รถตู้คณะทัวร์ผู้สูงวัยชาวไทย ชนรถพ่วง 18 ล้อที่ สปป.ลาว ดับสลด 6 ศพ เป็นคนไทย 5 ราย และคนขับรถชาวราวอีก 1 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา อาสากู้ภัยจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) จุดอำเภอเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นบนถนน R3A ใน สปป.ลาว โดยทางหน่วยกู้ภัยกาแดง สปป.ลาว ได้แจ้งให้ฝ่ายไทยไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวตรงด่านพรมแดนไทย-สปป.ลาว สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4
ซึ่งเมื่อนำรถไปรับพบว่ามีศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 คน อาสากู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลเชียงของและโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 3 คน ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับอุบัติเหตุบนถนน R3A ซึ่งเชือมไทย-สปป.ลาว-จีน โดยเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีคณะนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จำนวนประมาณ 20 คน เดินทางข้ามแม่น้ำโขงจาก อ.เชียงของ ไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้เดินทางไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ติดกับชายแดน สปป.ลาว-จีน แล้วเดินทางไปเที่ยวเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
กระทั่งวันที่ 27 ก.ค.จึงเดินทางกลับและเมื่อมาถึงชายแดนจีน-สปป.ลาว จึงใช้บริการรถตู้นำเที่ยวของ สปป.ลาว จำนวน 2 คัน นั่งโดยสารมาคันละ 10 คน ให้พาเดินทางจะกลับประเทศไทยด้าน อ.เชียงของ เช่นเดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อรถตู้ทัง 2 คัน เดินทางออกจากแขวงหลวงน้ำทามาและจะเข้าสู่เขตแขวงบ่อแก้วห่างจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ ประมาณ 100 กิโลเมตร พบว่าถนนเป็น 2 ช่องจราจรที่โค้งและได้มีรถบรรทุกสินค้าพ่วง 18 ล้อ แล่นสวนทางมาก่อนจะล้ำช่องจราจรไปชนกับด้านหน้าของรถตู้คันที่ 2 ซึ่งขับตามท้ายมาอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้ด้านหน้ารถตู้เสียหายยับเยินและกระเด็นไปพิงกับภูเขาข้างทาง จนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 6 คน โดยเป็นคนไทยจำนวน 5 คน และคนขับรถตู้สัญชาติลาว 1 คน รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คนดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานหน่วยกู้ชีพบุญช่วยอุปถัมภ์เชียงของช่วยนำศพผู้เสียชีวิตไปส่งให้ญาติเพื่อดำเนินการตามประเพณีที่ อ.เวียงป่าเป้า โดยประกอบด้วยผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงอายุ 59 ปีและ 68 ปีชาว ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า และชายอายุ 68 ปี หญิงอายุ 64 ปีและ 66 ปี ชาว ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า
นางหนู อายุ 35 ปี ผู้ประกอบการรถเช่าชาวลาว เจ้าของรถยนต์ตู้คันแระสบเหตุกล่าวว่าตนทำธุรกิจรถเช่าและนำเที่ยวมานานไม่เคยเกิดปัญหา กระทั่งครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัย โดยรถตู้คันที่เกิดเหตุเป็นรถตู้สภาพใหม่เอี่ยมที่เพิ่งซื่อมายังไม่ได้ป้ายทะเบียน โดยปกติจะขับรถคันนี้ด้วยตนเอง แต่ครั้งได้ให้คนขับรถขับให้ โดยไปส่งลูกค้าประมาณ 21 คนไปท่องเที่ยวตามโปรแกรมเสร็จแล้วอยู่ระหว่างเดินทางกลับเพื่อมาส่งลูกค้ากลับประเทศไทย แต่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว