ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ บอกสงบศึกกัญชา อนุทิน-ภูมิใจไทย อ้างแค่รณรงค์ช่วงเลือกตั้ง บ่ายเบี่ยงไม่ได้วุ่นวายบอกแค่ห่วงเยาวชน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ โจมตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ขู่มขู่คุกคามประชิดเวทีปราศรัย
วันนี้ (10 ส.ค.) บนโซเชียลฯ มีการแชร์วีดีโอคลิปนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจอาบอบนวด ไปออกรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวเปิดเผยว่า ได้ยุติการเคลื่อนไหวโจมตีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปแล้ว โดยอ้างว่า สงครามจบแล้ว นายอนุทินต้องเดินหน้าเพื่อนบ้านเมืองต่อไป และอ้างว่าการเคลื่อนไหวโจมตีกัญชาในช่วงที่ผ่านมา เป็นการการรณรงค์สื่อสารเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า ตอนนี้ต้องเอากัญชากลับมาอยู่ในร่องในรอย นายชูวิทย์ กล่าวว่า อย่าให้กัญชาอยู่หน้าโรงเรียน ควบคุมกัญชาให้มีเวลาจำหน่ายเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ และให้แพทย์ควบคุมก็จบแล้ว ตนไม่ได้พูดว่าไม่ให้ขายสักคำ แต่เกี่ยวข้องกับเยาวชน
เมื่อถามว่า นายอนุทินจะเป็นรัฐมนตรีอีก นายชูวิทย์ กล่าวว่า “เขามากินข้าวกับผมได้” ถามว่าใครเขาจะมากินกับคุณ ก็ตอบว่า “ผมไปกินกับเขา เขาไม่ได้มากินกับผม ผมมากินกับเขา” พร้อมยิ้มออกมา
คำต่อคำ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ วันที่ 28 ก.ค. 2566สรยุทธ – พูดถึงกัญชา คุณสงบศึกกับคุณอนุทินแล้วไม่ใช่เหรอ?
ชูวิทย์ – อู้ย! ไม่มีปัญหาหรอก สงครามมันจบไปแล้ว คุณอนุทินก็ต้องเดินหน้าเพื่อนบ้านเมืองต่อไป คุณก็ต้องทำงานต่อไป ผมก็ใช้ในเวลา การรณรงค์สื่อสารเลือกตั้ง เป็นการสื่อสารกับประชาชนเช่นเดียวกัน
สรยุทธ – ตอนนี้ก็ต้องเอากัญชากลับมาอยู่ในร่องในรอย
ชูวิทย์ – คุณเอากัญชา-อย่าอยู่หน้าโรงเรียน คุณควบคุมกัญชาให้มีเวลาเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ และคุณให้แพทย์ดู จบ! ผมไปยุ่งวุ่นวายอะไร ผมมาบอกว่าไม่ได้ ไม่ให้ขายเลย เลิกเลย ผมไม่ได้พูดสักคำ ผมบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับเยาวชน …
สรยุทธ – เดี๋ยวเขาเป็นรัฐมนตรีอีกนะชูวิทย์
ชูวิทย์ – เขามากินข้าวกับผมได้
สรยุทธ – ใครเขาจะมากินกับคุณ?
ชูวิทย์ – ผมไปกินกับเขา เขาไม่ได้มากินกับผม ผมมากินกับเขา (ยิ้ม)
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรคอยู่บ่อยครั้ง โดยใช้กัญชามาเป็นเครื่องมือ พร้อมกับพรรคการเมืองคู่แข่ง ทั้งๆ ที่พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด โดยมีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เป็นหลัก อีกทั้งนายชูวิทย์ยังตามไปป่วนประชิดเวทีปราศรัย และข่มขู่คุกคามบ่อยครั้ง ทำให้พรรคภูมิใจไทยทนไม่ไหว ต้องฟ้องดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ในความผิดฐานละเมิดมาแล้ว