อุทยานฯ ภูชี้ฟ้า เตรียมพร้อมเปิดรับฤดูกาลท่องเที่ยวดูทะเลหมอกแบบนิวนอร์มอล เริ่ม 1 ต.ค. เป็นต้นไป ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ จุดไฟประกอบอาหาร และผิงไฟ ในอุทยานฯ ทำได้เฉพาะในรีสอร์ตตามหมู่บ้าน
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 นายบุญส่ง ตินารี นอภ.เทิง จ.เชียงราย มอบหมายให้นายเอนก ปันทะยม ปลัดอาวุโสอำเภอเทิง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า(เตรียมการ) ครั้งที่ 3/2564 มีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยในที่ประชุมครั้งนี้ เป็นการหารือในการเตรียมความพร้อมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2564 ในวันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ทางอุทยานฯได้มีกำหนดปิดเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย. เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ทางขึ้นลงค่อนข้างลื่น และยังเป็นฟื้นฟูธรรมชาติไปในตัวด้วย
นายสนิท หอมนาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า(เตรียมการ) เผยว่า ทางอุทยานได้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสอากาศหนาวและชมทะเลหมอกบนภูชี้ฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย ซึ่งหลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั้งทางอุทยานฯ รวมไปถึงทั้งผู้ประกอบการ ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับมาตรการ D-M-H-T-T-A ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นการท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี
“ในส่วนของฤดูกาลท่องเที่ยวใหม่นี้ ทางอุทยานได้เตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว อย่างแรกที่อุทยานฯ ทำ คือ การคัดกรองเจ้าหน้าที่ ต้องปลอดเชื้อโควิด-19 ต่อมาเป็นการเตรียมจุดคัดกรองนักท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ เปลี่ยนป้ายประกาศ ป้ายเตือนต่างๆ รวมไปถึงการเปลี่ยนลวดสลิงกั้นบริเวณจุดอันตรายบนยอดภูชี้ฟ้า เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยปีนี้ทางกรมอุทยานได้มีประกาศคำสั่ง ห้ามจุดไฟประกอบอาหาร อันที่จะทำให้เกิดควันและกลิ่น ซึ่งอาจไปรบกวนสัตว์ป่าที่อยู่อาศัยรอบบริเวณอุทยาน ซึ่งเป็นคำสั่งที่ประกาศใช้ในอุทยานทั่วประเทศไทย ซึ่งอาจจะมีผลกระทบบ้างกับคนที่จะมาพักในเขตพื้นที่ของอุทยานฯ” หน.อุทยานฯ ภูชี้ฟ้า กล่าว
นายสนิท กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการจะพักผ่อนแบบแคมปิ้ง ประกอบอาหารและผิงไฟไปด้วย ก็ยังสามารถไปพักตามจุดบริการของรีสอร์ตต่างๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านได้อยู่ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังถือเป็นสิ่งของต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาดื่มในพื้นที่ของอุทยาน ซึ่งในส่วนของการกำหนดกรอบความร่วมมือของอุทยานและผู้ประกอบการบนภูชี้ฟ้า รวมถึงข้อกำหนด ระเบียบ กฎเกณฑ์ต่างๆ จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของผู้ประกอบการรีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ก็เตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแล้ว โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องฉีดวัคซีนต้านโควิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และมีจุดตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว จัดเตรียมเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยทางชุมชนและ อบต.ตับเต่า จะทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดสองข้างทาง ทั้งการตัดหญ้า และจัดการขยะข้างทาง เพื่อสร้างความสวยงามแก่ผู้พบเห็น
จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ได้ก็ให้เกิดผลกระทบแก่ทุกภาคส่วน รวมไปถึงที่ภูชี้ฟ้าแห่งนี้ด้วย แต่ด้วยความร่วมมือจากทั้งชาวบ้าน ภาครัฐ และเอกชน ในการช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดจากคลัสเตอร์ตับเต่า ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวน 136 คน โดยใช้เวลาควบคุมโรค 42 วัน จนเป็นแบบอย่างที่ทาง ผวจ.เชียงราย ได้กล่าวชื่นชม และยกเอา “ตับเต่าโมเดล” เป็นแบบอย่างในการควบคุมโรค ที่หลายชุมชนใช้เป็นต้นแบบปฏิบัติตาม ซึ่งจากประสบการณ์ดังกล่าว และความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับมาชมทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้า เหมือนเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา.