ไทยเจอเพิ่ม เชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อยลูกผสม กรมวิทย์ระบุเป็นไฮบริด “XJ” จากชายไทยอาชีพพนักงานดีลิเวอรี แต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว ส่วน “XE” ก็ยังต้องเฝ้าระวัง พร้อมเร่งให้คนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่าเพิ่งหวังการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หลังพบการระบาดระลอกนี้เด็กเล็กติดเชื้อเพิ่ม-ยอดตายพุ่ง หวั่นหลังสงกรานต์จะยิ่งระบาดหนัก ขณะที่จีนยังอ่วมยอดเชื้อโควิดพุ่งในเซี่ยงไฮ้ หนำซ้ำพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยใหม่ผุดมาอีก
หลังจากที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ระบุพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ที่แยกสายพันธุ์ย่อยมาเป็น BA.1 BA.2 และต่อมามีการผสมกันกลายเป็นเชื้อแบบไฮบริด ที่เรียกว่า XE ซึ่งคาดว่าทำให้เชื้อแพร่ง่าย ติดต่อเร็ว และพบคนไทยติดเชื้อแล้ว 1 คน
ไทยเจอโอมิครอน BA.2 เยอะสุด
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการเฝ้าระวังสายพันธุ์โรคโควิด-19 ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจรหัสพันธุกรรม 2 พันกว่าตัวอย่าง พบสายพันธุ์เดลตา 3 ราย ในเขตสุขภาพที่ 8 ที่เหลือเป็นโอมิครอน คิดเป็นร้อยละ 99.8 จากนี้แทบจะไม่มีสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์อื่นๆในไทยแล้ว และพบสัดส่วนของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 อยู่ที่ร้อยละ 92.2 บางพื้นที่พบร้อยละ 100 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจวิเคราะห์ในผู้เสียชีวิตพบว่าเป็น BA.2 อยู่ที่ร้อยละ 82 ไม่ได้เยอะกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 92 ดังนั้นไม่ได้แสดงว่า BA.2 มีความรุนแรงมากกว่าโอมิครอนธรรมดาแต่อย่างใด ที่ชัดเจนคือ ในอังกฤษก็มี BA.2 เป็นสายพันธุ์หลักพบว่าแพร่เร็วชัดเจน ส่วนการหลบภูมิคุ้มกันนั้น ยังมีข้อมูลไม่มากพอว่ารุนแรงมากขึ้น อาจจะหลบภูมิได้มากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
แจงสายพันธุ์ย่อยลูกผสม
นพ.ศุภกิจกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์นั้น หากเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงจะเรียกสายพันธุ์ใหม่ แต่หากพบเปลี่ยนไม่มาก ยังรู้ว่าพ่อ แม่เป็นใครจะเรียกเป็นสายพันธุ์ย่อย กรณีการผสม 2 สายพันธุ์ในคนเดียวจะเรียกว่า Mixed inflection แต่หาก 2 สายพันธุ์ผสมพันธุ์เป็นตัวใหม่ มีสารพันธุกรรมจากทั้ง 2 สายพันธุ์ จะเรียกว่า “ไฮบริด” หรือลูกผสมจะใช้ชื่อเรียกขึ้นต้นด้วย X นำหน้า ตามด้วย A, B และอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีถึง 17 ตัว บางการผสมพันธุ์เคยพบมานานพอสมควร แต่มี 3 ตัวที่ยอมรับว่าเป็นไฮบริดจริง คือ ตัวแรก XA ตั้งแต่ ธ.ค.63 เป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างสายพันธุ์ B.1.1.7 กับ B.1.177 ตัวที่ 2 คือ XB ผสมระหว่าง B.1.634 กับ B.1.631 และตัวที่ 3 คือ XC ผสมระหว่าง AY.29 กับ B.1.1.7 เป็นต้น ปัจจุบันหมดไปจากโลกแล้ว เป็นธรรมชาติ เป็นกติกาของไวรัส ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร
พบชายไทยติดลูกผสม XJ
นพ.ศุภกิจกล่าวอีกว่า ส่วนสายพันธุ์ XE ตามที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดีรายงานว่าพบในไทย 1 รายนั้น เป็นการผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน คือ BA.1 กับ BA.2 แต่จริงๆ ที่ผ่านมามีการผสมของ BA.1 กับ BA.2 อยู่หลายตัว มีรหัสพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เกิดในพื้นที่ต่างกัน คำเรียกขึ้นต้นด้วย X และตามด้วยภาษาอังกฤษตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม กรมวิทย์มีการถอดรหัสพันธุกรรมสัปดาห์ละ 500-600 ตัวอย่าง พบ 1 รายเป็นพันธุ์ผสมเมื่อถอดรหัสพันธุกรรมพบว่ามีความใกล้เคียงกับสายพันธุ์ XJ เป็นการผสมสายพันธุ์ย่อยระหว่าง BA.1 กับ BA.2 เช่นกัน เป็นตัวที่พบในประเทศฟินแลนด์ รายที่พบดังกล่าวเป็นชายไทย อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานขนส่งดีลิเวอรี เนื่องจากเจอคนเยอะหลากหลายมีโอกาสติดเชื้อผสมพันธุ์กันได้ ทั้งนี้มีการตรวจพบเชื้อ 22 ก.พ.2565 ใน กทม. ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ขณะนี้หายดีแล้ว
แพร่เร็ว-จับตาความรุนแรง
นพ.ศุภกิจ กล่าวด้วยว่า ทั้ง XE หรือตัวอื่นๆ ยังไม่ได้ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการอยู่ระหว่างการส่งข้อมูลไปยังฐานข้อมูลกลางโควิดโลก หรือ GISAID และอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วอาจจะเป็นตัวอื่นก็ได้ อย่างไรก็ตามที่องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนเพราะอังกฤษวิเคราะห์แล้วว่า XE เทียบ BA.2 สามารถแพร่ได้เร็วกว่าร้อยละ 10 เลยต้องจับตา และอาจจะจับตาเรื่องความรุนแรงและการหลบภูมิ ซึ่งยังต้องรอข้อมูลอีกมาก
มีภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ใช่ไม่ติดเชื้อ
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวกรณีที่มีนักวิชาการระบุถึงภูมิคุ้มกันหมู่อาจไม่มีจริงว่า ข้อมูลโควิด-19 เปลี่ยนแปลงตลอด มีความไม่แน่นอนสูง ฉะนั้นการพิจารณาหรือตัดสินใจเรื่องใดในภาคปฏิบัติระดับประเทศต้องอาศัยความคิดเห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ของผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ความเห็นของคนใดคนหนึ่ง ยืนยันข้อมูลที่ออกไปจาก สธ.ศบค. คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นผู้ให้ความคิดเห็น รวมทั้งสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องย้ำว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์ คำว่าภูมิคุ้มกันหมู่มีหลายประเทศที่เป็นตัวอย่าง พอติดเยอะๆแล้วเกิดภูมิคุ้มกันมากๆ การระบาดก็ลดลง เป็นตัวยืนยันว่ามีภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ภูมิคุ้มกันหมู่ต้องตีความและแปลความกันใหม่ เนื่องจากหลายประเทศแย้งว่าฉีดวัคซีนไปเยอะทำไมยังติดเชื้ออยู่ ทั้งนี้ภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่ได้แปลว่ามีแล้วไม่ติดเชื้อ แต่มีแล้วติดเชื้อไม่ระบาดมากขึ้น การฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญการที่ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตลดน้อยลง ส่วนหนึ่งเพราะฉีดวัคซีนครอบคลุมค่อนข้างมาก ย้ำวัคซีนป้องกันการเสียชีวิตได้ ตัวเลขที่ผ่านมาลดได้ 40-50 เท่า
เด็กเล็กติดเชื้อเพิ่ม-ตายเยอะ
ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ระลอกนี้สถาน การณ์การติดเชื้อในเด็กเล็กเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 0-4 ปี ทั้งพบกลุ่ม 0-4 ปี เสียชีวิต 27 ราย มากกว่าระลอก เม.ย.64 ซึ่งเสียชีวิต 23 ราย เนื่องจากโอมิครอนแพร่เชื้อเร็วและเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว จึงไม่ค่อยสังเกตอาการเด็ก เมื่อเด็กป่วย พ่อแม่จึงรู้ช้า อีกทั้งเป็นวัยที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อที่พบการป่วยสูงสุดเวลานี้คือกลุ่มวัยทำงาน 30-39 ปี ส่วนกลุ่มวัยรุ่น 10-19 ปี แม้การติดเชื้อเริ่มลดลงเพราะเป็นช่วงปิดเทอม แต่ก็เป็นอีกกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่ไปสู่คนอื่นได้ จึงย้ำให้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิและป้องกันการป่วยหนักได้
“อนุทิน” เชื่อหลังสงกรานต์ป่วยพุ่ง
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการห้ามเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะธรรมชาติของการติดเชื้อโควิดคือการสัมผัส การรวมกลุ่ม การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง และใช้ขันน้ำร่วมกัน จะให้ใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี
ห่วงสูงวัย-เด็กเล็กยังไม่ฉีดวัคซีน
นายอนุทินกล่าวยอมรับว่าการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่กระทรวงสาธารณสุขยังเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชน จะทำหน้าที่ของมันได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อแล้วต้องควบคุมสถาน การณ์ให้ได้ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการ บางคนสามารถรับประทานยารักษาตามอาการ และหายโรคเองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กต่ำกว่า 5 ปี จึงจะเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุก แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะนี้พบว่าติดเชื้อจำนวนมาก อยากฝากให้พ่อแม่และผู้ปกครองงดพาเด็กเล็กไปโรง พยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง
ฝรั่งเศสมอบไฟเซอร์ 3.2 ล.โดส
วันเดียวกัน ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากรัฐบาลสาธารณรัฐฝรั่งเศส 3,268,620 โดส แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.วัคซีนไฟเซอร์ 400,140 โดสและอุปกรณ์การฉีด และ 2.วัคซีนไฟเซอร์ ชนิด Ready to Use (RTU) 2,868,480 โดส โดยมีนายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวของคุณและยินดีที่ได้ร่วมมือทุกมิติอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมยืนยันว่าไทยจะใช้ประโยชน์จากวัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และจะสนับสนุนการบริจาควัคซีนให้แก่ประเทศต่างๆ เช่นกัน
หายป่วยแซงติดเชื้อใหม่
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,892 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 24,826 คน มาจากเรือนจำ 20 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 46 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 27,254 คน อยู่ระหว่างรักษา 256,667 คน อาการหนัก 1,858 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 769 คน ขณะที่ผู้ป่วยเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้น 97 คน เท่ากับเมื่อวาน (3เม.ย.2565) เป็นชาย 53 คน หญิง 44 คน อายุ 60 ปีขึ้นไป 72 คน อายุน้อยสุดคือ 4 ขวบ เป็นผู้มีโรคเรื้อรัง 22 คน ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 คน ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,736,487 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,454,308 คน มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 25,512 คน ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 3 เม.ย. 85,734 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 130,139,978 โดส
กทม.รั้งแชมป์ติด-ตาย
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก ศบค.ระบุยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ กทม. 3,321 คน ชลบุรี 1,448 คน นนทบุรี 1,127 คน นครศรีธรรมราช 955 คน สมุทรปราการ 907 คน สมุทรสาคร 805 คน ขอนแก่น 666 คน สงขลา 581 คน ราชบุรี 573 คน ร้อยเอ็ด 567 คน และมี จ.ลำพูน จังหวัดเดียวที่พบผู้ติดเชื้อเป็นเลขหลักเดียวคือ 1 คน ขณะที่ กทม.ยังเป็นพื้นที่พบผู้ป่วยเสียชีวิตมากสุดที่ 18 คน
“เบิ้ล ปทุมราช” ซีซันนี้ไม่รอด
ขณะที่วงการบันเทิงยังคงพบศิลปินติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เบิ้ล-ปทุมราช หรือนายอาทิตย์ สมน้อย แจ้งข่าวผ่านอินสตาแกรมว่า ซีซันนี้ไม่รอด โดยระบุมีอาการคันคอนิดหน่อยตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. วันที่ 3 เม.ย.ไปกองถ่ายรายการได้ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด จึงไปโรงพยาบาลและตรวจ RT-PCR แต่มั่นใจว่าพบเชื้อแน่ จึงลงทะเบียนและเข้ารับการรักษาไว้ล่วงหน้า และผลออกมายืนยันว่าติดเชื้อ เช่นเดียวกับ บลู-พงษ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ นักแสดงหนุ่มจากละคร “จังหวะหัวใจกับนายสะอาด” ทางช่อง PPTV แจ้งติดโควิด-19 เช่นกัน แต่มีเพียงอาการเจ็บคอเล็กน้อย แพทย์ให้รักษาแบบ Home Isolation เพื่อประเมินอาการต่อไป
เด็ก 6 เดือนไข้สูงพบติดโควิด
วันเดียวกัน น.พ.ฐิติกานต์ ณ ปั่น ผอ.รพ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนายก้าวหน้า เจริญสุนทร อายุ 31 ปี โพสต์คลิประบายหลังพาลูกชายวัย 6 เดือน ที่มีอาการไข้สูงไปหาหมอที่ รพ.แม่แตง อ.แม่แตง ช่วงตี 5 วันที่ 2 เม.ย. แต่กลับไม่มีแพทย์มาตรวจรักษา และบอกให้มาหาหมออีกครั้งในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่าย เพื่อพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ ขณะที่ความคืบหน้าอาการป่วยของลูกนายก้าวหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายก้าวหน้า เจ้าของคลิปดังกล่าวได้นำตัวลูกชายวัย 6 เดือนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่ก๊ะ ต.แม่แตง อ.แม่แตง ปรากฏว่าเด็กติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่บุคคลในบ้าน ได้แก่ แม่ พี่ชาย รวมถึงปู่มีผลเป็นบวกด้วย แต่นายก้าวหน้าและย่า ผลตรวจเป็นลบ ซึ่งโรงพยาบาลกำลังประสานเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ทั้งหมดรักษาตัวที่บ้านหรือสถานพยาบาลใด
จีนเจอโอมิครอนพันธุ์ย่อยตัวใหม่
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในต่างแดน เมื่อวันที่ 4 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลจีนส่งกองทัพและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายพันคนเข้านครเซี่ยงไฮ้ ที่อยู่ระหว่างบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อตรวจหาเชื้อประชากรเซี่ยงไฮ้ทั้งหมด 26 ล้านคน โดยสื่อรัฐบาลจีนโกลบอลไทม์ส รายงานว่าตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนสายย่อยตัวใหม่ที่ยังไม่อยู่ในฐานข้อมูลกลางโควิดโลก (GISAID) เบื้องต้นเป็นตัวกลายพันธุ์ที่พัฒนาต่อยอดจาก BA.1.1 พบในพื้นที่ชุมชนห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 70 กิโลเมตร แต่มิได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ต่างจาก รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมยกระดับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม ให้สถานบันเทิงผับบาร์เปิดบริการได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.เป็นต้นไป แต่ผู้มาใช้บริการต้องแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบและต้องสวมหน้ากากอนามัยหากเป็นพื้นที่ในอาคาร ทั้งนี้ สิงคโปร์เพิ่งเปิดพรมแดนรถยนต์กับมาเลเซีย ท่ามกลางรายงานยอดผู้ติดเชื้อลดลง เหลือเฉลี่ยวันละ 6,084 คน และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 4 คน