“กลุ่มทะลุโลง” ยังปักหลัก ปิดถนน หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งด้านหน้าแมคโดนัลด์ ทำกิจกรรม รำลึกการเสียชีวิตและบาดเจ็บ ของการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ขณะช่วงบ่าย มีการจัด ขบวน “คาร์ม็อบทะลุโลง” ที่แยกราชประสงค์
วันที่ 10 เม.ย. เมื่อเวลา 17:00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ชุมนุมชื่อ กลุ่มทะลุโลง นำแนวรั้วมาปิดถนนบริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยฝั่งด้านหน้าแมคโดนัลด์ เพื่อจัดกิจกรรมเนื่องในวันครบรอบ 12 ปีสลายการชุมนุมเสื้อแดง 53
ล่าสุด 18.00 น. “กลุ่มทะลุโลง” ยังหลักชุมนุม อยู่บนพื้นผิวการจราจร มีการอ่านคำกลอน โจมตีรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บริหารงานล้มเหลว อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถานการณ์การชุมนุมยังคงเป็นปกติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด โดยมีการเคารพธงชาติด้วย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศ ที่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขบวน “คาร์ม็อบทะลุโลง” ซึ่งประกอบด้วยมวลชนอิสระจากหลายกลุ่ม อาทิ 4 ขุนพลคนของราษฎร, ทะลุแก๊ส, ทะลุฟ้า, โรนินฝั่งธนไม่เอาเผด็จการ, อาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทยอยเดินทางมารวมตัวบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนมาก แต่งกายด้วยเสื้อสีแดง นำธงสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม ไปจนถึงธง นปช. มาประดับที่รถจักรยานยนต์และรถยนต์
ขณะเมื่อเวลา 14.20 น. ผู้ร่วมชุมนุมเริ่มตั้งขบวนที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีคนเสื้อแดงร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก มีการทำพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิต ผูกผ้าสีแดงที่ป้ายแยกราชประสงค์ ก่อนร่วมสงบนิ่งไว้อาลัย และเริ่มเคลื่อนขบวนในเวลา 14.30 น. มีการบีบแตร และโบกสะบัดธงแดงและดำเป็นระยะ ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่อาศัยตลอดสองข้างทางได้ร่วมชู 3 นิ้ว และบันทึกภาพ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าสังเกตการณ์ตลอดการทำกิจกรรม
นอกจากนี้ ยังมีการผูกธงสีดำที่บริเวณใต้ ป้ายแยกราชประสงค์ เขียนข้อความด้วยลายมือว่า “อยุติธรรมแม้นตายดับยับเยินเกินจะสู้ เพียงเพื่อผู้อยู่หลังยังถามถึงเพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์ จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน” ไปจนถึงข้อความว่า “ความไม่มีอยู่จริง” และสัญลักษณ์อนาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม เส้นทาง “คาร์ม็อบทะลุโลง” เคลื่อนขบวนจากแยกราชประสงค์ เลี้ยวเข้าสู่ถนนเพชรบุรี ผ่านประตูน้ำ จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกยมราช ผ่านถนนหลานหลวง แยกป้อมมหากาฬ มุ่งหน้าสี่แยกคอกวัว เพื่อสมทบกับคนเสื้อแดง ร่วมไว้อาลัยวีรชนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเพื่อแสดงพลัง กับการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ล้มเหลว
