“ทักษิณ” ขย่ม “บิ๊กตู่” 7 ปี ทำพัง ขออีก 5 ปี คงพินาศ ลงทุนยกมือไหว้รุ่นน้อง ชี้ 3 ป.ตกยุค แนะเปลี่ยนคนรุ่นใหม่

“ประยุทธ์” ตั้งวงคุย 3 หัวหน้าพรรคร่วมฯ “จุรินทร์” ยันไม่มีการ แจ้งปรับ ครม. ยึดคำพูดผู้นำย้ำไม่ยุบสภา “อนุทิน” โอ่ ภท.ลงพื้นที่ไม่เคยหยุด ทำทุกวันให้ดี ที่สุด “ทักษิณ” ขย่ม “บิ๊กตู่” 7 ปี ทำพัง สุดแสนแย่ คนไทยทรมานที่สุด ขออีก 5 ปี คงพินาศ ลงทุนยกมือ ไหว้รุ่นน้องพอเถอะ ชี้ 3 ป. ตกยุคแนะเปลี่ยนคนรุ่นใหม่ นั่งนายกฯ ฟันธงยุบสภาแน่ ปลุกใจ พท. พร้อมรบโวชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์ “ธรรมนัส” ไปขอนแก่นรอรับ “บิ๊กป้อม” มั่นใจ พปชร.คว้าชัยได้ ส.ส.เพิ่ม

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันว่าไม่มีแนวคิดที่จะยุบสภาในขณะนี้ พร้อมส่งสัญญาณรัฐบาลจะอยู่ยาว เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ และมีภารกิจสำคัญต้องจัดการประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกตลอดปี 2565 แต่พรรค การเมืองยังคงเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเวลา 20 นาที ภายหลังหารือแล้วเสร็จนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามสื่อ แต่ได้โค้งคำนับน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9

“จุรินทร์” ฟังผู้นำย้ำลุยต่อไม่ยุบสภา

นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ ไม่ได้กำชับ อะไรกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นพิเศษ พูดคุยตามปกติทุกครั้งที่เจอกัน น้ำท่วมได้พูดกันอยู่แล้วใน ครม.ทุกคนต้องลงไปช่วย ไม่ใช่ภารกิจคนใดคนหนึ่ง ยืนยัน ไม่มีการแจ้งเรื่องปรับ ครม. และนายกฯ ไม่ต้องเคลียร์ใจ อะไรกับพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว เพราะไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่านายกฯระบุให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมกันทำงานจัดการประชุมเอเปกส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่านายกฯแสดงเจตจำนงไปหลายครั้งแล้ว ท่านพูดทำนอง ว่าไม่มีการยุบสภา ก็ต้องฟังหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้มีอำนาจยุบหรือไม่ยุบสภา ต้องถือท่านเป็น เกณฑ์ ที่พรรคการเมืองเริ่มทำพื้นที่กันแล้ว พรรคเรา ลงพื้นที่กันมานานแล้ว ได้กำชับ ส.ส.ลงพื้นที่ทำงาน รับใช้ประชาชน โดยเฉพาะช่วงปิดสมัยประชุมสภา ทำต่อเนื่อง 2-3 ปีมาแล้ว ไม่ได้แปลว่าจะมียุบสภาถึงจะลงพื้นที่ การพูดถึงแคนดิเดตนายกฯเป็นสิทธิของแต่ละพรรค ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เงินบริจาค จากผู้เสียภาษีมากเป็นอันดับ 2 ถ้าวัดเป็นความนิยมแสดงว่าเราได้ลำดับ 2 ดีกว่าที่เป็นอยู่ ที่อยู่อันดับ 4 อันดับ 5 ส่วนอันดับ 3 เป็นพรรคกล้าของนายกรณ์ จาติกวณิช สุดแล้วแต่ ไม่ไปวิจารณ์พรรคอื่น

“อนุทิน” โอ่ ภท.ลงพื้นที่ไม่เคยหยุด

นายอนุทินกล่าวว่า ได้พูดคุยตามปกติ ไม่มี สั่งการเรื่องใดๆเป็นพิเศษ เมื่อถามว่านายกฯระบุในที่ประชุม ครม.การจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2565 หมายความว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราก็ทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังมีหน้าที่มีภารกิจอยู่ จะทำให้ดี เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้พรรคการเมืองลงพื้นที่กัน หนักมาก นายอนุทินกล่าวว่า เราลงพื้นที่ตลอดเวลาอยู่แล้วไม่เคยหยุด ทั้งตนและสมาชิกพรรคทุกคนไม่ว่าจะสถานการณ์อะไร ทำทุกวันให้มันดีที่สุด ส่วนที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งยอดบริจาคเงิน ให้พรรคการเมืองของผู้เสียภาษี พรรคก้าวไกลได้รับ บริจาคมากเป็นอันดับหนึ่งนั้นยังไม่ได้ดู ยังไม่ได้รับ รายงาน พรรคใครพรรคมันอยู่แล้วตามสไตล์ตน ส่วนกรณี น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ที่ถูกขับจากพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้มาสมัครพรรคภูมิใจไทย

“ทักษิณ” ขย่ม “บิ๊กตู่” ขออีก 5 ปีพินาศ

เมื่อเวลา 20.02 น. วันที่ 12 ต.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ร่วมสนทนาในรายการ Care Talk x Care Clubhouse ครั้งที่ 17 ในหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ?” มีเนื้อหาตอนหนึ่งเกี่ยวกับการเปิดประเทศว่า ตอนที่ตนเสนอว่าจะเปิดประเทศใน 180 วัน โดยมีเงื่อนไขคือต้องฉีดวัคซีนถึงและวัคซีนต้องมีคุณภาพ ไม่เช่นนั้นภูมิคุ้มกันจะต่ำ ต้องจัดการสาธารณสุขให้ดีกว่านี้ เตรียมยาเฟสต่อไป แต่วันนี้รัฐบาลบริหารแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่ได้เร่งสปีด แล้วพอถึงเวลา 120 วัน ก็มาเปิดโดยเลือก 10 ประเทศก่อนเป็น 7 ปี แสนแย่ คนไทยทรมานที่สุด “ผมพยายามดูว่าใช้หลักคิดอะไร จะเอาจำนวน นักท่องเที่ยว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือให้ คนมาเยอะโดยไม่สนใจอย่างอื่น แต่พอมาดูไม่มีเลย เช่นสหรัฐฯคนยังติดเยอะ จีนคนติดน้อยแต่กลับไปเขาต้องกักตัว ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คนติดเชื้อ วันละร้อยกว่าไปเมืองไทยก็ใช้เงินมาก แต่ไม่เห็นอยู่ในลิสต์ สงสัยกลัวคนมาเยี่ยมผม ไม่รู้ใช้หลักอะไร สรุปแล้วคือเปิดแต่เหมือนไม่ค่อยพร้อม 10 ประเทศไม่มีหลักคิด กระทรวงการต่างประเทศและหมอควร มาคุยกัน มันต้องเลือกประเทศให้ถูก ไม่เช่นนั้นไม่ต้อง เลือกเลย ใช้วิธีหลักสากลเลย อย่างยุโรปมีประเทศห้ามน้อยมากคือให้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ผลตรวจเป็นลบ นายกฯอยู่มา 7 ปี บอกขอเวลาอีกไม่นาน และจะขออีก 5 ปี ไม่นานหรือ 5 ปีแรก มีอำนาจล้นเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยังทำอะไรไม่ได้ ทำเรื่องง่ายๆก็ไม่สำเร็จ สปีชที่อ่านกับตัวท่าน เหมือนคนละคนเลย สปีชไปอย่าง ท่านไปอย่าง ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดท่านต้องทำ เลยไม่รู้ว่า ตกลงทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ที่แน่ๆเศรษฐกิจพัง ไปแล้ว รัฐบาลบริหารไม่เป็นยุทธศาสตร์ คิดอะไรไม่เป็น องค์รวม อย่างเรื่องเปิดประเทศไปเลียนแบบตรงนั้น ฟังตรงนี้ คิดองค์รวมไม่ได้ หลักคิดไม่มี 7 ปีสุดแสน จะแย่ที่สุด ทรมานที่สุดของคนไทย” นายทักษิณกล่าว

ทุบ ปท.เละเสียโฉมจะพลิกอย่างไร

นายทักษิณยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ต่างๆว่า จะเปิดโอกาสให้เยาวชนมามีส่วนร่วม ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี วันนี้เป็นไง กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยิงเด็ก บอกให้ไปพูดกับเด็กก็ไม่พูด ถ้าไปพูดกับเด็กเหมือนที่พูดแบบนี้จบแล้ว หากท่านจะอยู่ต้องเปลี่ยนวิธีคิด แต่ท่านอยู่ได้ไม่นานหรอก ผลงานแบบนี้ พฤติกรรมแบบนี้ ท่านเรียนรู้แต่ไม่ได้เอามาใช้ หากเรียนรู้แล้ว มาแก้น่าจะดีขึ้น จะมาขอ 5 ปี ขอพลิกโฉมประเทศไทย คำว่าพลิกโฉมตนเคยใช้ตอนปี 46 ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ไปปราศรัยหาเสียง “วันนี้สภาพัฒน์ใช้คำว่าพลิกโฉม ไม่แน่ใจว่าท่านจะอยู่พลิกโฉมได้หรือเปล่า เพราะทำให้ประเทศเสียโฉมมาเยอะแล้ว จะไปพลิกยังไง”

ยกมือไหว้รุ่นน้องพอเถอะ 3 ป. ตกยุค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายทักษิณยกมือไหว้ พร้อมกล่าวว่า “ยกมือไหว้เลย ผมรุ่นพี่ยกมือไหว้รุ่นน้องหน่อย พอเถอะท่าน เสียดายบ้านเมือง ให้คน รุ่นใหม่มาทำเถอะ เรามันแก่แล้ว เรามันเบบี้บูมเมอร์ ไม่เข้าใจหรอกว่าเด็กรุ่นหลังคิดยังไง ขนาดผมอ่านหนังสือเยอะ ผมยังว่าผมเข้าใจไม่ลึกซึ้งพอ ท่านนี้ ไม่เลย 7 ปี นี่มาได้พิสูจน์ 3 ป. ท่านตกยุคหมดแล้ว พอแล้ว ที่พูดเพราะผมมีส่วนตั้งพวกท่านมาทั้งนั้น เป็นบาปกรรมผม เล่นกันอย่างงี้ รักษาเก้าอี้แต่บ้านเมืองพัง วันนี้เบบี้บูมเมอร์อย่านั่งเป็นนายกฯเลย พอแล้ว ให้เจนเอกซ์เจนวายทำเถอะ ฝากไว้ เอาแค่นี้ วันนี้สังคมเสียหายไปเยอะ เห็นแก่บ้านเมืองเถอะ เปลี่ยนนายกฯเหอะ ต้องรุ่นใหม่”

ปลุกใจ พท.ชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในการ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ช่วงค่ำได้มีแกนนำ และ ส.ส.ประมาณ 30 คน ไปรับประทานอาหารค่ำที่เซฟเฮาส์ย่านเหม่งจ๋าย อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายไชยา พรหมา รองหัวหน้า พรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ทุกคนรวมถึง เด็กเสิร์ฟผ่านการตรวจ ATK ก่อนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระหว่างทานอาหารได้มี แกนนำพรรคต่อสายให้นายทักษิณ ชินวัตร วิดีโอคอล ขึ้นจอโปรเจกเตอร์เพื่ออวยพรให้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ในโอกาสครบรอบวันเกิด 69 ปี และมี ส.ส.ในงาน ได้สอบถามสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยนายทักษิณตอบว่า เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมจะยุบสภาแน่นอน ขอให้ตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นความหวังของประชาชนที่จะเข้ามา ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีโอกาสชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์

“สมคิด” เซ็งเสียเปล่าผู้นำไม่รู้สึกรู้สา

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยกมือไหว้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยอมถอยออกจากตำแหน่งว่าเป็นความหวังดีของนายทักษิณอยากให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ ให้คนกล้าเข้ามาลงทุน เศรษฐกิจจะได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า แต่การลงทุนของนายทักษิณด้วยการยกมือไหว้ครั้งนี้ดูท่าจะเสียเปล่า เพราะคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่แล้ว เพราะยึดติดกับอำนาจจนเคยชิน มองเห็นคนตักเตือนเป็นศัตรูไปหมด ไม่ยอมรับฟังเสียงคนอื่น เลือกฟังแต่เสียงเยินยอตอนออกไปต่างจังหวัด ขอบอกว่าหากจะไป จ.อุบลราชธานี อย่าเกณฑ์คนมาต้อนรับจะได้พบชาวบ้านที่แท้จริง

จวก ป.ป.ช.ตามใจผู้มีอำนาจ

นายสมคิดกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติไม่ชี้มูลความผิด พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม 8 ต่อ 1 กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ทั้งที่อนุกรรมาธิการ ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา 9 ต่อ 0 ว่า การทำงานของ ป.ป.ช.ชุดนี้มีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยืมนาฬิกาเพื่อนก็ไม่ผิด พรรคพลังประชารัฐ จัดเลี้ยงโต๊ะจีนก็ไม่ผิด สุดท้าย พล.อ.ปรีชาก็ไม่ผิดอีก ทำให้เป็นเรื่องน่าห่วงว่าองค์กรอิสระมีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ ป.ป.ช.ทั้งหลายควรทบทวนตัวเองให้เป็นที่พึ่งหวังแก่ประชาชนให้ได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ตัดสินตามใจผู้มีอำนาจ

“ศรัณย์วุฒิ” แถลงย้ายบ้านใหม่

นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า เบื้องต้น ช่วงบ่ายที่อาคารรัฐสภา วันที่ 14 ต.ค.จะแถลงถึงรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงท่าทีต่อมติพรรคและจะไปอยู่สังกัดพรรคใด เมื่อถามว่ามีพรรคใดทาบทามแล้วหรือไม่เป็นพรรคฝ่ายเผด็จการหรือฝ่ายประชาธิปไตย นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ยังไม่ขอตอบตอนนี้ เพราะอยากจะพูดให้กับทุกคนรับทราบพร้อมๆกัน

“สุวิทย์” เผยขอเว้นวรรค

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและพัฒนา และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกระแสข่าวกลุ่มสี่กุมารเตรียมจับมือกลุ่มการเมืองว่า ไม่ทราบและไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น แต่ได้บอกคนอื่นๆในทีมแล้วว่าขอเว้นวรรคทางการเมือง ยังมีหลายเรื่องที่ทำให้บ้านเมืองได้และกำลังทำอยู่ ขอให้กำลังใจทุกคนที่จะเดินหน้าทำงานการเมืองกันต่อไป เมื่อเรามาเราต้องไปไม่ได้ยึดติด ด้วยสูตรโครงสร้างเวลานั้นไม่สามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับ ส.ส.ในสภาได้เป็นจุดตาย เกมการเมืองเรารู้อยู่แล้วต้องเป็นแบบนี้

“ธรรมนัส” มั่นใจ พปชร.ได้ ส.ส.เพิ่ม

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค พปชร. และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค เข้าสังเกตการณ์การประชุมเลือกตัวแทนพรรคประจำ จ.ขอนแก่น และเตรียมพร้อมรอต้อนรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.ขอนแก่น วันที่ 14 ต.ค. ด้วย โดยมีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น และนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น ต้อนรับ และมีตัวแทน กกต.ขอนแก่น ร่วมสังเกตการณ์ โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าขอให้มั่นใจนโยบายพรรคที่ชัดเจน แน่วแน่ แน่นอน จะทำให้คว้าชัยเลือกตั้งได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น

“ไผ่” ยัน “ตู่-ป้อม” วัดพลังไม่มีแล้ว

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และรองเลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประวิตรที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 14 ต.ค. และนายกฯ ที่ จ.อุบลราชธานี วันที่ 15 ต.ค. ส.ส.พรรค พปชร.จะไปร่วมลงพื้นที่ทั้ง 2 จุด หลังลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น กับ พล.อ.ประวิตรแล้วตนจะไปรอต้อนรับและร่วมลงพื้นที่กับนายกฯ ที่ จ.อุบลราชธานี เรื่องการวัดกำลังจำนวน ส.ส.ไม่มีแน่นอน มันจบไปแล้ว ตอนนี้แก้น้ำท่วมและโควิด-19 หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะลงพื้นที่ต่อเนื่อง ส.ส.พรรคก็ลงพื้นที่ตลอด

กกต.ถก “วิษณุ” ทำ ก.ม.ลูกเลือกตั้ง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 14 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล จะนำคณะเข้าหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ หารือถ้าจะยกร่างกฎหมายเลือกตั้งจะเป็นลักษณะอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 (1) กำหนดให้องค์กรอิสระเสนอแนะ ครม.ได้ สำนักงาน กกต.เตรียมศึกษารายละเอียดไว้บ้างแล้วให้สอดคล้องกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับใหม่ และยังต้องมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 77 กำหนดไว้ด้วย ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยมีมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ต้องไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน เพื่อคงสภาพความเป็น ส.ส.ต่อไป หากพ้น 30 วันแล้วยังไม่สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.

เล็งชงปรับเกณฑ์ทำไพรมารีโหวต

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กกต.ว่าร่างแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ กกต.ศึกษาและยกร่างมี 35 มาตรา ที่น่าสนใจ อาทิ ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มี ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะนำคะแนนแต่ละพรรคที่ได้รับเลือกตั้งทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100 เพื่อให้ได้คะแนนต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน หากจัดสรรแล้วยังได้ไม่ครบ 100 คนจะจัดสรรให้พรรคที่เหลือคะแนนเศษมากตามลำดับ การแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ 400 เขต จะให้เสร็จภายใน 90 วัน ส.ส.เขตใช้เบอร์เดียวกับเบอร์พรรค และอาจหารือข้อติดขัดที่รับฟังพรรคการเมืองมา เช่น การทำไพรมารีโหวตคัดเลือกและส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองเคยเสนอแนวทางแก้ไขให้สำนักงาน กกต.แก้ไขหลักเกณฑ์เป็นพรรคที่จะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขาพรรคจังหวัดละ 1 แห่งประชุมร่วมกับสมาชิก 500 ราย ลงคะแนนเลือกผู้สมัครในทุกเขตเลือกตั้งของจังหวัดจะคล่องตัวขึ้น

ไทยไม่ทนเรียกร้องปล่อย “จตุพร”

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นายวีระ สมความคิดและนายไทกร พลสุวรรณ รวมตัวเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช.และแกนนำสามัคคีประชาชน โดยอ่านแถลงการณ์ระบุนายจตุพรได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากการถูกจำคุกในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯแล้ว แต่กลับยังคงถูกคุมขังต่อไปในคดีที่ชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เมื่อปี 50 ทั้งที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาจะตัดสินคดีเดือน พ.ค.65 แม้ทนายความยื่นประกันหลายครั้งแต่ไม่ได้รับอนุมัติ ไม่มีเหตุอันสมควร จากนั้นช่วงบ่ายทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวอีกครั้ง แต่ศาลยังไม่อนุมัติ และวันที่ 14 ต.ค.จะยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง

โอดกองทุนราษฎรฯ ใกล้หมด

ต่อมาเวลา 16.00 น.กลุ่มทะลุฟ้า นำโดยนายทรงพล สนธิรัตน์ น.ส.ปนัดดา ศิริมาสกูล นัดแนวร่วมจัดกิจกรรมการชุมนุม “ม็อบ 13 ตุลา เสวนากระบวนการยุติธรรมกับอิสรภาพนักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ตั้งเวทีชั่วคราวริมถนนงามวงศ์วาน มีการแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ต ใช้สีแดงเทราดตัววัยรุ่นหญิงสื่อถึงการต่อสู้ของประชาชน และเสวนาเรื่องสิทธิการประกันตัว โดยนางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมวิทยา ม.เกษตรศาสตร์ ผู้ดูแลกองทุนราษฎรประสงค์ ใช้ประกันตัวแกนนำและแนวร่วมม็อบราษฎร กล่าวว่า กองทุนราษฎรประสงค์จากการระดมทุนบริจาคของประชาชน มีการประกันตัวแทบทุกวันจนช่วงนี้เงินเหลือน้อยใกล้หมด ใช้ประกันตัวเยาวชนกลุ่มทะลุแก๊ส หรือม็อบดินแดงด้วย แม้ถูกไอโอกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบ ยืนยันคือการชุมนุมทางการเมืองเรียกร้องให้นายกฯลาออก แม้จะจุดพลุหรืออะไรที่มีอันตราย ฝากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดูแลการประกันตัวม็อบดินแดงโดยใช้เงินกองทุนยุติธรรมด้วย