เข้ามอบตัวกลางดึก! “สิบเอก” ลูกเจ้าของโรงสี ถูกสาวธุรการทหารแจ้งพยายามข่มขืน

นายทหารพระธรรมนูญ นำตัว “สิบเอก” ที่ถูกหญิงสาวธุรการทหารที่กาญจนบุรี แจ้งความคุกคามทางเพศ บุกบ้านพักขอมีเพศสัมพันธ์ พยายามข่มขืนฯ เข้าพบตำรวลาดหญ้า กลางดึก รับทราบ 4 ข้อหาฉกรรจ์ทั้งความผิดทางเพศ บุกรุกเคหสถาน ทำให้เสียทรัพย์ ให้การปฏิเสธทุกข้อหา

จากกรณีที่ “กัน จอมพลัง” นำเหยื่อสาวธุรการทหารที่ถูก สิบเอกหื่น บุกปล้ำจะข่มขืน พบตำรวจ สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีถูกล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.ย. 65 พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือตรวจสอบสถานะบุคคลและแจ้งให้ทางหน่วยบังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาทราบว่า บุคลากรในหน่วยงานถูกดำเนินคดีข้อหาคดีอาญา จากนั้น เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.00 น. ทางหน่วยบังคับบัญชาได้ประสานนำเอกสารยืนยันสถานะและนำตัว ส.อ.กิตติศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหามาพร้อมนายทหารพระธรรมนูญและทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ลาดหญ้า เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญา

ต่อจากนั้น พ.ต.ท.วิทวัช น้อยพานิช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตร (สอบสวน) พนักงานสอบสวน ไ้ด้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ส.อ.กิตติศักดิ์ ใน 4 ฐานความผิด คือ 1.พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ (ป.อาญา มาตรา 276 ประกอบกับ มาตรา 80) 2.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และได้กระทำโดยใช้วัตถุอื่นหรืออวัยวะอื่น ซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น (ป.อาญา มาตรา 278 วรรคแรก และวรรคสอง) 3.เข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร (ป.อาญา มาตรา 364) และ 4.ทำให้เสียทรัพย์ (ป.อาญา มาตรา 358) ซึ่งผู้ต้องหาได้รับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อย ต่อจากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อมีหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนั้นได้ขอประกันตัว แต่เนื่องจากผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน จึงได้รับการปล่อยตัวไปตามสิทธิ์

ในส่วนพนักงานสอบสวน ได้แจ้งผลการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อทางผู้กล่าวหาให้ทราบแล้ว หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมและรวบรวมพยานหลักฐานยื่นเสนอต่ออัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายต่อไป

“การสอบสวนดำเนินคดีถือเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ จึงกำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว ทำคดีอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยความรอบคอบรัดกุม ที่สำคัญคือให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย” พ.ต.อ.เตชินท์ กล่าว

สำหรับกรณีนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย. 65 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อม น.ส.ออย (นามสมมติ) ผู้เสียหายจากการถูกทหารยศสิบเอกคุกคามทางเพศ ได้มาติดตามความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดี โดยเข้าพบ พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.วิทวัช น้อยพานิช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า ร่วมให้ข้อมูลที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ลาดหญ้า

ในวันดังกล่าว พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและสืบสวนเบื้องต้นทราบพฤติการณ์ของคดีนี้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ น.ส.ออย ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักข้าราชการทหาร ได้มี ส.อ.กิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานได้บุกรุกเข้ามาภายในบ้านพักของน.ส.ออย แล้วล็อกประตูบ้าน ต่อมา ส.อ.กิตติศักดิ์ได้สอบถาม น.ส.ออย ว่าแฟนอยู่หรือไม่ เมื่อรู้ว่าแฟนของน.ส.ออย ไม่อยู่ที่บ้านพักอาศัย ส.อ.กิตติศักดิ์ ได้เข้าไปลวนลามน.ส.ออยโดยการกอดจากบริเวณด้านหลังพร้อมทั้งพูดกับ น.ส.ออย ในทำนองขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งในขณะเวลาดังกล่าว น.ส.ออย ไม่ยินยอม จึงได้บอกกับผู้ก่อเหตุว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปบอกแฟนของผู้ก่อเหตุ และนำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพและคลิปวิดีโอเอาไว้ส.อ.กิตติศักดิ์ เห็นดังนั้นจึงได้ใช้มือปัดโทรศัพท์มือถือหล่นลงกับพื้นได้รับความเสียหาย

จากนั้นได้ลวนลามและพยายามข่มขืน น.ส.ออย ด้วยวิธีการกัดหัวนมของ น.ส.ออย จากบริเวณด้านนอกเสื้อ ถอดกางเกงออก เอามือล้วงเข้าไปในกางเกงในของน.ส.ออย แล้วเอานิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ และได้นำองคชาตมาจ่อที่บริเวณอวัยวะของ น.ส.ออย แต่ไม่สามารถกระทำไปได้สำเร็จโดยตลอด เนื่องจาก น.ส.ออย ได้ออกอุบายให้ ส.อ.กิตติศักดิ์ หยุดการกระทำ และอยู่ระหว่างมีประจำเดือนเพศหญิง หลังเกิดเหตุส.อ.กิตติศักดิ์ ได้หลบหนีไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมา น.ส.ออย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ดำเนินคดีกับส.อ.กิตติศักดิ์

ทั้งนี้ น.ส.ออย กล่าวว่า ตนเป็นผู้ถูกกระทำได้เข้าไปแจ้งรองผู้บัญชาการว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น รองผู้บังคับบัญชาแจ้งว่าจะให้ผู้กระทำผิดมาขอขมา แต่ผ่านไป 5 วันยังไม่มีความคืบหน้า สามีเลยพามาลงบันทึกประจำวันในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ทางร้อยเวรแนะนำให้กลับไปคุยกับผู้บังคับบัญชาก่อน ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมให้กลับมาแจ้งความใหม่ หลังจากนั้น ตนกลับไปพบผู้บังคับบัญชาพร้อมบันทึกประจำวัน ผู้บังคับบัญชาบอกว่าภายในวันนี้จะให้ผู้กระทำผิดมาเยียวยาค่าเสียหายและมาขอขมาแต่ทางครอบครัวของตนไม่ยอมเพราะ ถูกเพิกเฉย ผ่านไป 7 วันเรื่องไม่คืบหน้าจึงขึ้นไปหาผู้บัญชาการอีกครั้ง มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ไม่ได้สอบสวนเรื่องตนถูกละเมิด เป็นตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีรูปหลุดของผู้กระทำความผิดในโลกออนไลน์ ทำให้ตนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตนจึงกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอความช่วยเหลือจากสื่อ เพราะกังวลเรื่องที่ทางผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการทหารด้วย เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเขาไม่เคยมาทำงานเลยมาแค่ตอนสอบ เรื่องที่สอบก็คือเป็นภาพหลุดไปที่เขาก็ทำอนาจารคนอื่นแล้วกลัวว่ามันจะเสียหายต่อหน่วย เรื่องที่ตนโดนกระทำ การพยายามข่มขืนกลายเป็นเบี่ยงประเด็นไม่เรียกสอบ ในวันนั้นได้ถามหาว่าเมื่อไหร่จะสอบเรื่องของหนู ถัดไปอีกวันถึงสอบ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเร่งด่วน

น.ส.ออย เผยต่อว่า ทางผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมแบบนี้กับผู้หญิงหลายคน ในหน่วยก็ 2-3 คน ผู้ก่อเหตุชอบมีอะไรกับคนอื่นแล้วเอาคลิปมาประจาน เอามาอวดอ้างที่ทำงาน ว่าได้คนนี้แล้ว แอบถ่ายคลิปน้องคนนี้ ด้วยความที่ผู้ก่อเหตุเป็นลูกเจ้าของโรงสี ทุกคนคิดว่าเขามีเงิน ทุกคนจะแบให้เขา แต่ทางผู้เสียหายมีครอบครัวแล้ว ไม่สามารถแบให้เขาได้ ทางผู้เสียหายจึงเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จะมาข่มเหง เพราะเป็นเด็กนาย เป็นเจ้าของโรงสี เพราะแบบนี้ ทางผู้เสียหายจึงต้องสู้.