กองทัพยูเครนเผย ยึดพื้นที่รอบเมืองเคอร์ซอนได้จำนวนมากในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากรัสเซียประกาศถอนกองกำลังออกจากเมืองสำคัญทางตอนใต้แห่งนี้
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา พลเอกวาเลรีย์ ซาลุชนี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครน เปิดเผยว่า กองทัพของเขามีความคืบหน้าสำคัญ โดยบุกลึกเข้าไปในแนวหน้าการปะทะ 2 จุด บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดีนิโปร ซึ่งล้อมรอบเมืองเคอร์ซอนเอาไว้เป็นระยะทาง 7 กม. และยึดหมู่บ้านได้ 12 แห่ง
นอกจากนั้น กองทัพยูเครนยังสามารถยึดคืนเมืองสนีฮูริฟกา ซึ่งห่างจากเมืองเคอร์ซอนไปทางเหนือราว 50 กม.ได้ด้วย โดยมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นทหารยูเครนกำลังได้รับการต้อนรับจากชาวเมืองที่จัตุรัส ขณะเข้าเมืองสนีฮูริฟกา
ทั้งนี้ เมืองสนีฮูริฟกาตั้งอยู่บนชุมทางสายใหญ่ และเป็นศูนย์กลางของทางรถไฟในแคว้นมีโคลาอิฟ ซึ่งติดมีพรมแดนติดกับแคว้นเคอร์ซอนทั้งทางเหนือและทางตะวันตก โดยในเวลาต่อมา กองทัพยูเครนเผยแพร่ข้อความเสียงระบุว่า พื้นที่ของแคว้นมีโคลอิฟที่ถูกรัสเซียยึดครองตอนนี้ ปราศจากทหารรัสเซียแล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจาก กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศในวันพุธว่า พวกเขากำลังเตรียมการถอนกำลังออกจากเมืองเคอร์ซอน โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาไม่สามารถส่งเสบียงสนับสนุนให้แก่เมืองแห่งนี้ได้อีก และจะถอยออกจากพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดีนิโปรไปยังฝั่งตะวันออก
ด้านฝ่ายยูเครนกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความสงสัยว่านี่อาจเป็นกับดักของทางมอสโกหรือไม่ ขณะที่พลเอกซาลุชนีกล่าวว่า เขาไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธการถอนทัพของรัสเซียได้ แต่เชื่อว่า รัสเซียไม่มีทางเลือกนอกจากถอยทัพ เนื่องจากเส้นทางส่งเสบียงถูกตัดขาดหมดและระบบสื่อสารถูกรบกวน
อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เตือนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะฉลองการถอนทัพครั้งนี้ และกล่าวหารัสเซียว่าต้องการทำให้เคอร์ซอนกลายเป็นเมืองแห่งความตายด้วยการทิ้งกับระเบิดเอาไว้ และวางแผนยิงถล่มจากที่ห่างไกล
ขณะที่ นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า โลกไม่ควรรู้สึกขอบคุณที่รัสเซียคืนทรัพย์สินที่พวกเขาขโมยไปกลับมา และว่ารัสเซียกำลังวางแนวป้องกันที่อีกฝั่งของแม่น้ำดีนิโปร ด้วยสิ่งปลูกสร้างคอนกรีต