ตำรวจ ปทส.จับผัว-เมีย แอดมินเพจสายมู ลอบค้าซากเสือไฟ ส่งขายผู้นิยมชมชอบใช้เป็นเครื่องราง สร้างอำนาจ บารมี ค้าขายเจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูติผีปิศาจ และมหาเสน่ห์
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2566 พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์ สว.กก.1 บก.ปทส. นำกำลังจับกุม น.ส.พัชราพาณ์ ประสงค์ดี อายุ 30 ปี และนายสิทธิพร บุญลัย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยา ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 187, 191/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค. 2566 ข้อหาค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จับได้ที่บ้านพักย่านจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. พร้อมของกลางซากเสือไฟ เช่น หน้าผาก 2 ชิ้น, ชิ้นส่วนหาง 1 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังเสือหลายขนาด 19 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังเสือบรรจุในตะกรุด 6 ดอก, น้ำมันเสือไฟ 16 ขวด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1.บก.ปทส.ตรวจพบเบาะแสการค้าซากเสือไฟจากเพจเฟซบุ๊ก เสือไฟเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองใกล้สูญพันธุ์ของโลกมาตั้งแต่ปี 2551 และเป็นสัตว์ในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) หลังประสบปัญหาถูกล่าเพื่อเอาหนังและกระดูกมาขาย สำหรับเพจดังกล่าวได้ประกาศขายซากชิ้นส่วนหน้าผากเสือไฟ, หนังเสือ, หางเสือเครื่องราง และน้ำมันเสือ ให้กับผู้ที่นิยมและผู้ที่นำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อเรื่องมหาอำนาจ บารมี เมตตามหาเสน่ห์ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาจนพบหลักฐานของกลางทั้งหมด
สอบสวนทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ได้ขายหนังเสือไฟและน้ำมันเสือไฟให้กับผู้นิยมนำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อที่ว่า เสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ สามารถช่วยเรื่องค้าขายให้เจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูติผีปิศาจ และมหาเสน่ห์ ส่วนซากเสือไฟนั้นสั่งซื้อมาจากพ่อค้าออนไลน์ สั่งมาเป็นตัวๆ ก่อนนำมาตัดแบ่งขายชิ้นส่วนต่างๆ ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ ส่วนราคาที่ส่งขาย อาทิ หน้าผากเสือไฟ ราคา 2,600-2,800 บาท, หนังเสือตามขนาด ราคา 200-1,000 บาท, หางเสือไฟตามขนาด ราคา 400 บาท ตะกรุดปลุกเสก ราคา 300 บาท และน้ำมันเสือ ราคาขวดละ 199 บาท จึงนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส.ดำเนินคดีพร้อมขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป.