตุเกิดวันที่ 9 ส.ค. ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานภาพถ่าย ตลอดจนภาพเคลื่อนไหวประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 ให้การรับสารภาพ มีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกทั้งหมดคนละ 20 วัน ผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งจำคุกคนละ 10 วัน เมื่อพิจารณาถึงอายุ การศึกษาอบรม สภาพความผิด และรู้สำนึกในการกระทำของทั้งหมด ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาบางคนกำลังศึกษาเล่าเรียน และโทษจำคุกที่จะลงแก่ผู้ถูกกล่าวหามีกำหนดไม่เกิน 3 เดือน เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุกกำหนดคนละ 10 วัน