ชุดสืบสวนนครบาลพร้อมตำรวจชุด ปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร.ตามรวบ “ครูฟู่” หรือ “สุนทรฟู่” อดีตครูภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 60 พร้อมแฟนหนุ่มชาวสปป.ลาว หลังชีวิตดำดิ่งติดพนันออนไลน์จนถูกออก จากราชการ ออกอุบายลวงเหยื่อเอาเงินมัดจำค่าที่พัก ตามงานต่างๆจากบุคคลในแวดวงการศึกษา มีผู้ตก เป็นเหยื่อนับร้อยครั้ง หมายจับติดตัวเพียบ เผยก่อนถูกส่งตัวไปดำเนินคดี ยังโชว์สกิลแต่งกลอนสดเตือนใจ ผู้คิดจะทำผิดให้กลับใจ
รวบครูดีเด่นเกียรตินิยมอันดับ 1 พิษพนันทำดำดิ่งสู่มิจฉาชีพ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฐานะหัวหน้าตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส. บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.2 บก.สส.บช.น. นำกำลังตำรวจ ศปอส.ตร.และตำรวจบก.สส.บช.น. จับกุมนายวิวัฒน์ วงค์ษา หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ “ครูฟู่” หรือ “สุนทรฟู่” อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518 ซอยนวมินทร์ 90 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. หลังก่อเหตุตระเวนหลอกลวงผู้อื่นจนถูกแจ้งความดำเนินคดีมากมาย ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 742/2565 ลงวันที่ 22 พ.ย.65 ของ สน.บางยี่เรือ
สืบเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ เป็นอดีตครูสอนภาษาไทยของโรงเรียนชื่อดังในพื้นที่ กทม. รู้จักกันในชื่อ “ครูฟู่” ถือเป็นผู้มากความสามารถจบการศึกษาชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 และรับราชการมีความก้าวหน้าถึงขั้นได้รับรางวัล “ครูภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ” ประจำปี 60 ความเก่งของครูฟู่นั้นเหลือล้น จนได้รับสมญานามว่า “สุนทรฟู่” แต่หลังจากนั้นชีวิตของครูหนุ่มอนาคตไกล เริ่มดำดิ่งเนื่องจากติดการพนัน รวมทั้งนำเงินไปเปย์ให้กับแฟนหนุ่มที่เป็น LGBTQ กระทั่งปี 63 ครูฟู่ถูกไล่ออกจากข้าราชการ
หลังจากนั้นเจ้าตัวเดินสายหลอกลวงเอาเงิน เหยื่อในแวดวงครูเป็นหลัก อาทิ หลอกให้เช่าบ้านพักเพื่อทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนในต่างจังหวัด หรือหลอกให้เช่าห้องพักในงานรับปริญญา ผู้ต้องหาอาศัยโปรไฟล์ที่เคยเป็นครูดีเด่น สร้างความน่าเชื่อถือ ในการหลอกลวง ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3-5 ก.พ. มีการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ที่ จ.น่าน ทำให้หลายโรงเรียนในทุกภูมิภาคต้องการจองห้องพักพานักเรียนไปร่วมกิจกรรมแข่งขัน ผู้ต้องหาเห็นช่องทางดังกล่าวเลยออกอุบายอ้างว่ามีที่พักให้เช่า เจ้าตัวอ้างโปรไฟล์ในอดีตเป็นครูดีเด่นและยังมีภาพถ่าย ที่สวมเครื่องแบบชุดข้าราชการครู ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ โอนเงินให้เป็นจำนวนมาก
ตรวจสอบตั้งแต่ครูฟู่ออกจากราชการ เจ้าตัวก่อเหตุลักษณะนี้มาตลอด ถึงปัจจุบันมีผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง นอกจากนี้เจ้าตัวยังดำดิ่งขนาดต้องเดินสายหลอก “นวดเสียว” แนว LGBTQ+ ด้วย ทั้งนี้ครูฟู่ใช้ชีวิตหลบเลี่ยงการจับกุมอย่างไร้เงามาเป็นเวลาหลายปี โดยเปลี่ยนที่พักอาศัยทุก 2 สัปดาห์ ชุดสืบสวนตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ด้วยเบาะแสเดียวคือ ครูฟู่ เป็น LGBTQ+ ต้องแฝงตัวเข้าสู่วงการนวดของ LGBTQ+ นานกว่า 1 เดือนจนได้เบาะแสว่าปัจจุบันครูฟู่กินอยู่กับแฟนหนุ่มละแวกพื้นที่ซอยวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ออกจากห้องพักเพียงวันละ 1 ครั้ง หรือบางวันไม่ออกมาสู่โลกภายนอกเลย และมีพฤติกรรมหมกมุ่นอยู่กับการเล่นการพนันออนไลน์ (ปั่นสลอต) ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและไม่ทำงานทำการใดๆ ยังตระเวนหลอกลวงชาวบ้านอยู่เช่นเดิม กระทั่งจับกุมตัวไว้ได้ขณะครูฟู่พร้อมแฟนหนุ่ม LGBTQ+ ชาว สปป.ลาว เตรียมย้ายที่พัก จับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 28/58 ถนอมมิตรคอนโด ตึก 11 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
สอบสวนครูฟู่ให้การรับสารภาพ เปิดเผยถึงความพลิกผันของชีวิตว่าจบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 จากนั้นไปเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ปี 55 สอบบรรจุครูได้เป็นหน้าห้องของ ผอ.โรงเรียน กระทั่งมีเรื่องวงโยธวาทิตที่ไปขอยืมเงินจากคนดังรายหนึ่ง ทำให้มีเรื่องราวต้องขอย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนอื่น จากนั้นได้รับโอกาสเข้าไปช่วยงานในกระทรวงศึกษา ธิการมีโอกาสแต่งบทอาเศียรวาท ได้รับรางวัลครูดีเด่นประจำปีและได้สมญานามว่า “สุนทรฟู่” กระทั่งปี 63 ตนไม่ลงรอยกับผู้บังคับบัญชาคนใหม่ ประกอบกับทำงานหลายหน้าที่จนป่วย ตัดสินใจไม่ไปโรงเรียนจนถูกตั้งกรรมการสอบสวนให้ออกจากราชการ ช่วงนั้น ชีวิตเริ่มเป๋ติดแฟนหนุ่มชาว สปป.ลาว เจอกันหลังจากที่จ้างมานวด LGBTQ+ แล้วปิ๊งกัน รวมทั้งติดการพนันออนไลน์ทำให้ชีวิตเริ่มดำดิ่ง
ครูฟู่ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า แรกๆยังมีเงินเก็บพอประทังชีวิตได้ แต่ผ่านไประยะหนึ่งเงินหมด เริ่มโทร.ไปขอยืมเงินจากนักเรียนและครูที่เคยรู้จักได้มาครั้งละ 1,000-2,000 บางคนให้ถึง 4,000 บาท ยอมรับยืมเงินจากเด็กๆแล้วไม่ให้คืน ส่วนเพื่อนครู ตอนตนไปขอยืมเงินถูกเมินและทำเหมือนคนไม่รู้จักกันทำให้เสียใจมากๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเดินสายหลอกลวง ช่วงนั้นตนเล่นเฟซบุ๊กแล้วเห็นมีการหาที่พัก ได้ไอเดียหลอกลวงด้วยการหลอกเอาเงินมัดจำที่พักจากเหยื่อ ทำเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ยอมรับว่าทำไปเพราะความหิว ต้องการที่อยู่ รู้ว่าผิด สงสารเหยื่อด้วย ขอโทษทุกคน ขอโอกาสให้สังคมให้อภัย หลังจากนี้ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่และขอใช้ความรู้ที่มีอยู่เพื่อสาธารณ ประโยชน์ จะให้ไปเป็นอาสาสมัครสอนที่ไหนอย่างไรก็จะไม่คิดเงินเลย จะมุ่งทำประโยชน์ให้กับสังคม
นอกจากนี้ ครูฟู่ยังอาศัยความสามารถที่มีแต่งกลอนสดต่อหน้าชุดจับกุมเพื่อเตือนใจผู้ที่คิดจะทำผิดว่า “ก่อนจะทำสิ่งใดขอให้คิด อย่าพลาดผิดจนชีวิตคิดถลำ ทำสิ่งใดประกอบด้วยเวรกรรมและเน้นย้ำทำกรรมดีอย่างที่เป็น หากพลาดผิดผิดไปแล้วไม่แคล้วโทษ จากเป็นโจทก์ตกจำเลยคนเหยียบย่ำ ขอโอกาสที่มีได้แก้กรรม จะกระทำแต่สิ่งดีเพื่อสังคม”
จากนั้นชุดจับกุมคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ ดำเนินคดีพร้อมประสานพนักงานสอบสวน สภ.บางม่วง จ.นครสวรรค์ สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ สน.วังทองหลาง เดินทางมาอายัดตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับ