เปิดประวัติ “บิ๊กตี๋” พลเอก รังษี กิติญานทรัพย์ ผอ.ททบ. 5 หลังยื่นลาออก เซ่นปมสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กบี้” ผบ.ทบ.
หลังจากที่พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานบอร์ด สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) มีคำสั่งให้ พลเอก รังษี กิติญานทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่
โดยให้ พลโท วิสันติ สระศรีดา อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน เป็นต้นไป สาเหตุคาดว่าจะมาจากปมปัญหาการนำเสนอข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้สปอตไลท์จับจ้องไปที่ “พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์” ผอ.ททบ.5 ที่กำลังจะเป็นอดีตในอีกไม่กี่วัน
พลเอก รังษี หรือบิ๊กตี๋ เติบโตจากครอบครัวที่ทำธุรกิจโรงหล่อพระ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) รุ่นเดียวกับ “พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ” หรือบิ๊กบี้ ผู้บัญชาการทหารบก คนปัจจุบัน และยังเป็นฐานะประธานบอร์ด สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) แต่อยู่เหล่าคนละเหล่า โดย “บิ๊กตี๋” อยู่เหล่าทหารม้า ส่วน “บิ๊กบี้” อยู่เหล่าทหารราบ
ว่ากันว่าในสมัยเรียนรร.จปร. ในทุกเช้า “บิ๊กตี๋” จะทำหน้าที่เล่าข่าว สรุปประเด็นเหตุบ้านการเมือง ทั้งเศรษฐกิจ ต่างประเทศ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์แบบถึงลูกถึงคน เป็นที่ถูกอกถูกใจของนักเรียน จปร. จึงเป็นที่มาของฉายา “รังษี หยุ่น”
“บิ๊กตี๋” ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 ดูแลความสงบเรียบร้อย 25 จังหวัด ยุค คสช. ในช่วงที่ “พล.อ.ณรงค์พันธ์” นั่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และช่วยงานจิตอาสาควบคู่ไปด้วย
ก่อนที่ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ จะเลือกเพื่อนรัก “บิ๊กตี๋” พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ นั่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5 )
ชื่อของ “พลเอก รังษี” ถูกกล่าวขานถึงในเวทีอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ หลังฝ่ายค้านตั้งข้อสังเหตุ ถึงความไม่โปร่งใสและเป็นกลางในการนำเสนอข่าวของ “ททบ.5” หลังเปิดให้บริษัทเอกชนร่วมผลิตรายการ
สำหรับ “ททบ.5″ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี แม้ที่ผ่านมาผู้บริหารคนแล้วคนเล่าพยายามเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้แต่ยุค “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.นั่งเป็นประธานบอร์ด ก็เคยมีข้อเสนอให้เอกชนเข้ามาบริหารแทนทหารแต่ไม่มีเสียงสนับสนุน ข้อเสนอดังกล่าวจึงตกไป
5 ปีแรกของผอ.ททบ. 5 “บิ๊กตี๋” ฟันธงว่า ช่อง 5 จะพึ่งพาเรตติ้งไม่ได้ เราเหมือนจระเข้ที่อยู่ในฟาร์ม มีแต่คนโยนไก่ให้กิน มาถึงตอนนี้ต้องออกจากฟาร์ม เพราะขนาดจระเข้ก็ยังไปไม่เป็น ทหารสมัยนี้ไม่ได้โง่ พอจะรู้เรื่องเศรษฐกิจ ถึงได้รู้ว่าเราต้องพยายามขวนขวายหาโปรเจกต์ใหม่ๆ
จึงเป็นที่มาของบิ๊กโปรเจ็คทั้งการรุกหนักอี-คอมเมิร์ซ ด้วยการจับมือกับ JD.com ประเทศจีน นำสินค้าเกษตรไทย เช่น ทุเรียน ข้าวหอมมะลิ ฯลฯ ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เน้นสินค้าระดับพรีเมียมเป็นหลัก
การสัมปทานเหมืองแร่ควอตช์ คุณภาพสูง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ลากยาวไปถึง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นำไปผลิตแผงโซลาร์เซล สร้างกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เมื่อทำแผนเสร็จจะชวนเพื่อนซี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เข้าพบ นายก ฯ เพื่อพิจารณาถึงหลักการ เหตุผลและความจำเป็น นำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในโอกาสต่อไป
ต่อด้วยลงทุนโครงการโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้า หรือ”เมกะโซลาร์ ฟาร์ม” โดยเล็งพื้นที่ราชพัสดุทั่วประเทศที่อยู่ในความดูแลของกองทัพบก 4 ล้านไร่ แต่คาดว่าจะใช้พื้นที่จัดทำโครงการราว 2.4 แสนไร่ โดยทุกๆ 8 ไร่ จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 1 เมกะวัตต์ พร้อมให้ กฟผ. ปตท. และเอกชนที่สนใจร่วมลงทุน
แต่หลายโปรเจ็คยังไม่คืบหน้า ไม่ว่าจะเป็นอี-คอมเมิร์ซ สัปทานเหมืองแร่ควอตซ์ รวมถึงโครงการ “เมกะโซลาร์ ฟาร์ม” บนพื้นที่ราชพัสดุ 2.4 แสนไร่ ที่อาจขัดกับระเบียบว่าด้วยการใช้พื้นที่ราชพัสดุ อีกทั้งหน่วยทหารเจ้าของพื้นที่ก็ไม่ร่วมวงด้วย
พลเอก รังษี เข้ารับตำแหน่งผอ.ททบ. 5 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 และกำลังจะถึงวัยเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ นับถอยหลังเหลืออีกไม่กี่วัน แต่ท่ามกลางกระแสความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวสาร โดยเฉพาะปมปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน
“บิ๊กตี๋” ก็ตัดสินใจยื่นใบลาออก ขอพ้นจากเก้าอี้ ผอ.ททบ. 5 ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว
วันนี้ (29 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานกรรมการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ และให้ พล.ท.วิสันติ สระศรีดา เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.เป็นต้นไป
พล.อ.รังษี บอกว่าตนทำหนังสืออนุมัติถึง ผบ.ทบ. ขอพ้นหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว
“ซึ่ง ผบ.ทบ.ลงนามอนุมัติให้พ้นจากหน้าที่ และไม่ขอพูดอะไร พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ยืนยันว่าไม่ใช่การปลด แต่ผมขออนุมัติพ้นจากหน้าที่เอง อย่าบอกว่าปลด ไม่แฟร์กับ ผบ.ทบ. ผมเพิ่งได้รับคำสั่งเมื่อเช้า ก่อน ผบ.ทบ.เดินทางไป สปป.ลาว”
ซึ่งย้อนแย้ง กับข้อมูลจาก แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงกลาโหม ที่เปิดเผยกับว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้หารือกับ นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ โดยมี ผบ.ทบ. ร่วมหารือพูดคุยด้วย
จึงเห็นตรงกันคือ ให้ปลดออกจาก ผอ.ททบ.5 โดยที่ผบ.ทบ. แจ้งให้ทำหนังสือลาออก จริงคือ “ปลด” นั่นเอง