จับแล้ว ลูกน้องโหด เตะนายจ้าง เสียชีวิตคาเท้า ก่อนนำศพหมกป่าข้างทางย่านบางพลี เปิดปากสารภาพปมแค้น หลังหายโควิด ตัดสินใจเข้าไปเคลียร์
จากกรณีพบศพชายถูกฆาตกรรมนำศพมาหมกไว้ในป่าข้างทาง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว คาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายคือ นายมกรธวัช ก้องวัฒนพงศ์ อายุ 37 ปี อาชีพผู้รับเหมาต่อเติมบ้านและอาคาร โดยพักอยู่ห้องเช่าย่านวัดหนามแดง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนิว ลูกน้องคนสนิท หลังจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ต.ค.2565 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลภล แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้วร่วมกันควบคุมตัว นายจีระศักดิ์ หรือ นิว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี มาสอบปากคำและร่วมกันแถลงปิดคดีนี้ พร้อมของกลางที่ติดตามยึดคืนมาได้ ประกอบด้วย รองเท้าหัวเหล็กที่ใช้สวมใส่ก่อเหตุฆ่าผู้เสียชีวิต รวมถึงอุปกรณ์เครื่องช่างที่ชิงทรัพย์ไปหลังก่อเหตุ
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง โดยสาเหตุมาจากความคับแค้นใจเรื่องทำงาน ประกอบกับค่าแรงที่ผู้ตายจ่ายล่าช้า อีกทั้งก่อนก่อเหตุ ผู้ต้องหาติดโควิดและต้องหยุดทำงานทำให้ไม่มีเงินในการใช้จ่าย อีกทั้งภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน จึงเกิดความเครียดสะสม กระทั่งออกจากโรงพยาบาลที่ไปรักษาตัวเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงแวะซื้อสุรามาดื่มจนเมาได้ที่ตัดสินใจเดินทางมาหาผู้ตายที่ห้องพักเพื่อเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ด้วยความที่ผู้ต้องหาอารมณ์ร้อนพอเดินทางมาถึงจึงลงมือก่อเหตุด้วยการชกต่อยและเตะด้วยรองเท้าคอมแบทหัวเหล็กไปหลายครั้งจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุกลัวความผิด จึงนำรถยนต์ของผู้ตายใส่ศพนำมาทิ้งข้างทาง จากนั้น จึงย้อนกลับมานำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปจอดไว้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า โดยที่ผู้ต้องหารายนี้ระหว่างนั้นได้วางแผนสร้างเรื่องราวทั้งหมดให้เปรียบเสมือนผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ด้วยการนำโทรศัพท์ของผู้ตายโพสต์ข้อความได้งานใหม่ที่ จ.สงขลาและ จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งมีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของผู้ตาย กระทั่งสามารถขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้สำเร็จ
จากนั้นผู้ต้องหาจึงติดต่อภรรยาตัวเองรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ด้านภรรยาและมารดาจึงให้มอบตัวจนกระทั่งฝ่ายสืบสวนไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว หลังจากนี้จะขยายผลติดตามรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขายไปตามกลับคืนมา รวมถึงขยายผลผู้ที่รับซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย เนื่องจากทราบว่าเป็นขบวนการรับซื้อรถผิดกฎหมายและส่งขายต่างประเทศ
ด้าน นายนิว ให้สัมภาษณ์ก่อนการแถลง โดยยอมรับว่า ลงมือก่อเหตุจริง คืนวันเกิดเหตุตนมาที่ห้องพักของผู้ตาย พอมาถึงจึงเปิดประตูเลื่อนเข้าไป ทำให้ผู้ตายเห็นตนและรีบเข้าห้องพัก ตนจึงวิ่งตามเข้าไปในห้องของผู้ตาย จากนั้น ใช้มือชกเข้าที่ขมับขวา 1 ครั้งจนล้มลงทั้งคู่ และมีการต่อสู้กัน พอตนตั้งหลักได้ จึงตีเข่าใส่ผู้ตายไปครั้งหนึ่งจนล้มลง
นายนิว กล่าวต่อว่า จากนั้นใช้เท้าที่ใส่รองเท้าหัวเหล็กเตะอัดที่ลำตัวของผู้ตายไปอีกหลายครั้ง จนแน่นิ่งแล้วเตะซ้ำที่ลำคอของผู้ตายอีกหลายครั้งจนผู้ตายสลบไป ด้วยความกลัวในความผิดที่ทำไปจึงตัดสินใจนำรถกระบะของผู้ตายมาจอดเทียบหน้าห้องพักเพื่อนำร่างผู้ตายขึ้นรถ ระหว่างนั้นยอมรับว่าตนยังเตะซ้ำที่ก้านคอและลำตัวของผู้ตายอีกครั้งเพราะกลัวจะฟื้น จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จึงนำเชือกที่อยู่ท้ายรถมามัดแขนและขาของผู้ตาย ก่อนจะนำใส่รถมาโยนทิ้งข้างทาง
นายนิว กล่าวอีกว่า หลังก่อเหตุได้นำเครื่องมือช่างที่อยู่หลังรถไปขาย รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปโพสต์ขายดังกล่าว ก่อนจะติดต่อครอบครัวและกลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่ที่ย่านฉะเชิงเทรา ต่อมาพบเป็นข่าวว่าตำรวจไปเจอศพแล้วจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาและแม่ฟังจนมาถูกจับกุมตัว
หลังจากแถลง เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายนิวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคุมการทำแผนอย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อเตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ