กลุ่มทะลุฟ้าปักหลักยึดทําเนียบฯ เตรียมพร้อมชุมนุมยาวอีกหลายวัน บิ๊กปั๊ด” ผบ.ตร.สั่ง เฝ้าระวังเหตุ อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

กลุ่มทะลุฟ้านัดรวมตัวที่แยกยมราช ก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ สั่งเตรียมตัวให้พร้อมอาจชุมนุมยาวต่อเนื่องอีกหลายวัน “บิ๊กปั๊ด” ผบ.ตร.สั่ง ผกก.ต้องควบคุมการปฏิบัติอยู่โรงพักตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าจะเข้าภาวะปกติ ปรับแผนคุมเข้มจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขณะที่ตำรวจจับกุมกลุ่มทะลุแก๊สขณะรวมตัวที่ถนนมิตรไมตรีเพิ่มอีก 16 คน ส่วนตำรวจสืบ 6-สน.บางรัก รวบเด็ก ม.5 ร่วมกับพวกทุบตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ ย่านบางรัก

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 24 ก.ย. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยกรณีนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ในพื้นที่ กทม.โดยกลุ่มทะลุแก๊สนัดหมายรวมตัวชุมนุมกันในวันที่ 24-26 ก.ย. ที่สามเหลี่ยมดินแดง ส่วนวันที่ 25 ก.ย.กลุ่มทะลุฟ้านัดหมายรวมตัวโดยยังไม่มีการระบุเวลาและสถานที่ ส่วนวันที่ 26 ก.ย. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายเวลา 16.00-19.00 น. ที่ลานหน้าหอศิลป์ แยกปทุมวัน ทั้งนี้ขอเตือน กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯและอื่นๆ

“จากการชุมนุมในวันที่ 23 ก.ย.ของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดงช่วงเวลา 19.35-21.00 น.ทั้งหมดมารวมตัวกันบริเวณถนนมิตรไมตรี ขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว พลุไฟ ระเบิดชนิดต่างๆ เป็นระยะๆ กระทั่งเวลา 21.05 น. ตำรวจประกาศให้ยุติและให้ออกจากพื้นที่เนื่องจากเป็นเวลาเคอร์ฟิว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวาย ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมายผลักดันให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่และจับกุมผู้กระทำผิด 16 คน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯและความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ขณะที่การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือน ก.ค.จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 223 คดี ผู้ต้องหา 825 คน จับกุมตัวแล้ว 580 คน” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว

สำหรับแนวทางการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้เพิ่มความเข้มการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยปรับแผนระดมกำลังตำรวจ ให้ผู้กำกับการต้องอยู่โรงพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับผิดชอบควบคุมการปฏิบัติ จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งดำเนินการจับกุมกรณีฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและตั้งจุดตรวจป้องกันการทุบทำลายทรัพย์สินทางราชการ โดยอาจปรับแผนไปตามสถานการณ์

ทั้งนี้มีรายงานว่า พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.6 นำกำลังชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.6 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ร่วมกันจับกุมตัวนายโป้ง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนฯ ฐานร่วมกันทําให้
เสียทรัพย์ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ หลังก่อเหตุทุบตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์จนเสียหาย เมื่อค่ำวันที่ 11 ส.ค. สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ เดินทางไปร่วมชุมนุมกับพรรคพวกที่เพิ่งรู้จัก โดยชักชวนผ่านโลกโซเชียล ขากลับซ้อนรถ จยย.หลบหนีด่านตรวจ ร่วมกับเพื่อนอีก 8 คนก่อเหตุทําลายทรัพย์สินของทางราชการตามเส้นทาง เคยร่วมการชุมนุมมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ส.ค. คุมตัวส่งดำเนินคดีที่ สน.บางรัก

ส่วนที่ศาลอาญา นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่กรณีศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันในคดีปักหมุดสนามหลวง โดยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าศาลเคยอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยมาก่อน แต่จำเลยกลับเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีอีก กรณีนี้ถือเป็นการก่อเหตุอันตรายประการอื่นตาม ป.วิ.อาญา ม.108/1 (3) ให้ยกคำร้องดังกล่าว

วันเดียวกัน ผู้ประสานงานกลุ่มทะลุฟ้าแจ้งต่อสื่อมวลชนในไลน์กลุ่มสื่อถึงการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้าในวันที่ 25 ก.ย.ว่านัดตัวที่แยกยมราช ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเวลา 16.00 น. โดยมีข้อเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข เขียน รธน.ใหม่โดยประชาชนเพื่อประชาชน ปฏิรูปตุลาการเพื่อคืนสิทธิการประกันตัวและอื่นๆ อาจมีการชุมนุมยาวต่อเนื่องไปอีกหลายวัน ให้เตรียมเสื้อกันฝน ร่ม หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ป้ายประท้วง หน้ากากกันแก๊สน้ำตาและสีแดงชนิดล้างไม่ออกไปด้วย