หนุ่มสาวที่อุดรฯ หลอน เห็นวิญญาณ แต่ยังมีสติยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกไว้ ส่งภาพถามหมอปลา เชื่อมาขอส่วนบุญ
วันที่ 6 มกราคม 2565 กรณีนางอารียา ขันดี อายุ 43 ปี ชาว จ.อุดรธานี ได้ส่งภาพลูกสาวและเพื่อน ซึ่งเห็นและถ่ายภาพติดวิญญาณ ไปให้หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ดู และอยากทราบว่าวิญญาณตนนี้ต้องการอะไร เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม ภายในซอยไทยสมุทร 1 บ้านถ่อน ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี
โดยผู้ที่สามารถถ่ายภาพไว้ได้คือ นายพีรวัฒน์ แสนพงษ์ อายุ 18 ปี เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนนักศึกษากับ น.ส.วิภาพา ขันดี อายุ 17 ปี เมื่อวานนี้ได้ชวนกันไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี กระทั่งเวลา 19.30 น. จึงได้พากันขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยตนขี่รถมาจอดที่ปากซอยไทยสมุทร 1 เพื่อลงไปซื้อของที่ร้านชำ และให้ น.ส.วิภาดา ขี่รถเอาสิ่งของที่ซื้อเข้าไปเก็บไว้ในบ้าน ซึ่งอยู่ในซอยประมาณ 300 เมตร โดยต้องขี่ผ่านสะพานข้ามคลองระบายน้ำ
นายพีรวัฒน์ เล่าต่อว่า จากนั้นตนก็ลงจากรถ และมองเข้าไปในซอย ห่างประมาณ 50 เมตร แต่กลับเห็นเงาคน ไม่มีศีรษะ ท่อนล่างมืดดำ มีร่างกายตั้งแต่คอลงมาถึงเข่า คาดว่าจะเป็นผู้หญิง เดินทื่อๆ อยู่กลางถนนไปบริเวณสะพาน ตนกลัว จนนิ่งไป เพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไร ตนยังไม่อยากเล่าให้ฟัง แต่ก็ตั้งสติ แล้วถอยออกมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพนิ่งไว้ แต่ไม่กล้าเปิดดู จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์มือถือทันที ก่อนที่จะปล่อยให้เพื่อนขี่รถเข้าไป ส่วนตนไปนั่งที่ฟุตปาทเปิดมือถือดูภาพ
นายพีรวัฒน์ เล่าต่อไปว่า พอเพื่อนขี่รถออกมาเพื่อไปส่งตนที่บ้าน ตนจึงตัดสินใจที่จะเปิดรูปที่ถ่ายติดวิญญาณและเล่าให้เพื่อน ซึ่งคนรอบตัวก็เชื่อว่า น่าจะเป็นวิญญาณที่อยู่ในบริเวณนั้นมาขอส่วนบุญ พอเช้าตนก็รีบไหว้พระสวดมนต์ และใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้
“ตอนเป็นเด็ก พ่อแม่และย่า สอนให้ตนรู้สึกบาป บุญ สวรรค์ นรก ให้ทำบุญมากๆ และตามย่าไปวัดทำบุญ แต่พอโตขึ้นมา ความเชื่อดังกล่าวมันก็หายไป ไม่เชื่อเรื่องดังกล่าวแล้ว และเลิกทำบุญ แต่พอมาเห็นวิญญาณเมื่อคืนนี้ เรื่องที่พ่อแม่และย่าสอน ก็กลับคืนมา ทำให้ตนเชื่อสนิทว่ามีวิญญาณจริง” นายพีรวัฒน์ กล่าว
ด้าน น.ส.วิภาดา เล่าว่า หลังเพื่อนเล่าเรื่องที่เห็น และเอาภาพให้ดู ก็รู้สึกกลัว แต่ตนซึ่งอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เด็ก ก็ยังไม่เคยเจอ เมื่อคืนพอขี่รถจักรยนต์ยนต์ผ่านจุดที่เห็นวิญญาณ ก็รู้สึกเย็นๆ ไม่มีอะไร ซึ่งเมื่อปีก่อน มีเด็กนักศึกษาในหมู่บ้าน เครียดเรื่องการเรียน แล้วมาปลิดชีพตัวเอง และเมื่อปีที่แล้ว ก็มีอุบัติเหตุบริเวณสะพาน ส่งผลให้เสียชีวิต และก็คงไม่กล้าผ่านบริเวณนี้อีกแล้ว
ด้านนางอารียา แม่ น.ส.วิภาดา เล่าว่า หลังจากเด็กๆ มาเล่าให้ฟัง และเอาภาพที่ถ่ายติดวิญญาณให้ดู ก็รู้ทันทีว่าลูกเห็นวิญญาณ จึงรีบนำเอาด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือเรียกขวัญ เอาน้ำมนต์มารด และให้กิน เชื่อว่าพวกเขาเห็นจริงๆ ซึ่งเมื่อก่อนบริเวณนี้จะไม่เจริญ เป็นป่า มีคลองน้ำ และสะพานไม้ น่ากลัว ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุ และทำให้คนเสียชีวิตหลายครั้ง จากนั้นตนจึงส่งภาพไปที่เพจหมอปลา ถามว่าภาพที่ปรากฏคืออะไร เขาต้องการอะไร หมอปลาตอบกลับมาว่า ถ่ายเมื่อไหร่ อยู่จังหวัดไหน ขอเบอร์โทรติดต่อกลับ เชื่อว่าวิญญาณมาขอส่วนบุญ ซึ่งได้ทำบุญให้แล้ว.