กินเจ “ภูเก็ต” เข้าสู่วันที่ 4 พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ “อิ้วเก้ง” แห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่

กินเจ “ภูเก็ต” เข้าสู่วันที่ 4 พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ “อิ้วเก้ง” เริ่มเข้มข้น แห่พระรอบเมืองวันที่ 3 ของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ หรือศาลเจ้าสามกอง ยังไม่มีการทรมานร่างกายของเหล่าม้าทรง โดยยึดถือมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ต.ค.64 ซึ่งอยู่ในช่วงประเพณีถือศีลกินผักประจำปีเข้าสู่วันที่ 4 และเป็นวันที่ 3 ของการประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ “แห่พระรอบเมืองภูเก็ต” หรือ “อิ้วเก้ง” ของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ หรือ ศาลเจ้าสามกอง อ.เมือง เพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูปควันเทียนที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง กลับมายังศาลเจ้า โดยขบวนแห่พระในปีนี้ไม่มีการเดินเท้า เหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยใช้ขบวนรถยนต์แทน ซึ่งขบวนได้ออกจากศาลเจ้าและเคลื่อนขบวนไปตามถนนต่างๆ ระหว่างเส้นทางมีประชาชนออกมารอรับขบวนพระ ซึ่งน้อยกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา สำหรับการแห่พระรอบเมืองในปีนี้ ทางศาลเจ้าขอความร่วมมือจากเหล่าม้าทรงไม่ให้นำอาวุธต่างๆ มาทิ่มแทงเพื่อทรมานร่างกาย และไม่มีการแสดงปาฏิหาริย์ใดๆ ขณะที่ในขบวนพี่เลี้ยงม้าทรงและผู้ร่วมขบวนต้องมีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

โดยการประกอบพิธีแห่พระ หรืออิ้วเก้ง นั้น เชื่อกันว่าเป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ โดยมีธงติดด้านข้างรถยนต์ และป้ายชื่อแห่นำหน้าขบวน จากนั้นเป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไทเปี๋ย หรือ เสลี่ยงเล็ก ตามด้วยขบวนของนิ่วสิ่ว (ฉัตรจีน) และพระเกี้ยวใหญ่ หรือ ตั๋วเหลี้ยน (เสลี่ยงใหญ่) เป็นที่ประทับองค์กิ๋วอ่องไต่เต่ โดยตั้งเสลี่ยงใหญ่ไว้บนรถยนต์

ขณะเดียวกันกลาง (8 ต.ค.) ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ซ.ภูธร ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองได้มีการประกอบพิธีเฉี้ยหล่ำเต้า-ปักเต้า (เทพผู้ถือบัญชีรายชื่อคนเกิดและคนตาย) จากบริเวณริมทะเล ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง เพื่ออัญเชิญกลับมายังศาลเจ้า โดยมีผู้ร่วมประเพณีถือศีลกินผักรอรับพระตามถนนหนทางต่างๆ ตลอดจนบริเวณศาลเจ้า เพื่อกราบไหว้ขอพร

ทั้งนี้ คณะกรรมการศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีที่ระหว่างทางกลับจะถึงศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้งนั้น ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ภาพบนโซเชียลมีเดีย โดยพบว่ามีผู้ประทับทรง ทำการประทับทรง โดยได้สวมใส่หน้ากากอนามัยในขณะประทับทรง อันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าว คณะกรรมการบริหารศาลเจ้ามิได้นิ่งนอนใจถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งให้ฝ่ายม้าทรงของศาลเจ้าทำการตรวจสอบโดยทันที และฝ่ายม้าทรงได้ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าว ไม่มีรายชื่ออยู่ในสารบบทะเบียนม้าทรงของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ทั้งยังไม่มีบัตรม้าทรงของศาลเจ้าแต่ประการใด ทางศาลเจ้าจึงขออภัยในภาพที่ออกไป และจะปรับปรุงการดูแลเกี่ยวกับการประทับทรงของบุคคลภายนอกให้เข้มขึ้นกว่านี้ และขอขอบคุณทุกความปรารถนาดีที่มีต่อศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง