ถ้าเลือกตั้งวันนี้ พรรคใดชนะ “เพื่อไทย” ยังนำ แต่พรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” พุ่งตามมา หายใจรดต้นคอ ปชป.ตามมาอันดับ 3 ส่วน พปชร.ลดฮวบ ขณะ รทสช.เพิ่มจาก 0.4 ขึ้นมาอยู่ที่ 4.8 %
วันที่ 8 ม.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ถ้าเลือกตั้งวันนี้ พรรคใดชนะ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อน จากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,114 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2–7 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่า ถ้าวันนี้เลือกตั้ง จะเลือกพรรคใด พบว่า พรรคการเมืองอันดับแรก ได้แก่ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 23.4 แต่พรรคที่จี้ติดมาอันดับสองแทบไม่แตกต่างกันคือ พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 21.9 ในขณะที่ อันดับสาม ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 9.9 พลังประชารัฐได้ร้อยละ 8.0 ก้าวไกลร้อยละ 5.8 รวมไทยสร้างชาติร้อยละ 4.8 ชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 4.3 ไทยสร้างไทยร้อยละ 3.9 ชาติพัฒนากล้า ร้อยละ 3.9 สร้างอนาคตไทย ร้อยละ 3.5 และอื่น ๆ อาทิ เสรีรวมไทย ไทยภักดี ไม่เลือกใครเลย เป็นต้น ร้อยละ 10.6
ที่น่าพิจารณาคือ แนวโน้มความนิยมของประชาชนต่อพรรคการเมือง ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่า ในเดือนกรกฎาคม ปี 2565 เมื่อปีที่แล้ว พรรคเพื่อไทยได้ร้อยละ 26.9 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 23.4 ในเดือนมกราคม ปี 2566 ในขณะที่ พรรคภูมิใจไทย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 14.2 ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มาอยู่ที่ ร้อยละ 21.9 ในเดือนมกราคมปีนี้ นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.8 ในเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ ร้อยละ 9.9 ในเดือนมกราคมปีนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากร้อยละ 22.3 ซึ่งเคยเป็นพรรคอันดับสอง ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.0 ในอันดับที่สี่ของการสำรวจครั้งนี้ และพรรคก้าวไกล ลดลงเช่นกันจากร้อยละ 6.9 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.8
ที่น่าจับตามองคือ กลุ่มพรรค “สวิงโหวต” ที่เป็นพรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.4 ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 แต่ถ้ามองว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ แยกมาจากพรรคพลังประชารัฐที่เคยได้ร้อยละ 22.3 ในการสำรวจเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จะพบว่า คะแนนรวมของทั้งสองพรรคในการสำรวจครั้งนี้เหลือเพียงร้อยละ 12.8 จึงน่าติดตามว่า คะแนนนิยมลดลงและกระจายออกไปที่พรรคการเมืองใดบ้าง โดยในการสำรวจครั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.9 พรรคชาติพัฒนากล้า เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.3 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.9 พรรคชาติไทยพัฒนา เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.3 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.3 พรรคสร้างอนาคตไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากร้อยละ 1.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.5
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพล ถ้าวันนี้เลือกตั้ง พรรคใดชนะ ชี้ให้เห็นว่า พรรคที่เติบโตขึ้นมาเป็นอันดับสอง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย จี้ติดพรรคเพื่อไทย ที่ยังคงรักษาอันดับหนึ่งไว้อยู่แต่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในขณะที่พรรคการเมืองอันดับสาม ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ โดยที่น่าพิจารณาคือ พรรคพลังประชารัฐ ตกลงไปอยู่อันดับที่สี่ และแม้คะแนนนิยมรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว คะแนนนิยมโดยรวมก็ลดลงจากเดิมอย่างมาก
แต่พรรคที่น่าจับตามองคือพรรค “สวิงโหวต” โดยสมมติฐานเป็นกลุ่มที่อาจเปลี่ยนใจได้จำนวนมากมาจากกลุ่มที่อยู่กลางๆ ส่วนหนึ่งปันใจไปให้พรรคเกิดใหม่ เช่น พรรคไทยสร้างไทย พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคชาติพัฒนากล้า ที่รวมตัวกัน และอื่นๆ ตามลำดับ ถ้าพรรคการเมืองใหม่รวมตัวกันได้ก็จะมีอำนาจต่อรองการเมืองสูงไม่น้อย และถ้าเสนอนโยบายที่โดนใจประชาชนย่อมจะเพิ่มแต้มต่อได้มากยิ่งขึ้น