“ชัชชาติ” ฟิตหาเสียงชูชุมชนมั่นคง เมืองสะอาดไม่เน้นป้ายเยอะ “อัศวิน” ลุยมัสยิดเจาะชาวมุสลิม “ดร.เอ้” มุ่งแก้น้ำเน่าน้ำท่วม “ศิธา” เน้นดูแลคนเกิดยันตาย เพื่อไทยระแวงนายกฯวางตัวไม่เป็นกลางเดินตลาดช่วงเลือกตั้ง เย้ยอดีตผู้ว่าฯลากตั้งให้คะแนนตัวเองแค่ 5 ยังจะขอไปต่อ เดินหน้าสู้บัตร 2 ใบเบอร์เดียวพลิกเกมในสภา อ้าง ปชช.สับสนไม่หนุนเจตนารมณ์ประชาธิปไตย “วรวัจน์” ปูดปักษ์ใต้ระอุใช้อำนาจตัดตอนแกนนำพรรคร่วม ฟันธง “ประยุทธ์” อยู่ไม่ครบเทอมแน่ “บิ๊กตู่” ปัดลงพื้นที่ไม่เกี่ยวเลือกตั้งอยากไปทุกวัน ขณะที่ “แม่ธนาธร” แจงซื้อที่ถูกต้อง น.ส.3 ก.ออกโดยกรมที่ดิน โวยครอบครองมา 30 ปีเพิ่งมีปัญหาตอนลูกเล่นการเมือง
หลังเปิดฉากอย่างเป็นทางการ การเมืองสนามเล็กศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุง เทพมหานคร (กทม.) เริ่มปะทุ บรรดาตัวเต็งต่างลงพื้นที่หาเสียงอย่างคึกคัก ขณะที่หลายฝ่ายกังขาท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ถี่ไม่เป็นกลางช่วงหาเสียง ส่วนนายกฯปัดไม่เกี่ยวเลือกตั้ง
“ชัชชาติ” ลุยบางพลัดเจาะชุมชน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่ตลาดวัดรวกบางบำหรุ เขตบางพลัด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เบอร์ 8 ลงพื้นที่พบปะแนะนำตัวอย่างคึกคัก มีคนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูปตลอดทาง นายชัชชาติ กล่าวถึงกลยุทธ์หาเสียงว่า ตอนนี้ต้องทำทุกแบบ เพราะเราจะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน ต้องสื่อสารไปทุกกลุ่ม ใช้ระบบออนไลน์ และลงพื้นที่ชุมชนที่อาจเข้าไม่ถึงสื่อออนไลน์ บางพลัดมีความเจริญมาถึงมีรถไฟฟ้า แต่ชาวบ้านในซอยวิถีชีวิตยังเหมือนเดิม ยังไม่ได้ประโยชน์กับรถไฟฟ้ามากนัก ชุมชนที่ยังไม่มั่นคง อย่างชุมชนวัดรวก มีชุมชนรอบวัดอีก 5 ชุมชน ดังนั้น การดูแลสาธารณสุข การศึกษา ที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องสำคัญ และ กทม.ต้องดูแลให้ประชาชนได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้า การเดินทางที่สะดวกขึ้น
ชูหาเสียงเมืองสะอาดไม่เน้นป้าย
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า บางทีการหาเสียงก็ทำให้เกิดสกปรกรกรุงรังขวางทางเดิน ตั้งใจจะทำให้เมืองดีขึ้น แต่ถ้าเริ่มต้นทำให้เมืองแย่ลงถือว่า ผิดหลักการ แจ้งกับทีมงานให้หาเสียงแบบรักเมือง ขั้นแรกใช้ป้ายให้น้อยลงเล็กลง ไม่เบียดบังผู้คน ไวนิลก็เอามารียูสเป็นกระเป๋าได้ กระดาษใบปลิวใช้ชนิดเดียวกับหนังสือพิมพ์รีไซเคิลได้ เอาไปรองนั่ง ห่อดอกไม้ เช็ดกระจก ได้ใช้ประโยชน์ การใช้ป้ายที่จำกัดก็ช่วยเรื่องของการถูกร้องเรียนมากขึ้น เชื่อว่าคงไม่มีใครเลือกเราเพราะเห็นป้าย จะเลือกเพราะนโยบายและเชื่อมั่นในตัวเรา ป้ายไม่มีผล ป้ายเป็นวิธีการหาเสียงสมัยก่อนต่อเนื่องกันมา หลักง่ายๆเห็นป้ายคนอื่นให้คิดถึง “ชัชชาติ” เพราะเราไม่ได้ติดป้ายเยอะ ส่วนรถแห่ใช้รถ EV ไม่ก่อ PM 2.5 มลพิษและก๊าซเรือนกระจก
“อัศวิน” ลงพื้นที่ขอเสียงชาวมุสลิม
ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซอยรามคำแหง 2 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 6 ลงพื้นที่พร้อมนายสามารถ มะลูลีม ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลาง นายพงศ์ไพศาล มะลูลีม ผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง หาเสียงกับชาวมุสลิมระหว่างร่วมพิธีละหมาดยุมมะฮ์ในวันศุกร์ พล.ต.อ.อัศวินได้อวยพรให้ชาวมุสลิม ประกอบศาสนกิจด้วยความราบรื่นตลอดเดือนรอมฎอนอย่างมีความสุข พล.ต.อ.อัศวินเผยว่าตอนเป็นผู้ว่าฯให้ความสำคัญกับพี่น้องมุสลิมมาตลอด กรุงเทพฯมีมัสยิด 201 แห่ง ทีมทำงานบางส่วนก็เป็นมุสลิม มีความเข้าใจปัญหาของพี่น้องมุสลิมดี การแก้ปัญหาทำได้ตรงจุด นโยบายเพื่อมุสลิมไม่ต้องเขียนใหม่ ทำต่อได้เลย
“เอ้” มุ่งปั้น กทม.ต้นแบบอาเซียน
ที่ตลาดเคหะสุขสวัสดิ์ 38 เขตราษฎร์บูรณะ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงย่านราษฎร์บูณะ ตลาดบางปะกอก ตลาดคอนโดศรีไทย ซอยประชาอุทิศ 33 ทุ่งครุ สำรวจปัญหาน้ำเน่า น้ำท่วม ฟุตปาททางเท้าไม่ได้มาตรฐาน แตกหักมีน้ำท่วมขัง นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ฝั่งธนบุรีเป็นดินแดนสุดท้ายที่พอจะรักษาคลองดีๆไว้เป็นสมบัติของลูกหลานได้ เช่น คลองบางกอกใหญ่ คลองชักพระ คลองภาษีเจริญ คลองด่าน ตั้งใจจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำเน่าให้ได้ ยังมีเรื่องโควิด เศรษฐกิจปากท้อง อยากให้กรุงเทพฯมีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูขึ้น อันดับแรกคือ โครงการสร้างงานชุมชน เอาแรง เอางาน มาแลกเงิน ทำให้ เป็นเมืองแห่งสวัสดิการ ทันสมัยเป็นต้นแบบของอาเซียนให้ได้
“ศิธา” ย้ำดูแลคนตั้งแต่เกิดจนตาย
ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 11 พรรคไทยสร้างไทย นำคณะลงพื้นที่ย่านตลาดใหม่ดอนเมือง เดินสำรวจชุมชนริมคลองเปรมประชากร น.ต.ศิธากล่าวว่า นโยบายแรก และกำหนดเป็นวาระเร่งด่วนคือ การจัดทำระบบน้ำในคลองให้มีความใสสะอาด ปราศจากกลิ่น ผันน้ำในลำคลองทั้งระบบให้ไหลไม่สร้างปัญหาส่งกลิ่น ต่อยอดจากที่เคยเป็น ส.ส.กทม.ลงพื้นที่รับฟังปัญหานำไปสู่การทำงานในอนาคต ขอโอกาสทำหน้าที่ของพ่อเมือง แก้ไขปัญหาให้กับทุกเพศทุกวัยตั้งแต่แรกเกิดกระทั่งเสียชีวิต
ทีม ส.ก.พปชร.ขอพรศาลหลักเมือง
ที่ศาลหลักเมือง สนามหลวง กทม.นายอภิชัย เตชะอุบล ผอ.การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต สักการะศาลหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมืองเพื่อเป็นสิริมงคล ตะโกนเอาฤกษ์ว่า “ชนะทุกเขต” นายอภิชัยกล่าวว่า เอาฤกษ์เป็นชัยให้เป็นนิมิตหมายที่ดี มั่นใจว่าจะได้ทั้งหมด พรรคพปชร.ไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ไม่ถือเป็นจุดด้อย เราประสานงานกับผู้ว่าฯ กทม.ได้ทุกคน มั่นใจในนโยบายพรรค จากนั้นนายอภิชัยนำผู้สมัคร ส.ก.ขึ้นรถแห่ จากหน้าศาลหลักเมือง ไปถ่ายรูปหมู่ที่ศาลาว่าการ กทม.ก่อนแยกย้ายกันไปหาเสียง
“โฆษิต–วรัญชัย” โผล่ร่วมชิงชัย
ช่วงเย็น ที่ห้องบางกอกอาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผอ.การเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า การรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.วันที่ 2 มีผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพิ่ม 5 คน ได้แก่ หมายเลข 21 นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ หมายเลข 22 นายวรัญชัย โชคชนะ หมายเลข 23 นายเฉลิมพล อุตรัตน์ หมายเลข24 นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 25 นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 25 คน ส่วนส.ก.มีผู้สมัครเพิ่ม 9 เขต รวม 13 คน รวมทั้งสิ้น356คน
พท.ยืนกรานสู้ต่อบัตรเบอร์เดียว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีมติใช้บัตรเลือกตั้งแบบคนละเบอร์ เกิดความสับสนแน่นอน เพราะต้องกา 2 เบอร์ เข้าคูหาต้องดูแล้วดูอีกเกิดความสับสน วัตถุประสงค์ของการเลือกตั้งคือ การเลือกตั้งโดยตรง ลับ ง่าย สะดวก เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเลือกพรรคที่มีนโยบายที่ตรงกับความต้องการ แต่ถ้าออกบัตรให้สับสนอาจทำให้ไปกาพรรคที่ไม่ตรงกับความต้องการผิดเจตนารมณ์ ไม่มีข้อดีเลย พรรคเพื่อไทยจะสงวนความเห็นมาชี้แจงในสภาฯอย่างรอบด้านอีกครั้ง และไม่ควรไปกลัววาทกรรมว่า พรรคใดพรรคหนึ่งจะชนะแบบถล่มทลาย ไม่ต้องกลัวขัดรัฐธรรมนูญเป็นเพียงข้ออ้าง
กระทุ้งนายกฯวางตัวเป็นกลาง
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน กทม.ช่วงก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ขอให้นายกฯระมัดระวัง เพราะสุ่มเสี่ยงข้อครหาว่า ไปช่วยคนใดคนหนึ่งท่านต้องทำตัวเป็นกลางมากที่สุด อย่าโอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเด็ดขาด
เย้ยผู้ว่าฯลากตั้ง 5 ปี ทำได้แค่ 5
นายพชร นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. ไม่ได้เลือกมา 9 ปีแล้ว กทม.เสื่อมถอยลงมาก เป็นเมืองระดับโลกไม่ได้พัฒนาเลยเมื่อเทียบกับเมืองระดับโลกอื่นๆ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ตั้งมายังให้คะแนนตัวเองแค่ 5 จากคะแนนเต็ม 10 ยังจะอยากลงเลือกตั้งเพื่อทำงานต่อ ถ้าชาว กทม.ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารแบบโมเดิร์นไนซ์ ที่มีประสิทธิภาพ ขอให้เลือกคน และพรรคที่มีแนวทางบริหารเพื่อการกินดีอยู่ดีในอนาคต
“นพดล” ฉะพวกอคติด้อยค่า “อุ๊งอิ๊ง”
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเข้ามาทำงานการเมือง ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า น.ส.แพทองธารสามารถจัดการกับเสียงวิจารณ์ได้ดี นิ่ง ไม่ตอบโต้ ขณะที่เสียงผู้นำการเมืองจากหลายพรรค ล้วนมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเมตตาน่าชื่นชม ตอนนี้ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง การที่มีพรรคใหม่ๆคนใหม่ๆ เข้ามาทำงานการเมืองให้ประชาชนมีทางเลือกถือเป็นเรื่องดี อย่าทำตัวเป็นนักขับรถ ที่วิจารณ์รถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ขับ รอฟังนโยบาย รอดูการกระทำก่อน ควรเปิดพื้นที่ รอดูคนใหม่ๆจะมีแนวทางแก้ปัญหาสร้างสรรค์อย่างไร มีกึ๋นแค่ไหน และประชาชนจะให้คำตอบในวันเลือกตั้ง การออกมาด้อยค่าวิจารณ์ด้วยอคติ ไม่มีใครได้ประโยชน์
หยัน “วรงค์” กลัว “ชินวัตร” ขึ้นสมอง
นายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย และอดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ออกมาด้อยค่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขู่อาจไม่มีแผ่นดินจะอยู่นั้น นพ.วรงค์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพูดจาปรามาสยกตนข่มผู้อื่นไร้วุฒิภาวะไม่รู้ว่ามีปัญหาด้านความรู้สึก จิตใจ หรือผิดหวังอะไร พอเห็นตระกูลชินวัตรแล้วไข้ขึ้นสมองหรือเปล่า บอยคอตเลือกตั้งก็แล้ว ลงถนนก็แล้ว ยังไม่ชนะ แถมยังต้องต่อคิวรอเข้าคุกกันเป็นแถว ทุกคนเป็นคนไทยมีสิทธิเสรีภาพเหมือนกัน เอาอะไรมาตัดสินว่า น.ส.แพทองธารอาจไม่มีแผ่นดินอยู่ ทำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของใครก็ได้ ควรเอาเวลาไปจัดการพรรคตัวเองทำนโยบายมาแข่ง อย่าไปรังแกคนหนุ่มสาว ที่มีวิสัยทัศน์อาสามาทำงานให้บ้านเมือง อยากถามเหมือนกันว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่พูดถึงนโยบายจำนำข้าวแล้ว นิ่งเงียบ บ้อๆ แบ้ๆยังไงชอบกล
แฉ พปชร.ใต้เหยียบพรรคร่วม
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ ประชาชนในพื้นที่ให้การตอบรับพรรคเพื่อไทยอย่างอบอุ่น และล้นหลาม ต้องการให้พรรคแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะมั่นใจว่านโยบายของพรรคปฏิบัติได้จริง ช่วยให้เป็นอยู่ ดีขึ้นแน่นอน ทั้งมองว่าหลายปีที่ผ่านมาถูกทอดทิ้งไร้การเหลียวแลจากรัฐบาล ประชาชนสิ้นหวังกับรัฐบาลปัจจุบัน ต้องการเปลี่ยนรัฐบาลมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่น่าจะอยู่ครบเทอม พบมีการใช้อำนาจจับกุมแกนนำคนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลในภาคใต้ ส่งผลต่อความไว้วางใจในพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน ดังนั้นเชื่อว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่จริงใจต่อกัน ส่งผลให้รัฐบาลล่มได้ตลอดเวลา
“ธนกร” สวนคนใต้รอให้บทเรียน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่านายวรวัจน์ไปถามคนใต้ที่ไหน ตนก็เป็นคนใต้ ลงพื้นที่สอบถามไม่เห็นมีคนใต้คนไหนพูดอย่างที่นายวรวัจน์อ้าง คนใต้เป็นคนจริงใจรักใครรักจริง ไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทยแทบไม่เคยปักธงได้ เพราะนิสัยแอบอ้าง เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นคนใต้เขารังเกียจ ขนาดหาแม่ทัพคุมภาคใต้ยังไม่มีใครอาสาถึงขนาดต้องเอาอดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.ภาคเหนือที่คนเกือบจำผลงานไม่ได้มาคุมทัพ ทางที่ดีหาข้อแก้ตัวไว้เลย เอาคนใต้ มาอ้างไว้เยอะ เลือกตั้งสมัยหน้าคนใต้รอให้บทเรียน นายวรวัจน์ และพรรคเพื่อไทยอยู่
“บิ๊กตู่” ชวนดูหนังรู้เท่าทัน ศก.ดิจิทัล
เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งที่ 1/2565 มีนายชัยวุฒิธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญ ทำอย่างไรคนไทยถึงจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล และเรื่องเหรียญคริปโต ที่นำมาใช้ในการระดมทุน หรือการใช้จ่ายในลักษณะบัตรกำนัล หรือเมตาเวิร์สโลกเสมือนจริง ที่ถูกสร้างให้ทุกคนเข้ามาปฏิสัมพันธ์ ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้ รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล ต้องช่วยกันก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้กฎหมาย ฝากให้ไปดูภาพยนตร์ใน Netflix “Trust NoOne-ล่าราชาคริปโต” จะได้เข้าใจเศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น หลังการประชุมนายกฯยังให้สัมภาษณ์ย้ำเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ยังได้หันมาพูดกับสื่อว่า “ขอให้เปิดดูหนัง Netflix ด้วย เรื่องล่าราชาคริปโต จะได้รู้ว่ามันดีนะ มันมีวิกฤติ โอกาส และความเสี่ยงสูง เป็นการทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ในการสื่อสารกับคน เข้าใจไหม” เมื่อถามว่า มีเรื่องอื่นแนะนำอีกไหม นายกฯตอบว่า ให้ไปเปิดดูท็อปฮิต 10 เรื่อง โชว์หน้าจออยู่แล้ว
ปัดลงพื้นที่ไม่เกี่ยว ลต.ผู้ว่าฯ กทม.
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ถูกมองว่าตรงกับวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับตน ไปเกี่ยวอะไรกับเขา วิเคราะห์กันไปเองทั้งนั้น ถ้าแบบนี้คงไม่ต้องไปไหนเลย นั่งอยู่แต่ทำเนียบรัฐบาลก็แล้วกัน ความเดือดร้อนเกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้เสียที่ไหน เกิดขึ้นทุกวัน นายกฯก็อยากจะไปดูทุกวัน แต่ติดราชการบ้าง อะไรบ้าง บางทีก็ไม่สะดวก ไปแล้วก็เกิดปัญหาวุ่นวายการจราจรติดขัดวุ่นวาย ไปไหนแต่ละครั้งก็เลยไปเล็กๆ ไปคลองโอ่งอ่างก็เพราะนึกขึ้นมาได้ว่า เป็นคนสนับสนุนโครงการคลองสวยน้ำใส และคูคลองใน กทม.นโยบายรัฐบาล กทม.มีทั้งหมด 120 กว่าคลอง ต้องดูว่าทำอย่างไรน้ำจะไม่ดำ ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า นายกฯห่วงประชาชน พ่อค้าแม่ค้า อยากลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา ไปดูบ้านเมืองว่าพัฒนาอย่างไรบ้าง บางฝ่ายโจมตีเป็นเรื่องไร้สาระ อย่ากลัวเลย นายกฯลงพื้นที่เป็นเรื่องดี ได้ใกล้ชิดรับฟังเสียงประชาชน ไม่ได้ไปหาเสียงให้ใคร
ก้าวหน้าเดินหน้าปลดล็อกท้องถิ่น
ที่อาคารอนาคตใหม่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นำทีมแถลงเปิดตัวแคมเปญ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” เชิญชวนเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น นายธนาธรกล่าวบรรยายหัวข้อ “ท้องถิ่นก้าวหน้า สังคมไทยก้าวไกล” ว่า จะเป็นการปลดล็อกพลังการผลิตครั้งใหญ่ของสังคมไทย ทำลายโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งความก้าวหน้า วันนี้ครบรอบ 130 ปีของการสถาปนารัฐราชการรวมศูนย์ ขอใช้โอกาสนี้รณรงค์เรื่องการปลดล็อกท้องถิ่น แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 กระจายอำนาจและปฏิรูประบบรัฐราชการให้เป็นไปได้จริง สัญญาว่า คณะก้าวหน้าและเพื่อนร่วมงานในพรรคก้าวไกล จะทำทุกวิถีทางตามกำลังที่มีอยู่เอางบฯและอำนาจ กลับไปให้พวกท่านแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ด้วยการเลือกคนที่มีศักยภาพมาจัดการผ่านกลไกการเลือกตั้ง
“แม่ธนาธร” แจงที่ น.ส.3 ก.รุกป่า
เมื่อเวลา 11.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มไลน์สื่อมวลชนประจำคณะก้าวหน้า ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุถึงกรณีที่กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.ว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่สังคมและสื่อต่างๆพาดหัวว่า ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจรุกที่ป่า กินป่า เพราะเป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับตน และครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริต และตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลังมาโดยตลอด ขอโอกาสชี้แจงเพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม ไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก เอกสารสิทธิที่ดินออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดินมีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง ต่อมาในปี 2533 ได้รับการแนะนำจากนายสมัคร สุนทรเวช สมัยนั้นเป็นนักการเมืองสำคัญในบ้านเมือง ให้มาซื้อที่ดินจากบริษัทมิตรผล เจ้าของที่ดินนายกมล ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัทมิตรผล เป็นนักธุรกิจใหญ่รู้จักกันดี เมื่อทั้งเจ้าของ และผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือไม่คิดเลยว่าที่ดังกล่าวจะผิดกฎหมาย
ยันซื้อต่อ บ.ใหญ่ถูกต้องตาม ก.ม.
“ยืนยันว่าครอบครัวเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.ตอนที่ซื้อที่ดินก็มีเอกสารสิทธิรับรองถูกต้องตามกฎหมาย ซื้อขายมาหลายทอดแล้ว และก็ไม่มีอำนาจบารมีไปบังคับข่มขู่ ให้เจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิให้ ที่ดินก็เป็นที่ของบริษัทใหญ่ มีเครดิตดี คนแนะนำเป็นนักการเมืองใหญ่ เอกสารสิทธิก็มีเรียบร้อย เราจึงไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหาอะไรทางกฎหมาย” นางสมพรกล่าว
โวย 30 ปีไร้ปัญหาอย่ามาหาว่าโกง
ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวว่า นางสมพรเคยมีบันทึกกับกรมที่ดินว่ารับทราบอยู่แล้วว่าที่ผืนนี้เป็นที่ป่า นางสมพรยืนยันว่าเอกสารฉบับนี้เนื้อหาระบุแค่ว่า ตนรับทราบว่าที่ดินแปลงนี้อาจเป็นหรือไม่เป็นที่ป่าไม้ถาวรก็ได้บันทึกถ้อยคำดังกล่าว สำนักงานที่ดินทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนฟ้อง ถ้ามีการเพิกถอนสิทธิในภายหลัง ในกรณีนี้กรมที่ดินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าหรือไม่ แล้วตนเองเป็นราษฎรธรรมดาจะทราบได้อย่างไรมีที่ดินผืนนี้มา 30 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งลูกชายมาทำงาน การเมือง ลูกก็โดนยัดคดีร้ายแรงให้สารพัด ส่วนตัวเองก็โดนร้องเรียนว่ารุกป่า กินป่า เป็นเรื่องเป็นราว เป็นคดีใหญ่โตยืนยันว่าที่ผืนนี้ซื้อมาถูกกฎหมายทุกประการมีเอกสารสิทธิเรียบร้อย แต่อยู่มาวันหนึ่งรัฐบอกว่าผิดจะเพิกถอนไม่มีปัญหา แต่ต้องไปพิสูจน์ถูกผิดกันตามกฎหมาย ถ้าออกมาว่าเป็นป่าจริง ยินดีคืนที่ให้ แต่อย่ามากล่าวหาว่าครอบครัวโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด
นักลงทุนตาเป็นมันตั้งกาสิโนไทย
อีกเรื่องความคืบหน้าการแก้ปัญหาบ่อนและการพนันผิดกฎหมาย นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า และการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุม กมธ.ได้เชิญนายผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารบริษัทซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) และนายหราน เฉินกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มพาตี้ คอนซัลติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด นักลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร เข้าให้ข้อมูล โดยนายผินเสนอให้รัฐบาลสร้างสถานที่ท่องเที่ยว ใหม่ๆขึ้นเพิ่ม นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม โบราณสถาน วัดวาอาราม พระราชวัง จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ส่วนนายหราน เฉิน ก็พร้อมลงทุนในไทยหากได้รับอนุญาต โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองหลักจะมีศักยภาพทางธุรกิจและความเหมาะสมมากกว่า นอกจากจะฟังข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆแล้ว กมธ.พร้อมที่จะไปศึกษาดูงาน ข้อมูลในพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน หรือต่างประเทศ