ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้ใช้เพสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวลงในเพสบุ๊คส่วนตัวในข้อความระบุถึงทนายความคนหนึ่ ระบุใจความสำคัญว่าถูกทนายรายนี้หลอกให้โอนเงินจำนวนหลายแสนบาทเพื่อเป็นการวิ่งเต้นคดีของแฟนหนุ่ม
โดยอ้างว่าสามารถจะพูดคุยกับอัยการได้เพื่อให้คดีไม่สั่งฟ้อง ผู้เสียหายก็เชื่อจึงโอนเงินไปจำนวนหลายแสนบาทพร้อมนำโฉนดที่ดินและรถยนต์ไปจำนำจำนองเพื่อนำเงินไปให้กับทนายรายหนึ่ง
แต่ความมาแตกก็เพราะมีอัยการจังหวัดโทรมาหาตัวเองว่ากำลังจะสั่งฟ้องคดีของแฟนแล้วไม่เกี่ยวข้องกับทนายคนนี้แต่อย่างใด ตนเองจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงเพสบุ๊คเพื่อทวงเงินคืน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินไปกับพบกับเจ้าของโพสต์ชื่อ น้องพิมพ์ อายุ 29 ปี อาศัยอยู่แถวตำบลทุ่งเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี บอกว่าตนเองรู้จักกับทนายคนนี้ผ่านทางเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เป็นคนติดต่อให้ว่าความแถวอำเภอพนัสนิคม เกาะโพธิ์ เกาะจันทร์เป็นที่รู้จักกันดีในระแวกคนแถวนี้
แฟนตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า เป็นคดีเก่าเมื่อปี 65 ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าครอบครองอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตำรวจสภ.เกาะจันทร์ แจ้งข้อกล่าวหา
ตนเองจึงติดต่อทนายความคนนี้ให้ทำคดี แต่ทนายอ้างว่ารู้กับอัยการสามารถวิ่งเต้นคดีไม่ให้อัยการสั่งฟ้องได้ เรียกเงินหลายครั้ง มีหลักฐานการโอนเงิน ถึงกับที่พ่อของตนเองต้องเอารถกระบะไปจำนำแล้วโฉลดที่ดินของบ้านแฟนก็นำไปจำนอง ซึ่งตอนนี้กำลังจะถูกยึดแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
กระทั่งมาทราบจากทางอัยการว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทนายความดังกล่าวแต่อย่างใด ตนจึงติดต่อไปหาทนายความคนดังกล่าวเพื่อจะขอเงินคืนจำนวน 3 แสนบาทจากการโอนครั้งหลังสุด
แต่ทนายความคนดังกล่าวก็โอนเงินคืนมาเพียงห้าหมื่นบาทเท่านั้น โดยอ้างว่าผ่าสมองอยู่ส่งรูปมาให้ดูแต่ไม่ยอมบอกว่าโรงพยาบาลใด
ตนเองจึงอยากขอความเป็นธรรมอย่างน้อยเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคนที่จะวิ่งเต้นคดี โดยผ่านทนายความให้ระวังให้ดีไม่งั้นอาจจะโดนแบบครอบครัวตนเองได้ถึงขนาดจะไม่มีบ้านจะอยู่เพราะหมดตัวแล้ว