หนุ่มจงใจขับรถลงแม่น้ำ แต่รอดตายเพราะปู่มาช่วย รู้สาเหตุแล้วอึ้ง เพิ่งแทงเมีย 21 แผลจนตาย อยากชดใช้ด้วยชีวิต
7 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดลพบุรี ให้ติดตามรถยนต์กระบะ เชฟโรเลต สีแดง ซึ่งมี นายอนุพงษ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ยุวดี อายุ 30 ปี ภรรยา จำนวน 21 แผล จนเสียชีวิต แล้วหลบหนีมา โดยทราบว่ามีญาติอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ศูนย์วิทยุสมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้รับแจ้งมีรถยนต์กระบะตกลงไปภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงกับวัดโพธิ์แตงใต้ พื้นที่หมู่ 3 ต.โพธิ์แตง อ.บางไทร จึงเดินทางมาตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะ เชฟโรเลต ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่พบผู้ขับขี่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างใหญ่ เข้าร่วมตรวจสอบ พบว่าเป็นรถยนต์กระบะของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้มีดแทงภรรยาตัวเองเสียชีวิตแล้วหลบหนีมา จึงออกติดตามค้นหา จนพบว่ามีชาวบ้านพายเรือช่วยเหลือเอาไว้ และสามารถติดตามจับกุมตัวได้
จากนั้นชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลพบุรีได้ควบคุมตัวไปที่จังหวัดลพบุรีทันที นายสหภาพ อุ่นสูงเนิน เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์กระบะตกลงในน้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะสีแดงตรงกับที่ สภ.ช้างใหญ่ และตำรวจลพบุรี แจ้งไว้ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมตรวจสอบ ภายในรถไม่พบผู้ขับขี่ แต่มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่าพบเห็นชาวบ้านพาเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปควบคุมตัวเอาไว้ได้
เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้วได้ขับรถหลบหนีจาก จ.ลพบุรี เพื่อมาหาญาติที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และตัดสินใจขับรถยนต์พุ่งลงแม่น้ำหวังฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาช่วยเหลือไว้ได้
ด้านนายสม 65 ปี ปู่ของผู้ต้องหา กล่าวว่า ขณะตนกำลังนั่งตกปลาอยู่ จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนรถเร่งเครื่องตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ตนจึงหันไปดูก็เห็นว่าเป็นรถกระบะสีแดง เป็นรถของหลานชาย จึงนำเรือออกไปช่วยเหลือหลานชายที่กำลังจะจมน้ำ
นายสม กล่าวต่อว่า เมื่อนำขึ้นเรือมาได้หลานชายก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ แล้วบอกว่าจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากไปก่อเหตุใช้อาวุธที่แทงภรรยา ตนจึงปลอบใจว่าจะตายไม่ได้ในเมื่อเราทำผิดแล้วเราต้องยอมรับผิด หลานชายจึงรับปากว่าจะไม่หนี จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัว
