ผู้นำยูเครนออกแถลงการณ์ล่าสุด พูดปลุกใจให้ชาวยูเครนอดทน และช่วยกันสกัดกั้นการรุกรานของรัสเซียต่อไป โดยจากการสู้รบในช่วง 7 วันที่ผ่านมา กองทัพยูเครนสามารถปลิดชีพทหารรัสเซียได้แล้วกว่า 9,000 ศพ
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนแถลงไปยังชาวยูเครนทั่วประเทศ เรียกร้องให้อดทนอดกลั้น และช่วยกันสกัดกั้นการรุกรานจากรัสเซียต่อไป โดยเปรียบเทียบทหารรัสเซีย เป็นเด็กที่สับสน ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ พร้อมยืนยันว่ากองกำลังรัสเซียที่บุกเข้ามาในยูเครนจะไม่มีวันได้เจอกับความสงบสุขและจะไม่ได้พัก ตราบใดที่ยังอยู่ในแผ่นดินของยูเครน โดยทหารยูเครนได้ทำลายแผนของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทหารรัสเซียจะไม่มีอาหาร และพวกเราจะขับไล่รัสเซียออกไปได้ โดยจากการสู้รบในช่วง 7 วันที่ผ่านมา กองทัพยูเครนสามารถปลิดชีพทหารรัสเซียได้แล้วกว่า 9,000 ศพ
ขณะเดียวกันประธานาธิบดียูเครนยังมีการยกคำพูดบางส่วน โพสต์ลงในโซเชียลมีเดียระบุว่า รัสเซียจะไม่มีวันได้อะไรไปจากที่นี่ จะไม่มีใครมาพิชิตอะไรไปได้ แม้ว่าทางฝั่งนั้นจะมีกำลังและยุทโธปกรณ์มากกว่าก็ตาม มันก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร พร้อมบอกให้ทหารรัสเซียกลับบ้านไปซะ
อย่างไรก็ตาม ในถ้อยแถลงดังกล่าวผู้นำยูเครนไม่ได้ชี้แจงหรือให้ความเห็นว่ารัสเซียสามารถยึดครองเมืองใดได้แล้วบ้าง หลังจากรัสเซียเพิ่งประกาศว่าสามารถเข้ายึดเมืองเคอร์สันได้แล้ว โดยก่อนหน้านี้กองทัพรัสเซียยังอ้างว่าสามารถยึดท่าเรือทะเลดำได้แล้วด้วย ซึ่งสำนักข่าวเอพีรายงานว่ายังไม่ยืนยันสถานการณ์ในเมืองเคอร์สัน เพราะยังคงมีการสู้รบกันอยู่
ทั้งนี้ รัสเซียระบุว่าจากการสู้รบที่ผ่านมารัสเซียสูญเสียกองกำลังทหารไปแล้วเกือบ 500 นาย และมีทหารบาดเจ็บอีกเกือบ 1,600 นาย ขณะที่ทางการยูเครนไม่ได้เปิดเผยตัวเลขความสูญเสียของกำลังทหาร แต่รายงานจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตจากการสู้รบครั้งนี้กว่า 2,000 ศพ ส่วนองค์การสหประชาชาติระบุว่านับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังบุกเข้าไปยังยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 136 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 13 ศพ.
ที่มา : เอบีซีนิวส์