ลูกชายวัย 26 ปี ดื่มน้ำกระท่อมจนหลอนทะเลาะกับแม่ ก่อนจะไปคว้าค้อนปอนด์ทุบหัวแม่ดับสลดต่อหน้าลูกชายวัย 4 ขวบของตัวเอง
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ต.พานุรักษ์ เรืองขำ สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุว่ามีลูกชายใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวแม่จนเสียชีวิตคาบ้านเลขที่ 75/1 หมู่ 2 ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์โรงพยาบาลบ้านโพธิ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าชาวบ้านไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ นางวารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ถูกค้อนปอนด์ทุบที่บริเวณหัวจนยุบ สอบถามนายเรวิณ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือนายณัฐวุฒิ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเอง โดยก่อนเกิดเหตุ นายณัฐวุฒิ ได้มีปากเสียงกับนางวารีผู้เป็นแม่ เพราะหาสายชาร์จโทรศัพท์มือถือไม่เจอ ทำให้ตนต้องนำสายชาร์จโทรศัพท์มือถือของตนเองมาให้แทน และคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว ตนเองจึงเดินเข้าห้องไปนอน
แต่ต่อมาตนเองได้ยินเสียงดังหลายครั้งเหมือนใครทุบอะไร จึงพยายามจะออกจากห้องมาดู แต่ประตูห้องกับถูกล็อคอยู่ด้านนอกทำให้ไม่สามารถออกมาได้ นายเรวิณจึงได้ตระโกนเรียกลูกชาย จนกระทั้งนายรัฐวุฒิได้เดินมาเปิดประตูห้องนอนของนายเรวิณให้แล้วพูดว่า ผมฆ่าแม่ไปแล้ว จากนั้นก็ยกค้อนปอนด์ขึ้นมาเตรียมที่จะทุบนายเรวิณอีกคน ทำให้นายเรวิณต้องใช้มือจับค้อนแล้วบอกกับลูกว่า “ใจเย็นๆ นี่พ่อเอง” ทำให้นายณัฐวุฒิยอมปล่อยค้อนที่ถืออยู่ในมือลง จากนั้นผู้เป็นพ่อก็รีบวิ่งออกมาขอให้ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วย ส่วนนายณัฐวุฒิ ได้ลากศพแม่ออกมาที่หน้าบ้าน และเตรียมกล่องพลาสติกเพื่อจะเอาศพใส่กล่อง แล้วนำขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่เตรียมไว้ เพื่อเอาศพแม่ไปทิ้ง
ขณะเดียวกัน ทางญาติได้วิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อหาหลานชายวัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของนายณัฐวุฒิ และปกติจะนอนอยู่กับนางวารีผู้เสียชีวิต ทำให้เด็กชายวัย 4 ขวบได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง และอยู่ในอาการตกใจ ตัวสั่นตลอดเวลา ญาติได้รีบนำตัวออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำค้อนปอนด์ที่ใช้ในการก่อเหตุ โยนทิ้งออกไปนอกบ้าน เพราะกลัวว่านายณัฐวุฒิจะนำค้อนนั้นมาทำร้ายร่างกายใครอีก จนกระทั้งเวลาผ่านไประยะหนึ่ง นายณัฐวุฒิได้เดินไปหาญาติ เพื่อถามหาพ่อกับแม่ของผมไปไหน จนญาติได้พยายามเกลี้ยกล่อมจนสามารถควบคุมตัวนายณัฐวุฒิเอาไว้ได้ พร้อมกับนำเชือกมามัดไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัว
นายเรวิณเผยอีกว่า ลูกชายของตนเองชอบต้มน้ำกระท่อมเป็นหม้อๆ เพื่อใช้ดื่มกินทุกวัน จนเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว เริ่มมีอาการทางสมอง โดยลูกชายบอกว่าเหมือนมีใครมาสแกนสมองของตนเอง มันมีเสียงดังจี๊ดๆ ในหัวตลอดเวลา จากนั้นก็หันไปถามพ่อว่า “พ่อเป็นใคร” ทำให้นายเรวิณต้องรีบตัดสินใจพาลูกชายไปโรงพยาบาลพุทธโสธรเพื่อเข้ารับการตรวจรักษา จากนั้นก็มีอาการดีขึ้นจนเหมือนปกติ ลูกชายยังไปช่วยพ่อกับแม่ขายของตามตลาดนัดได้เหมือนคนปกติทั่วไป ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุวันนี้ ก็ยังขับรถให้พ่อกับแม่ไปหาซื้อของที่ตลาดสำเพ็ง ที่กรุงเทพ เพื่อนำกลับมาขายที่ตลาดนัดอยู่เลย จนกระทั้งมามีเรื่องทะเลอะกับแม่เพราะหาสายชาร์จโทรศัพท์มือถือไม่เจอ ทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้น
เบื้องตนทางญาติได้นำลูกชายวัย 4 ขวบ ของผู้ก่อเหตุไปฝากไว้ที่บ้านญาติที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อดูในเบื้องต้นก่อน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ ผู้ต้องหายังมีอาการสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะถูกนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป