“โหรวันชัย” ร่วมวงทำนายวาระสุดท้ายรัฐบาล “บิ๊กตู่” จับตาดูแอ็กชันพรรคร่วมฯ “ปชป.-ภท.-พรรคเล็ก” ก่อชนวนอุบัติเหตุการเมือง ก้าวไกลถล่มจุดอ่อนรัฐไร้น้ำยาแก้ของแพง “ศิริกัญญา” โวยมุกรัฐแป้กไม่ตอบโจทย์ สู้สินค้าดาหน้าขึ้นราคาไม่ไหว สอนมวยรีบเติมเงินช่วยค่าครองชีพด่วน “อุ๊งอิ๊ง” เปิดซิงลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรก ลุยตลาดคลองลัดมะยมช่วยขอคะแนนให้ทีมผู้สมัคร ส.ก.ฝั่งธนฯ ปลื้มแฟนคลับโอด “ไม่ได้เจอพ่อ เจอลูกก็ยังดี” โอ่นโยบายสัญญาไว้ทำได้จริง ยกคำพ่อสอนเข้มแข็งในจุดยืน คิดดีทำดี “พนิต” เตือนพรรคใหญ่อย่าชะล่าใจ ม้ามืดมีจริง ยกผลเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองผู้ดี ชี้วิกฤติผู้นำพาพ่ายยับ “ไพบูลย์” เมินวาทะ “ล้มตู่ ชูป้อม” ยัน พปชร.หนุน “ประยุทธ์” ลุยต่อครั้งหน้า นัด 11 พ.ค.ชี้ชะตา “พิเชษฐ” “ชัชชาติ” ปราศรัยใหญ่สวนลุมฯ ฟุ้ง 230 นโยบายทำได้ทันที
ประเด็นเสถียรภาพรัฐบาลยังคงเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่ถูกหลายฝ่ายจับตามอง ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา หรือโหร ส.ว. ประเมินสถานการณ์มาถึงบั้นปลายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมแล้ว จับตาอาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจากพรรคร่วมรัฐบาล
“วันชัย”ทายบั้นปลาย รบ.มาถึงแล้ว
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊ก “อุบัติเหตุทางการเมืองกับช่วงสุดท้ายของรัฐบาล” ระบุว่า น้อยนักที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งจะอยู่ครบวาระ ยิ่งช่วงปลายรัฐบาลอะไรก็เกิดขึ้นได้ อุบัติเหตุการเมืองมีได้ ข้าราชการดูทิศดูลมใครจะไปจะมาใส่เกียร์ไม่เต็มที่ แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ดูทิศทางว่าครั้งหน้าใครจะมาเป็นรัฐบาล จึงเคยได้ยินคำว่า “มันหมดเวลาแล้วครับนาย” หรือแยกตัวมาเป็นรัฐบาลด้วยความภูมิใจก็เคยมีมาแล้ว อุบัติเหตุทางการเมืองช่วงปลายๆเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คนไม่เคยคิดเป็นนายกฯยังได้เป็นนายกฯรักษาการมาแล้ว อย่างพ่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ สถานการณ์อภิปรายไม่ไว้วางใจ แก้รัฐธรรมนูญ แก้กฎหมายลูก หรือเรื่องนายกฯ 8 ปี เป็นอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น
ปชป.-ภท.-พรรคเล็กชนวนอุบัติเหตุ
“พรรคเล็กอาจเป็นอุบัติเหตุได้ หรืออย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยบอยคอตการเลือกตั้ง ครั้งนี้อาจต้องแอ็กชันบางอย่างทำให้เป็นอุบัติเหตุได้เหมือนกัน แม้แต่พรรคภูมิใจไทยก็อย่ามองข้าม เคยมีวีรกรรมการเมืองที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเปลี่ยนขั้วมาแล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านบอกจะล้มรัฐบาลให้ได้ ฝ่ายค้านไม่เคยมีใครล้มรัฐบาลได้ แต่มักเกิดจากเนื้อในรัฐบาลทั้งนั้น ครั้งนี้น่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นวีรกรรมหรือวีรเวรทางการเมือง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ต่อแต่นี้คำว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรทางการเมืองจะปรากฏขึ้น” นายวันชัยระบุ
กก.โวยของแพงพรึบ 270 รายการ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่เตรียมปรับขึ้นแบบหน้ากระดาน ว่า สถานการณ์ราคาสินค้า ค่าครองชีพขณะนี้ ในเดือน เม.ย. มีสินค้าที่ปรับขึ้นราคากว่า 270 รายการ และเมื่อย่างเข้าเดือน พ.ค. สินค้ากำลังทยอยปรับราคาขึ้นแบบหน้า กระดานเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ เบอร์ 4 จาก 3.50 บาท เป็น 4 บาทต่อฟอง หมูเนื้อแดงปรับขึ้นเป็น 200 บาทต่อ กก. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับขึ้นซองละ 0.50-1 บาท เป็นซองละ 7 บาท เครื่องดื่มชูกำลัง ขึ้นเป็น 12 บาทต่อขวด น้ำมันดีเซลจาก 30 บาท เป็น 32 บาทต่อลิตร แก๊สหุงต้มขึ้นเป็น 348 บาทต่อถัง เป็นต้น
มาตรการรัฐแป้กไม่ตอบโจทย์แล้ว
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า การขึ้นราคาสินค้าแบบหน้ากระดานเช่นนี้น่ากังวลใจ พิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่ไปต่อไม่ได้แล้ว เช่น การ อุดหนุนราคาสินค้าบางรายการ อย่างราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม มาถึงจุดที่รัฐบาลอุดหนุนต่อไม่ไหว มาตรการบรรเทาค่าครองชีพที่รัฐบาลประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป จะมีออกมา 10 มาตรการ ส่วนใหญ่มีลักษณะจำกัดมาก เช่น มาตรการช่วยค่าแก๊สหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนลดค่าแก๊สหุงต้มให้หาบเร่แผงลอย อุดหนุนค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์สำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ช่วยลดค่าไฟสำหรับครัวเรือนใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย คงราคา NGV/LPG สำหรับแท็กซี่ ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นมาตรการเฉพาะกลุ่ม ยังไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุมประชากรแต่ละกลุ่ม ไม่ตอบโจทย์แล้ว
สอนมวยเร่งเติมค่าครองชีพ
“ต้องเรียกร้องและถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม คือจากนี้ไปจะมีมาตรการอื่นออกมารองรับปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอีกหรือไม่ หรือจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งทำไม่ได้จริง พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่าควรต้องเติมเงินในฝั่งรายได้ โดยช่วยเหลือค่าครองชีพให้ประชาชนโดยตรง เป็นเงินสดหรือผ่านแอปพลิเคชันแบบที่ทำมาก็ได้ เพราะขณะนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ราคาสินค้าขึ้นแบบหน้ากระดาน ทำให้การช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
ผุด “แฮกกาทอน”ตรวจสอบงบฯปี 66
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระที่ 1 ในสมัยประชุมสภาที่จะถึง ซึ่งจะเป็นงบประมาณก้อนสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคก้าวไกล จะมีการจัดกิจกรรม “แฮกกาทอน” เชิญชวนประชาชนร่วมการตรวจสอบงบประมาณประจำปีไปด้วยกันกับพรรคก้าวไกล โดยกิจกรรมจะมีขึ้นวันที่ 5 มิ.ย. สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านทางเพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกลได้
“อุ๊งอิ๊ง” ลุยหาเสียงคนขอถ่ายรูปคึกคัก
เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ตลาดคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.เลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ก.ฝั่งธนบุรีของพรรค ได้แก่ นายเอนก ตุ้มน้อย ผู้สมัคร ส.ก.ตลิ่งชัน เบอร์ 6 นางพรพิมล สูญญาจารย์ ผู้สมัคร ส.ก.ทวีวัฒนา เบอร์ 4 นายเอกชัย ผ่องจิตร์ ผู้สมัคร ส.ก.บางแค เบอร์ 2 นายกฤษฎ์ คงวุฒิปัญญา ผู้สมัคร ส.ก.ภาษีเจริญ เบอร์ 6 บรรยากาศคึกคักมาก น.ส.แพทองธารเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ เดินชิมขนมเม็ดขนุน อาหารร้านต่างๆ ลงมือทำขนมบ้าบิ่นกับแม่ค้าในตลาด มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนรุมล้อมขอถ่ายรูปกับ น.ส.แพทองธารเป็นจำนวนมาก โดยแม่ค้าพ่อค้าบางคนทักว่า “ไม่เจอพ่อ เจอลูกก็ยังดี” ทำให้เจ้าตัวถึงกับยิ้มปลื้มดีใจ ทั้งนี้ ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรกของ น.ส.แพทองธารตั้งแต่เข้ามาสู่เส้นทางการเมือง หลังเสร็จสิ้นจุดนี้ น.ส.แพทองธารไปหาเสียงต่อที่ตลาดวัดไชยฉิมพลี เขตภาษีเจริญ
อ้อนชาว กทม.เลือกใช้ผู้สมัคร พท.
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เดินไปที่ไหนก็ให้ชิมอาหารหลายอย่าง และในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนของพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำงาน เราพยายามที่จะถามทุกข์สุขของประชาชนให้มากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสมากน้อยแค่ไหน ที่ตนมาพบประชาชนวันนี้อยากขอโอกาสชาวกรุงเทพฯ ให้เลือก ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย เข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน เราจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะนโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทยเราตั้งใจทำก่อนที่จะเสนอออกมา เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะได้เห็นมาลงพื้นที่หาเสียงอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อยากลงพื้นที่ให้ได้เยอะที่สุด เพราะเมื่อไปแต่ละที่ก็มีความอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ ถ้ามีโอกาสอยากจะลงพื้นที่อีก
เดินหาเสียงชิลๆ อุบมีมุกไว้โชว์อีกอื้อ
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เดินตามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหาเสียง วันนี้ต้องมาเดินหาเสียงเองรู้สึกอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นความคุ้นเคย คุ้นชิน เคยทำมาบ่อยมากๆช่วงหนึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยคุณพ่อพาไป จำบรรยากาศเดิมๆได้ แต่รอบนี้เราเป็นคนเดินเอง เมื่อถามว่าช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทยจะมีไม้เด็ดอะไรออกมา น.ส.แพทองธารตอบว่า มีมุกอีกเยอะที่เก็บไว้โชว์ แต่สิ่งที่แน่นอนและจริงจังที่เราตั้งใจคิด และทำเป็นนโยบายขึ้นมาเพื่อพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งที่แน่นอนและมั่นคง
บอก ส.ก.พท.ทำงานได้กับผู้ว่าฯทุกคน
เมื่อถามอีกว่าผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยจะทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.ได้ทุกคนหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ทำงานได้กับทุกคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ แต่เราอยากได้ ส.ก. จำนวนมาก เพื่อจะได้รวบรวมเสียงในการทำนโยบายที่ ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยเสนอให้เป็นจริง เพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่เขาเลือกเข้ามา พรรคเพื่อไทยเคารพอยู่แล้วไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. เราต้องทำงานด้วยได้ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อยากได้ผู้ว่าฯ กทม.แบบไหน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อยากได้ผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนจริงๆ และอยากให้คุ้มค่ากับการที่ประชาชนไว้ใจ เสนอนโยบายอะไรไว้ขอให้ทำเต็มที่ สำหรับตนมีในใจแล้วว่าจะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.
กั๊กรอพรรคเคาะแคนดิเดตนายกฯ
เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คนไทยยังมีปัญหาในการใช้ชีวิตเรื่องปากท้องอยู่ เคยเสนอแนวทางไปแล้วว่าพรรคเพื่อไทยอยากทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น เพราะทุกครั้งที่เลือกตั้งมาแล้วเราได้จัดตั้งรัฐบาลก็สามารถทำให้นโยบายต่างๆที่สัญญากับพี่น้องไว้เป็นจริงได้ พรรคเพื่อไทยหวังว่าถ้ามีการเลือกตั้งอีกครั้ง พี่น้องไว้ใจเราอีกครั้ง เราต้องทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้อย่างที่เราเคยทำมาได้ เมื่อถามว่าการที่ระบุพรรคเพื่อไทยเป็นทางเลือกเช่นนี้ หมายความว่าจะประกาศตัวเองเป็นทางเลือกให้ประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าคนในพรรคยังไม่ได้เลือกตนเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค และพรรคยังไม่ได้เลือกใคร ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่เข้ามาช่วยในทีมที่ปรึกษาฯ อะไรช่วยได้เพื่อให้พรรคนำเสนอนโยบายดีๆให้ประชาชน คือส่วนที่ตนทำอยู่ และอะไรที่ให้คุณค่าได้ตนทำเต็มที่ ตอนนี้ขอให้ไทม์ไลน์มันใช่ก่อน ไปอยู่ตรงไหนก็ทำตรงนั้นให้ดีที่สุด เมื่อถามย้ำว่าถ้าพรรคเลือกพร้อมลุยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า พรรคยังไม่ได้เลือกเลย ขอให้พรรคเลือกก่อนแล้วจะออกมาบอกว่าพร้อมหรือไม่พร้อม ตอนนี้เราลุยหาเสียง ส.ก.ให้ชัดเจนไปก่อน ขอ ส.ก.พรรคเพื่อไทยเยอะๆ จะได้เข้ามาทำงานให้กรุงเทพฯเป็นจังหวัดที่น่าอยู่
ยกพ่อสอนให้มั่นใจยึดหลักคิดดีทำดี
เมื่อถามถึงกรณีเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับคำแนะนำอะไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “คุณพ่อให้คำปรึกษามาตลอด ตอนแรกแนะนำเรื่องเรียน แต่ตอนนี้แนะนำให้เรามั่นใจกับสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าเราคิดดีทำดีขอให้เราประสบความสำเร็จ โดยคุณพ่อจะให้กำลังใจและบอกแนวทางว่าให้เราเข้มแข็งในจุดยืนของเรา ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเราจะไม่เสียหลักของเรา” เมื่อถามว่ามองกระแสข่าวนายกฯสำรองอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าเรื่องของนายกฯสำรอง ต้องปล่อยให้นายกฯ และคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นคนพูด ตนคอยติดตามข่าวจากสื่อต่อไป
“พนิต” จับตา ลต.ท้องถิ่นผู้ดีพ่ายยับ
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เลือกตั้งท้องถิ่นจาก “ลอนดอน” สู่ “กรุงเทพ” หลังพรรครัฐบาลอังกฤษสูญเสียที่นั่งสำคัญเพราะผู้นำ” ว่ามีโอกาสได้มาทำภารกิจที่มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯและบังเอิญมาในช่วงที่สหราชอาณาจักรจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น คือสมาชิกสภาเทศบาล และสมาชิกสภาเขต ทั้งในอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พรรคอนุรักษนิยมของนายกฯ“บอริส จอห์นสัน” สูญเสียหลายที่นั่งในกรุงลอนดอน ซึ่งเคยเป็นฐานเสียงหนาแน่นยาวนานให้แก่พรรคแรงงาน โดยเฉพาะชัยชนะที่เขตเวสต์มินสเตอร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุของความพ่ายแพ้ อาจเป็นเพราะพฤติกรรมส่วนตัวของนายจอห์นสัน ทำผิดกฎหมายและถูกลงโทษต้องชำระค่าปรับให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรุงลอนดอน หลังทำความผิดฐานร่วมงานเลี้ยงช่วงที่สหราชอาณาจักรกำลังล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 และยังวิจารณ์ว่ารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
พรรคใหญ่อย่าชะล่าใจม้ามืดมีจริง
“การเลือกตั้งท้องถิ่นดังกล่าวนี้ ยังเป็นการประเมินความเห็นของชาวสหราชอาณาจักรที่มีต่อนายจอห์นสันและพรรคอนุรักษนิยม นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 ด้วยสัดส่วนเสียงข้างมากสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่ในส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ จะเป็นอย่างไร จะเหมือนหรือแตกต่างกับที่สหราชอาณาจักรหรือไม่ ประชาชนจะให้คำตอบ โดยเฉพาะทางเลือกใหม่โดยคนรุ่นใหม่นำเสนอสิ่งใหม่ให้คนกรุงเทพฯหลุดพ้นจากการเมืองแบบเก่าๆ ดังนั้นพรรคการเมืองใหญ่อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ และม้ามืดอาจมีจริง”นายพนิตระบุพร้อมติด#จุดจบพรรคใหญ่ #คําตอบคือประชาชน#พรรคใหญ่อย่าชะล่าใจ #ม้ามืดมีจริง
“ชัยชนะ” ระอาวาทกรรมฝ่ายค้าน
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านที่ระบุจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาลว่า พรรคฝ่ายค้าน ต่างงัดกลยุทธ์แท็กติกต่างๆ หวังสร้างความปั่นป่วนให้รัฐบาล อาทิ การดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ตีความว่าจะสิ้นสุดช่วงเดือน ส.ค. ทั้งที่ยังไม่มีใครไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ การใช้วาทกรรมเดิมๆจนชาวบ้านเอือมระอา เพราะไม่เป็นความจริง ที่ร้ายแรงที่สุดคือกล่าวหาหวังดิสเครดิตการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐบาล แต่กลับสร้างความเข้มแข็งในการฝ่าวิกฤติต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจนครบวาระของรัฐบาล พรรคฝ่ายค้านควรทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจและ การบริหารของรัฐบาลไม่ใช่ยกวาทกรรมกล่าวหาลอยๆ อยากเห็นฝ่ายค้านสร้างผลงานตรวจสอบรัฐบาลให้เป็น ประโยชน์ น่าจดจำมากกว่าปล่อยข่าวกรอกหูชาวบ้าน
“ไพบูลย์” ไม่ให้ค่าคำพูด “ศรัณย์วุฒิ”
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง กรณีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ระบุมีหลักฐานดีลลับพรรคฝ่ายค้านคิด “ล้มตู่ ชูป้อม” ว่า ไม่มีราคา เป็นการ พูดบิดเบือนให้เกิดปัญหาขึ้นเท่านั้นเอง ไม่มีใครเชื่อ อยู่แล้ว เพราะพรรค พปชร.กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นเอกภาพ จึงไม่มีแผนใดๆ เรามีแผนเดียวคือดูแลรัฐบาล ดูแล พล.อ.ประยุทธ์ไปจนครบวาระ และจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าต่อไป นี่คือหลักการของพรรค ชัดเจน ดังนั้น เรื่องที่พยายามปล่อยข่าวด้วยคำพูด หรือถ้อยคำของฝ่ายค้านเป็นเพียงแค่คำพูดที่ไม่มีราคา ไม่ต้องสนใจอะไร
แพลมไม่ถึงขั้นขับ “พิเชษฐ”
นายไพบูลย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรค กล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันจะไม่ไปให้ข้อมูลตามที่คณะกรรมการมีหนังสือเชิญมาชี้แจงวันที่ 11 พ.ค. กรณีให้สัมภาษณ์ลักษณะทำให้พรรคเสียหาย อาจฝ่าฝืน ข้อบังคับพรรคและมาตรฐานจริยธรรมว่า ถือว่านายพิเชษฐประสงค์ไม่มาชี้แจง คณะกรรมการดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ประชุมตามกำหนดเดิม โดย นำเอาหลักฐานการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของนายพิเชษฐมาพิจารณาว่ามีประเด็นอะไรที่มีผลให้สังคมเข้าใจผิด ทำให้พรรคเสียหาย วันที่ 11 พ.ค. น่าจะได้ มติเลย เมื่อถามว่า นายพิเชษฐระบุพรรคตั้งธงไว้แล้ว ต้องการขับพ้นพรรค นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่น่าจะถึงขั้นขับออกจากพรรค เพราะตั้งแต่ที่พรรคเคยให้คณะกรรมการสอบสวนสมาชิกพรรคกระทำการฝ่าฝืน ข้อบังคับพรรคไม่เคยมีการขับออกจากพรรค กรณีนายพิเชษฐแตกต่างจากกรณีขับ 20 ส.ส.ออกจาก พรรค ทั้งสภาพปัญหาและกระบวนการดำเนินการ ยืนยันไม่มีการเลือกปฏิบัติ
“เสรีพิศุทธ์” ขอเสียงคนราชบุรีเขต 3
ช่วงเช้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมนางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า หรือทนายแป๊ว ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดด่านทับตะโก อ.จอมบึง ก่อนจะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันเสาร์ที่ 21 พ.ค. โดยได้รับการต้อนรับจากประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ มีผู้สนับสนุนถือป้ายข้อความว่า “ชาว อ.จอมบึง และ อ.สวนผึ้ง สนับสนุนพรรคเสรีรวมไทย” โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน ต.ด่านทับตะโก ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของกรมธนารักษ์ จ.ราชบุรี เกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อการเกษตรในพื้นที่ราชพัสดุใน ต. ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จากนั้นไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แก่งท่าอีปะ อ.จอมบึง โดยระบุแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผลักดันเศรษฐกิจชุมชนให้ยั่งยืน
ยกชาวบ้านเบื่อ รบ.อยากให้ยุบสภา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า มาขอโอกาสให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ให้มีโอกาสรับใช้พี่น้องชาวราชบุรี เขต 3 เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ พรรคได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ไม่มีความถูกต้องในการบริหารบ้านเมือง โดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใด หากชนะการเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี เขต 3 ยิ่งเพิ่มศักยภาพการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ที่ผ่านมาชาวราชบุรีเบื่อการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประเทศและประชาชน จึงอยากให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหา พร้อมเสนอตัวเป็นนายกฯคนต่อไปเข้ามาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน เรื่องร้องเรียนต่างๆจะนำเข้าในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. รีบเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ต่อไป
“บิ๊กตู่” พร้อมร่วมเวทีอาเซียน-สหรัฐฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดย การทาบทามของสหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลอง วาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2520 และได้ยกระดับเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์เมื่อปี 2558 ทั้งสองฝ่ายดำเนินความร่วมมือครอบคลุมทั้ง 3 เสาของประชาคมอาเซียน ทั้งการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนการบูรณาการและการพัฒนา ในภูมิภาคให้ก้าวหน้า เชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งความร่วมมือ ระหว่างอาเซียน-สหรัฐฯ เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นฟูและ การเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาคในยุคหลังโควิด-19
ช่วยค่าน้ำมันวินเดือนละ 250 บาท
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้เห็นชอบ 13 มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในช่วงที่สถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกขยับตัวสูงขึ้น หนึ่งในมาตรการที่เริ่มใช้สิทธิวันนี้คือ โครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นการให้ส่วนลดราคาน้ำมันแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะจากกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 ราย โดยได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน รวม 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค.65 เพื่อจะได้ไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารกระทบประชาชน ส่วนวิธีการรับสิทธิ ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าเกณฑ์ สามารถกดยืนยันสิทธิที่แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แบนเนอร์ “สิทธิวินเซฟ” และสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ สามารถ กดยืนยันสิทธิที่แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และเริ่มใช้สิทธิ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่สถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ ขณะนี้สมัครเข้าร่วมแล้วกว่า 1,000 แห่ง
“ชัชชาติ” ยัน 230 นโยบายทำได้จริง
เมื่อเวลา 17.30 น. ที่บริเวณศาลาแปดเหลี่ยม สวนลุมพินี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 จัดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกภายใต้แคมเปญ “กรุงเทพแก้ยากชัชชาติแก้ได้ กรุงเทพฯในฝันรวมพลัง รวมความหวัง ส่งชัชชาติแก้กรุงเทพฯ” มีกลุ่มแฟนคลับและผู้สนับสนุนกว่า 500 คน มาร่วมฟังการปราศรัยท่ามกลางสายฝนโปรยปราย โดยนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. มาร่วมให้กำลังใจด้วย นายชัชชาติกล่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า เวลาหาเสียงเหลือน้อยแล้ว ตอนนี้พบปะชาว กทม. ขอเน้นที่กลุ่มผู้สูงอาย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯรอบนอก แต่ลงพื้นที่มานานเข้าใจปัญหาละเอียด มั่นใจแอ็กชันแพลนกว่า 230 นโยบายพร้อมเริ่มทำได้ทันทีตั้งแต่วันแรกเป็นไปได้ ไม่เกินจริง บรรยากาศคึกคักได้นำรถยนต์ไฟฟ้าขบวนหาเสียงของนายชัชชาติมาให้กลุ่มแฟนคลับถ่ายรูปเช็กอินผ่านสื่อออนไลน์ ตัวแทนกลุ่ม “เพื่อนชัชชาติ” เล่าเบื้องหลังการเตรียมตัวสมัครผู้ว่าฯ กทม. กว่า 3 ปีของชัชชาติ
งาน กทม.ต้องโปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น
จากนั้นเวลา 18.30 น. นายชัชชาติขึ้นเวทีปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ยืนยันว่านโยบายทั้งหมดผ่านกระบวนการคิดและหาข้อมูลอย่างหนัก ทั้งลงพื้นที่ศึกษาปัญหาโดยตรง สำรวจความต้องการของประชาชน ทบทวนจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการและอดีตข้าราชการ ทำให้เข้าใจและรู้วิธีดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงทันที หัวใจการแก้ปัญหาซ้ำซากใน กทม. ไม่ว่าน้ำท่วมขัง จราจรติดขัด ขยะมูลฝอย คือการบริหารจัดการดี ข้าราชการ พนักงานลูกจ้าง กทม. ต้องเปลี่ยนวิธีคิดเน้นการทำงานหันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน การบริการประชาชนต้องโปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น และมีประสิทธิภาพ ลดการใช้ดุลพินิจส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยประเมิน และคำนวณเรื่องต่างๆมีระบบออนไลน์แทร็กกิ้ง ติดตามขั้นตอนการขอ อนุญาตให้สอดคล้องตามคู่มือประชาชน