แม้จะด้อยกว่าในเรื่องขนาดกำลังพลและภูมิประเทศ แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่้ค้ำคอทำให้ไต้หวันต้องจัดการซ้อมรบในเมือง เพื่อเตรียมพร้อมรับการบุกของจีนท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
ทหารไต้หวันจาก 2 หน่วย ได้เข้าร่วมการซ้อมรบในสถานการณ์จำลองที่เมืองเกาสง เมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยนับเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เพิ่มการลาดตระเวนอย่างผิดสังเกตในปีนี้ และการกระทบทั่งกันจากการที่จีนส่งเครื่องบินรบรุกล้ำน่านฟ้าเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน หลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว
พื้นที่ซ้อมรบถูกจำลองให้บ้านเรือนประชาชน มีป้ายร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยาและเบียร์ มีการใช้ระเบิด “aerosol” หรือ ระเบิดที่ใช้ออกซิเจนจากอากาศรอบข้างเพื่อสร้างการระเบิดที่อุณหภูมิสูง ทำให้เกิดควันสีชมพูลอยขึ้นไปในอากาศ และศพทหารปลอมนอนอยู่บนพื้น
ไต้หวันต้องเผชิญการข่มขู่ของจีนมหาอำนาจแห่งเอเชีย ที่มองไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังบีบให้กลับไปอยู่ในความปกครองของจีนในวันใดวันหนึ่ง และนับตั้งแต่ไต้หวันประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเมื่อปี 2559 จีนก็จัดการซ้อมรบและใช้แนวทางทางการทูตกดดันไต้หวันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้สันทัดกรณีมองว่าการซ้อมรบครั้งต่อ ๆ ไป ก็จะเน้นในเมือง เพื่อปกป้องประชากร 23 ล้านคน ตามเมืองใหญ่ ๆ เพราะแผนการรบของกองทัพจีนจะเน้นการบุกเมืองชายฝั่งเป็นอันดับแรก ก่อนคืบหน้าไปสู่พื้นที่ที่อยู่อาศัยและย่านการค้าที่มีประชากรมากขึ้น และสุดท้ายก็จะผลักดันเข้าไปในหมู่บ้านบนภูเขา และแม้นักวิเคราะห์จะเห็นพ้องกันในอดีตว่าจีนคงไม่ยึดไต้หวันง่าย ๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้จีนกลับเปิดช่องความเป็นไปได้ให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะการส่งเครื่องบินราว 970 ลำ เข้าไปในเขต ADIZ เมื่อปีที่แล้ว