2 กันยายน 2564 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 2 ก.ย.จะมีกลุ่มหลักๆ นัดหมายรวมตัวทำกิจกรรมดังนี้ 1.กลุ่ม Car Mob ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดหมายเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก
2.กลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบเวลานัดหมาย รวมกลุ่มก่อความวุ่นวายที่แยกดินแดง บช.น. ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การรวมกลุ่มดังกล่าวจะเป็นความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 9 และ 10 ลง 31 ส.ค.64 ซึ่งหากการรวมกลุ่มนั้นมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพโรค ก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง หากมีการปิดหรือกีดขวางการจราจร ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ด้วย
โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว สรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ในห้วงเดือนก.ค.และส.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 170 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด 645 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 375 คน ภาพรวมการดำเนินคดีของ บช.น. ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 422 คดี สอบสวนเสร็จ 201 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 221 คดี
ล่าสุดทาง บช.น.ได้ทำการออกหมายเรียกผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมอีก จำนวน 164 คน เป็นกลุ่มแกนนำ 25 หมาย และกลุ่มผู้ชุมนุม 139 หมาย และขอเตือนผู้ปกครองว่าหากบุตรหลานท่านที่เป็นเยาวชนได้กระทำความผิดท่านอาจจะมีความผิดและได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายเรียกผู้ปกครอง จำนวน 17 คน โดยได้ว่ากล่าว ทำทัณฑ์บนผู้ปกครองไปแล้ว ส่วนหนึ่ง และหากบุตรหลานในความดูแลของท่านได้กระทำผิดซ้ำอีกก็จะดำเนินการปรับ หรือจำคุกตามพฤติการณ์ที่ได้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กกระทำความผิดนั้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ภาพรวมการชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา มีการกระทำผิดทางพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค หากถ้อยคำให้การปราศรัยมีการกระทำผิดอย่างไร ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะดำเนินการเอาผิดกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนการชุมนุมภายในวันนี้นั้นจากการข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมจะรวมตัวกันบริเวณแยกอโศกและปักหลักชุมนุมบริเวณดังกล่าว และมีการใช้เครื่องขยายเสียงบริเวณดังกล่าว ไม่มีการเคลื่อนขบวนไปหน้ารัฐสภาแต่อย่างใด
ส่วนพื้นที่ที่อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นนั้น จะมีการชุมนุมในวันที่ 3 ก.ย. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจะนัดชุมนุมบริเวณหน้าห้างบิ๊กซีราชประสงค์ ส่วนในวันที่ 4 ก.ย. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มรีเดมจะเดินทางไปหน้าสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์
ส่วนกรณีที่มีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมที่ถืออาวุธปืนชุมนุมวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ทางผบช.น.เร่งรัดติดตามกรณีดังกล่าว รวมถึงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวถูกทำร้ายอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบและจับกุมตัว รวมถึงผู้ก่อเหตุกรณีอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป