สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นาย ซาอัด ฮาริรี ว่าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศเลบานอน ตัดสินใจลาออกจากการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว หลังจากพยายามมาเกือบ 9 เดือน แต่ยังตั้งรัฐบาลใหม่ให้แก่ประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนักแห่งนี้ไม่ได้ นายฮาริรีบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค. 2564 ว่า ประธานาธิบดี มิเชล อาอุน ไม่รับข้อเสนอจะตั้งคณะรัฐมนตรีล่าสุดของเขา “ระหว่างการสนทนา เราเสนอให้ประธานาธิบดีใช้เวลาในการทบทวนข้อเสนอนานกว่านี้ แต่นายอาอุนกล่าวว่า ดูเหมือนเราจะไม่สามารถตกลงกันได้”
“ด้วยเหตุผลนั้น ผมจึงลาออกจากการเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ขอให้พระเจ้าช่วยประเทศนี้ด้วย” นายฮาริรีกล่าว
ด้านประธานาธิบดี อาอุน ออกแถลงการณ์แสดงความกังขาว่า นายฮาริรีตั้งใจจัดตั้งรัฐบาลจริงหรือไม่ เนื่องจากนายฮาริรีปฏิเสธคำขอของเขาที่ให้แก้ไขข้อเสนอ และนายฮาริรียังตัดความเป็นไปได้ที่จะมีการหารือเพิ่มเติม บ่งชี้ว่า เขาตัดสินใจไว้ก่อนแล้วว่าจะลาออก
ทั้งนี้ เลบานอนประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักมานานหลายปีแล้ว โดยค่าเงินลีรา ลดลงกว่า 90% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี หลังจากประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของกลุ่มชนชั้นสูง และความไม่พอใจในภาวะเศรษฐกิจซบเซา กับการว่างงาน เมื่อเดือนตุลาคม 2562
เลบานอนไม่มีรัฐบาลมาตั้งแต่นาย ฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีรักษาการ ลาออกหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือกรุงเบรุตในเดือนสิงหาคม 2563 ทำให้เกิดสูญญากาศทางอำนาจ ส่งผลให้ภาวะการเงินของเลาบานอนดิ่งเหว ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว
การลาออกของนายฮาริรียังทำให้ค่าเงินลีราลดลงไปอีก นอกจากนั้นยังเกิดการประท้วงขึ้นตามท้องถนน ผู้ชุมนุมปิดถนนหลวงหลายเส้นทาง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ที่เมืองไทร์ กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตบุกทำลายร้านอาหารและคาเฟ่ ขับไล่ลูกค้าออกจากร้านด้วย