มายังไง! หนุ่มคลุ้มคลั่งถือมีดปีนหลังคาทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน ภายในซอยแพรกษา เมืองสมุทรปราการ ชาวบ้านล้อมจับไว้ได้ ก่อนโดนรุมยำประชาทัณฑ์เละ ขณะที่ตำรวจคุมตัวตรวจหาสารเสพติด
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. วานนี้ (29 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่งถือมีดปีนหลังคาทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน ภายในซอยแพรกษา 2 หมู่ 3 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอย พบชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี ตรวจสอบไม่พบเอกสารติดตัว นั่งกับพื้น อยู่ในอาการเมา คุยคนเดียว มีแผลแตกที่ศีรษะ ตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำ เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.สมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปด้วย ใกล้กันภายในบ้านเลขที่ 108 ที่บริเวณประตูและหลังแตก มีก้อนหินขนาดใหญ่ตกอยู่กลางบ้าน ใกล้กันที่บ้านเลขที่ 262 ที่ชั้นหนึ่งห้องด้านหลัง พบว่าหลังคาฝ้าเพดานแตก และที่ชั้น 2 กระจกแตกข้าวของข้างในกระจัดกระจาย
จากการสอบถามนายจตุรงศ์ ทองดี อายุ 33 ปี ผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 1 บ้านเลขที่ 262 เล่าว่า ตนนั่งเล่นอยู่ในห้อง ปรากฏว่าได้มีชายคนดังกล่าวปีนหลังคามาจากบ้านแม่ แล้วมาทุบหลังคาห้องตน แล้วก็ปีนไปทุบหลังคาบ้านข้างๆ ตนก็ไม่รู้จักกับคนก่อเหตุ และไม่ใช่คนในซอยด้วย เขาก็ยืนคุยคนเดียวแล้วก็เอามีดที่ถือมาฟันอยู่บนหลังคา เหมือนคนสติไม่ดี จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนายลิขิต แพหมอ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.แพรกษา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากลูกเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย ว่ามีคนอยู่บนหลังคาทำลายข้าวของ ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่คนแถวนี้ มีอาการมึนเมา ตนก็เลยโทรประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมแพรกษา ให้ช่วยเข้ามา ตอนมาถึงก็พบชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้แล้ว ตามร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำจากการถูกรุมประชาทัณฑ์ ก่อนตำรวจจะกันชาวบ้านออก เนื่องจากกลัวว่าคนก่อเหตุจะเป็นอะไรไปเยอะกว่านี้ หลังจากนี้จะพาทางเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้ง 2 หลัง เดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ทางกู้ชีพดำเนินการส่งตัวไปรักษาที่ รพ. และตรวจสารเสพติดในร่างกาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปด้วย หลังจากได้รับการรักษาแล้วจะคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
