รัฐบาลไม่กล้าเบี้ยวสภาแล้ว ส่งรัฐมนตรีแจงกระทู้ครบถ้วน “พิธา” จี้ “บิ๊กตู่” สางวิกฤติราคาพลังงาน-ค่าครองชีพ แนะ “อาคม” ใช้รถสาธารณะจะได้รู้ความเดือดร้อนชาวบ้าน รมว.คลังรับ สมช.ไม่ถนัดด้านเศรษฐกิจ แต่เชื่อจะหาทางออกได้ “บิ๊กตู่” เมิน “ธรรมนัส” ขย่มเวทีซักฟอก “เสี่ยเฮ้ง” มั่นใจบารมี “ลุงป้อม” เอาพรรคเล็กอยู่หมัด แซะ “คู่แค้น” ทำเพื่อความสะใจ ไร้อุดมการณ์ “ป้อม” ไม่หวั่น “ตู่” หวาดระแวง “ผู้กอง” สุมหัวพรรคเล็กถกซักฟอก “วิษณุ” เตือน ส.ส.ย้ายพรรค อาจติดบ่วงหากรัฐบาลอยู่ครบเทอม “จตุพร” ชวนคนไทยเข็นรถผู้นำลงเหวไปคนเดียว “โรม” บี้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉะทรราช ใช้ ก.ม.เป็นเครื่องมือ
หลังถูกนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวตำหนิกลางสภาตรงๆไปยังนายก รัฐมนตรีมองไม่เห็นหัวฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่กำชับรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้ถาม ล่าสุดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณากระทู้ถามสด 3 เรื่อง รัฐบาลส่งรัฐมนตรีมาชี้แจงครบถ้วนทุกกระทู้
“พิธา” กระทู้ถาม “ตู่” สางวิกฤติ
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เรื่องการแก้ไขปัญหาวิกฤติพลังงาน และค่าครองชีพ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มามอบหมายให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงแทน นายพิธากล่าวว่า ปัญหาวิกฤติพลังงานที่พุ่งสูง ต้องใช้งบเยียวยากว่า 5 แสนล้านบาท ควรช่วยเหลือแบบตรงจุด โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซล ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมด ปัจจุบันมีผู้ใช้รถเบนซ์ที่ใช้น้ำมันดีเซลได้รับการช่วยเหลือด้วย ขณะที่การใช้น้ำมันของกลุ่มเปราะบาง 4.3 ล้านคน เป็นคนจน ใช้น้ำมันเบนซิน การที่รัฐบาลมอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูแลแผนแก้วิกฤติพลังงาน-อาหาร ยังสงสัยในความเชี่ยวชาญ
“อาคม” แจง สมช.ไม่ถนัด ศก.
นายอาคมชี้แจงว่า รัฐบาลมีแผนและมาตรการช่วยเหลือประชาชนผ่านเครื่องมือทางการคลัง เช่น ลดภาษีน้ำมันดีเซล ไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาขนส่ง ค่าครองชีพ ยังมีมาตรการพยุงราคา ส่วนการเจรจากับโรงกลั่นต่อการลดค่าการกลั่นนั้น คาดว่า 1-2 วันนี้ จะมีความก้าวหน้า ในภาวะปกติไม่เคยมีการขึ้นราคา แต่ในภาวะช็อกแบบนี้ต้องพิจารณาถึงการปรับราคา นอกจากนั้นยังมีมาตรการประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทดแทน สำหรับข้อเสนอต่อการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม รับว่าจะกลับไปคิด ส่วนการให้ สมช.มาดูแลแก้ปัญหานี้ เพราะ สมช.เป็นหน่วยงานความมั่นคง ทั้งความมั่นคงประเทศ การทหาร เศรษฐกิจ และสังคม แต่เรื่องเศรษฐกิจอาจต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ เชื่อว่า สมช.จะได้รับความร่วมมือ มีการประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง น่าจะมีข้อสรุปเสนอแนะต่อนายกฯต่อไป
ย้อนให้ไปลองขึ้นรถประจำทาง
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายพิธาตั้งคำถามถึงการเลื่อนโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้ไฟฟ้าออกไป โดยอ้างว่าต้องรอสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา นายอาคม ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องผ่านการพิจารณาของสภาพัฒน์ นายพิธาจึงกล่าวชวนนายอาคมให้ลองใช้รถโดยสารประจำทาง จะได้ทราบปัญหา หลังเลิกประชุมสภาฯจะใช้บริการรถโดยสารประจำทางกลับบ้านด้วย
รัฐบาลไม่กล้าเบี้ยวกระทู้สด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาฯในวันนี้มีวาระพิจารณากระทู้ถามสด 3 กระทู้ ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีมาตอบชี้แจงครบทุกกระทู้ กระทู้แรกเป็นนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สอบถามเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่นายกฯมอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทน กระทู้ที่ 2 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และกระทู้ที่ 3 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย สอบถามนายกฯเรื่องปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงแทน หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวตำหนิไปถึงนายกฯที่ปล่อยปละละเลยไม่กำชับรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้ของ ส.ส.
“บิ๊กตู่” หนุนแรงงานปลอดภัย
วันเดียวกัน ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานความปลอดภัย และอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (Thailand Safe@Work 2022) และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการที่ได้รับรางวัลกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัย มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ร่วมงาน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มผู้ประกอบการ จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนทดแทน พบอัตราการประสบอันตรายมีแนวโน้ม ลดลงตามลำดับ แต่ยังไม่น่าพอใจต้องลดลงให้มากที่สุดจนไม่มีเลย สิ่งสำคัญที่สุดลูกจ้างต้องมีสติ ไม่ประมาท ไม่ละเมิดกฎนิรภัย ขอฝากไปยังผู้ประกอบการให้ใช้แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายจะได้ไม่มีปัญหา รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะไปทำลายระบบ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมและสิทธิประโยชน์กับแรงงานครบถ้วน ขอสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมเชิงป้องกัน 3 ประการ คือการมีสติรู้ตัว มีวินัยถูกต้อง เอื้ออาทรใส่ใจ
เมิน “ธรรมนัส” ขย่มเวทีซักฟอก
ต่อมาหลังการเปิดงาน พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯโหวตให้รัฐมนตรีน้อย หรือโหวตไม่ไว้วางใจ ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยพิจารณาตัวเอง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถาม เดินขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาล
“เฮ้ง” มั่นใจในบารมี “ลุงป้อม”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามคนที่พูด เราไม่ได้สนใจว่าเขาจะพูดอะไร ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องพูดอย่างนั้น แต่เขาเป็นฝ่ายค้านหรือเปล่า อาจจะครึ่งๆเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เมื่อถามว่าต้องประสานพูดคุยกับพรรคเล็กหรือไม่ นายสุชาติตอบว่า พรรคเล็กทุกคนมีจุดยืน และ พล.อ.ประวิตรเป็นคนสมานความสัมพันธ์กับพรรคเล็กทั้งหมด “ขอถามสื่อว่าบารมีการเมืองของลุงป้อมวันนี้ ในไทย หรือพรรคไหน มีใครเท่าท่าน ผมถามแค่นั้น ดูได้จากวันโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2566 ลุงป้อมนั่งจนวันโหวตจบออกมา 278 คะแนน ฝ่ายค้านมีแค่ 194 คะแนน เราเป็นฝ่ายโดนยื่นก็ต้องตอบ แต่พรรคอื่นที่ออกมาพูด ก็ต้องไปถามพรรคเขา”
แซะ “ผู้กอง” ทำเพื่อความสะใจ
เมื่อถามว่าวิเคราะห์หรือไม่ทำไม ร.อ.ธรรมนัสถึงออกมาพูดในช่วงนี้ นายสุชาติตอบว่า ตอบแทนไม่ได้ แต่พูดในแง่ที่ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บางพรรคที่เคยเป็นฝ่ายค้านอย่างพรรคเศรษฐกิจใหม่ก็หันมาช่วยรัฐบาล แต่พรรคอื่นที่ออกมาพูด ให้สื่อไปถามถึงตรรกะที่เขาคิดเอาเอง เราทำงานการเมืองเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ได้เอาความสะใจ ถ้าใครทำการเมืองแค่เอาสะใจ ไม่มีอุดมการณ์ บทลงโทษจะเกิดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังเป็นหนึ่ง มีความรักสามัคคีกัน ไม่มีเรื่องต่อรองอะไรทั้งสิ้น ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองดี เมื่อถามว่า หาก 18 เสียงพรรคเศรษฐกิจไทยหายไป รัฐบาลยังอยู่ได้ใช่หรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ไม่กล้าพูดว่าเขาจะอยู่หรือไป ถ้าพูดว่าหายไปจะมาโทษตนอีกว่าพูดผลักเขาออกจากการสนับสนุนรัฐบาล แต่ถ้าเขาไม่อยู่เองอันนั้นต้องไปถามเขาว่ามีเหตุผลอะไร และการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ไม่สามารถไปบังคับใครได้
“ป้อม” ไม่หวั่น “ตู่” หวาดระแวง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยเองว่าเขาคิดอย่างไร ตนจะไปทราบได้อย่างไร เมื่อถามว่าท่าที่ของ ร.อ.ธรรมนัส จะทำให้นายกฯหวาดระแวงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีหรอก เมื่อถามย้ำว่าทำไม ร.อ.ธรรมนัส รัก พล.อ.ประวิตร แต่ไม่รัก พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตรตอบว่า จะไปทราบได้อย่างไร ต้องไปถามเขา กรณีมีชื่อถูกซักฟอกด้วยนั้น ไม่ต้องไปเก็งข้อสอบ ตอบได้ทุกข้อเพราะพูดแต่เรื่องจริง ถ้าไม่จริงก็บอกว่าไม่จริง อันไหนเรื่องจริงก็บอกว่าจริง
สุมหัวพรรคเล็กคุยปมซักฟอก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จับกลุ่มล้อมวงพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเล็ก ประกอบด้วย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. หัวหน้ากลุ่ม 16 นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ นายดํารงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่นายพีระวิทย์โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กระบุว่า “คงอยู่ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ท่านหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยได้มาสนทนาด้วยกว่าครึ่งชั่วโมง ถึงแนวทางรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีเร็วๆนี้…ติดตามกันต่อไป” นายดํารงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสแวะมาพูดคุยกับพรรคเล็กที่นั่งหารือกันอยู่ หลังรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันมา พูดคุยสัพเพเหระทั้งเรื่องการเมือง การตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้เวลาไม่นาน
ฉะผู้นำบริหารเกรงใจนายทุน
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไม่ใช่ญัตติเถื่อน เราจะอภิปรายพุ่งเป้าไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหา พล.อ.ประยุทธ์มักอ้างปัญหาสงครามทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น แต่ไม่เคยยอมรับว่าไร้ความสามารถในการบริหาร อ้างเพื่อปัดสวะให้พ้นตัว ไม่ยอมรับผิดชอบ และปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการบริหารแบบเกรงใจนายทุน พล.อ.ประยุทธ์เกรงใจเจ้าสัว ไม่กล้าออกมาตรการแก้ปัญหา หรือตรึงราคาสินค้าเพื่อช่วยประชาชน รัฐบาลปล่อยให้พ่อค้าปรับราคาสินค้าตามใจชอบ ที่บอกว่าเห็นใจผู้ประกอบการ แต่ไม่เห็นใจประชาชนใช่หรือไม่ แล้วจะมี พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปเพื่ออะไร
“ประวิตร” ได้หมดทุกสูตรคำนวณ
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรค การเมืองขนาดเล็กขอให้สนับสนุนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ว่า ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นเรื่องของ กมธ. เป็นเรื่องของสภาให้เขาว่ากันไป เมื่อถามว่า พรรค พปชร.จะหนุนสูตรคำนวณหาร 100 หรือ 500 พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร ต้องไปถามสมาชิกพรรค พปชร. เมื่อถามว่า แบบไหนจะเป็นผลดีต่อพรรค พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่รู้ อะไรก็ได้ ได้หมดแหละ”
เตือน ส.ส.ย้ายพรรคอาจติดบ่วง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีมีการตั้งคำถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อยู่ครบเทอม กรอบเวลาการย้ายพรรคของ ส.ส.จะเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า หากมีการยุบสภาต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน การย้ายพรรคของ ส.ส.จะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน ถือว่าทัน แต่หากสภาอยู่ครบวาระอาจไม่ทันเพราะต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่อย่าลืมว่า สภาปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. และรัฐบาลจะหมดวาระลงในเดือน มี.ค. มีเวลาอีกเกือบเดือนที่จะจัดการให้ทัน ตั้งพรรคใหม่ยังทันเลย
ท้าใครสงสัย 8 ปี ให้ยื่นศาล รธน.
นายวิษณุกล่าวอีกว่า ส่วนใครมีข้อสงสัยเรื่องวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้เลย เอาเลย ทำเลย ใครสงสัยก็ยื่นไปเลย เมื่อถามว่า ได้เตรียมข้อมูลทางกฎหมายไว้ช่วยนายกฯแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะถามมา ถ้าไม่ถามมา เราก็ไม่ไปยุ่งอะไร เอาไว้ให้ถามมาเราก็จะตอบ ฝ่ายกฎหมายรัฐบาลมีหลายหน่วยงาน ทั้งกฤษฎีกา อัยการ มีสำนักเลขาฯ ครม. แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร อยู่ที่ศาลจะใช้หลักอะไร เมื่อถามว่า ตกลงเริ่มนับวาระของนายกฯ ปีไหน นายวิษณุตอบว่า “ก็ไม่รู้ไง มันถึงยังสงสัยอยู่”
นายกฯมอบโล่ปราบยาเสพติด
ช่วงบ่ายที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2565 มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน เข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอชื่นชมแสดงความยินดี และเชิดชูเกียรติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทุกคน ที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ รัฐบาลให้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน แต่ต้องยึดหลักการตามมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ.2016 กำหนดแนวทางแก้ปัญหาไว้ 3 ประการ 1.ผู้เสพคือผู้ป่วย 2.การนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สาธารณสุข และส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลอดภัย และ 3.ผู้ค้ายาเสพติดถือว่าเป็นอาชญากรที่ต้องได้รับโทษ
ลั่นเอาจริงยึดทรัพย์แก๊งค้ายา
นายกฯกล่าวต่อว่า เรื่องการยึดทรัพย์ขอเตือนว่ารัฐบาลเอาจริง ไม่ว่าใครก็ตามทั้งหน้างานหลังงาน นายทุนต่างๆ ต้องถูกกวาดล้างทั้งสิ้น ด้วยวิธีการทางกฎหมายไม่ใช้วิธีการอื่น สิ่งสำคัญคือมาตรการป้องกันผู้เสพรายใหม่ เราต้องระมัดระวังที่สุดคือผู้เสพรายใหม่ ผู้ทดลองและเยาวชน ต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เราต้องสร้างภูมิกันให้ได้มากที่สุด ปฏิเสธการใช้ยาเสพติดทุกกรณี สร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงภัยและผลกระทบ อาจจำเป็นต้องบรรจุอยู่ในหลักสูตรสถานศึกษา และส่งเสริมให้หมู่บ้านชุมชน โรงเรียน ปลอดยาเสพติด ต้องขอบคุณ รมว.ยุติธรรมที่ผลักดันให้เป็นรูปธรรม ผลการปราบปรามดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมเมื่อปี 2561-2565 สถิติลดลง เราร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่วนใหญ่ผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จากสถิติไม่ใช่ว่าเราไม่จับแล้วดีขึ้น เรายิ่งจับให้มากขึ้นตามกฎหมาย แล้วยาเสพติดลดลงอันนี้เป็นสิ่งที่เรารับได้
“เสรีฯ” รับลูกสอบ ส.ว.เอื้อญาติ
ที่รัฐสภา นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผอ.กองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ยื่นเรื่องให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ปปช. สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบ ส.ว. ตั้งเครือญาติเป็นคณะทำงานหรือผู้ช่วย ผิดจริยธรรมฯและผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า แม้ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นผิดรัฐธรรมนูญ แต่อาจไม่เหมาะสม ต้องให้ กมธ.คนอื่นๆช่วยกันพิจารณา หากพบกระทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ ถ้าผิดร้ายแรงต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากไม่พบว่าผิด จะเสนอสภาฯขอแก้ไขระเบียบการแต่งตั้งผู้ช่วย ส.ส.และ ส.ว. เพราะบางคนตั้งมาก็ไม่ช่วยงาน แต่เอาเงินเข้ากระเป๋า อยากให้ลดจำนวนผู้ช่วยที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ให้มีเลยก็ได้ และเพื่อความเป็นธรรมกมธ.จะตรวจสอบกรณีนี้กับ ส.ส.ด้วย
ซัด “ประยุทธ์” ลอยตัวปมรถไฟฟ้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ถ้าเป็นรัฐบาลสุภาพบุรุษ ไม่ควรโยนเผือกร้อนให้ผู้ว่าฯ กทม. แถมยังใช้องคาพยพของพรรคการเมืองไปบูลลี่ผู้ว่าฯกทม. ดูยังไงก็เป็นเรื่องการเมือง ประชุม ครม.ก็เอาแต่บอยคอต แทนที่จะเข้าไปร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหา ให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา กลับปล่อยให้คนอื่นไปแก้ไข โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม
น่าจะมีปัญหา อย่างกรณีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม เขียนแปะข้างฝาไว้เลยว่า ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทัน จะล่าช้าไม่น้อยกว่า 2 ปี ทำให้ประเทศเสียหายอย่างที่สภาพัฒน์แจ้งไว้ 40,000 กว่าล้านบาท ต้องรอดูคำพิพากษาของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่จะพิจารณาคดีรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันที่ 4 ก.ค. ว่าจะมีคนซวยกี่คน นายกฯอย่าลอยตัว โปรดลงมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ชวนคนไทยเข็นรถผู้นำลงเหว
ช่วงสายที่กระทรวงการคลัง คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ยื่นหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ผ่านนายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรประจำนายกรัฐมนตรี เรียก ร้องให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ปตท. เรียกประชุมบอร์ดผู้ถือหุ้น ปตท. เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ลดราคาค่าการกลั่น ยกเลิกราคาสมมติอ้างอิงสิงคโปร์และซาอุดีอาระเบีย และคืนกิจการพลังงาน ทรัพยากรพลังงาน ให้เป็นของประชาชน นายจตุพรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชักชวนคนไทยเข็นรถ แต่ในฐานะคนขับท่านกำลังหันหัวรถลงเหว จึงอยากชวนคนไทยลงจากรถ แล้วเข็นรถให้นายกฯลงเหวไปคนเดียว วันที่ 1 ก.ค.จะไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่กระทรวงพลังงาน และวันที่ 3 ก.ค.จัดชุมนุมใหญ่ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. เพื่อเปิดโปงเบื้องหลังเหตุราคาพลังงานสูงกว่าความจริง
“โรม” บี้ “บิ๊กตู่” เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตั้งกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีรัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉิน 18 ครั้ง ว่า รัฐบาลมักอ้างใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดโควิด-19 ขอถามว่า การชุมนุมครั้งใดบ้างที่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด มีความจำเป็นอะไรต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป เหตุใดไม่ใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ถ้าไม่มีความคิดจะเลิกให้ตอบไปเลยว่าจะใช้ตราบชั่วฟ้าดินสลาย วันที่ 1 ก.ค. โควิดจะเป็นโรคประจำถิ่น การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เหมาะสมหรือไม่ ส่วนที่กทม.เปิดพื้นที่ให้ชุมนุมทางการเมืองได้นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกับผู้ชุมนุม และการเปิดพื้นที่จำกัดอยู่เฉพาะแค่ กทม. แต่จังหวัดอื่นกลับไม่มีพื้นที่แสดงออกเหมือน กทม. และทำไมจึงใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ดำเนินคดีกับเฉพาะคนบางกลุ่ม แต่อีกกลุ่มไม่โดน
ฉะทรราชย์ใช้ ก.ม.เป็นเครื่องมือ
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถบริหารประเทศ อยากส่งเสียงร้องให้ได้ยินด้วยการชุมนุมทางการเมือง แต่ที่ผ่านมามีคน 1,473 คนถูกดำเนินคดี แม้กระทั่งเดือน มิ.ย.ที่โควิดคลี่คลายแล้ว ยังถูกดำเนินคดีจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 21 คน รัฐบาลไม่ได้ต้องการปกครองประเทศด้วยกฎหมาย แค่อ้างกฎหมายเวลาที่ได้ประโยชน์ ยามใดที่เสียประโยชน์จะอ้างเรื่องความจำเป็น และมีกรอบอำนาจที่เขียนไว้กว้างๆเพื่อไม่ให้รับผิดอะไรเลย เหมือนที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีสิ่งที่รัฐบาลทำคือความใจแคบ คือพฤติกรรมของทรราชย์ อวยพรให้ท่านมีอายุยืนเพียงพอที่จะเห็นประชาชนตราหน้าบอกลูกหลานว่าโตไปอย่าเป็นเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เรียนรู้ว่าผู้นำอย่างท่านสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างไร
“ชัยชาญ” แจง ก.ม.ใช้แทนยังไม่เสร็จ
จากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนนายกฯว่า วัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ ใช้ควบคุมเชื้อโควิดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ให้สร้างผลกระทบระบาดเป็นวงกว้าง บูรณาการทำงานอย่างรวดเร็ว แม้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายแต่ต้องเฝ้าระวัง เพราะการระบาดยังมีอยู่ มีสายพันธุ์ใหม่ๆเกิดขึ้น การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งล่าสุด เป็นข้อเสนอจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มิได้มีไว้ควบคุมการแสดงออกของประชาชน การดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีความเท่าเทียมกันทุกกลุ่ม ถ้าอยู่นอกกรอบกฎหมายต้องดำเนินคดี บางครั้งการชุมนุมใช้พลุ ระเบิดปิงปอง กระทบสิทธิผู้อื่น การถามว่า มีการชุมนุมครั้งใดแพร่เชื้อโควิดนั้น คิดว่าคงมี แต่ถ้าจะให้กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมข้อมูลมาคงรวบรวมยาก ส่วนจะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ศบค.ประเมินสถานการณ์ ส่วน พ.ร.บ.โรคติดต่อนั้น กระทรวงสาธารณสุขกำลังปรับปรุงกฎหมายเพราะยังไม่ครอบคลุมถึงโรคอุบัติใหม่
“ชวน” ออกจาก รพ.กลับบ้านแล้ว
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า อาการติดเชื้อในกระแสเลือดของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่เข้ารับการรักษาใน รพ.รามาธิบดี ดีขึ้น สดชื่นขึ้น ตามลำดับ ไม่มีอาการไข้หนาวสั่น ทีมแพทย์เห็นว่าแข็งแรงกลับสู่สภาพปกติ อนุญาตให้กลับบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 30 มิ.ย. แต่ต้องไปฉีดยาที่ รพ.อีก 5 วันต่อเนื่องนายชวนฟื้นตัวหายเร็วมากสำหรับคนอายุ 84 ปีถือว่ายอดเยี่ยมมาก ส่วนจะกลับมาทำหน้าที่เลยหรือไม่ ยังไม่ได้สอบถาม แต่ก็เซ็นเอกสารต่างๆอยู่ตลอดระหว่างพักรักษาตัวที่รพ.