“นิด้าโพล” เปิดผลสำรวจประชาชน เรื่องวุ่นๆ พรรคเพื่อไทย ชี้ชัด คนไทยไม่เห็นด้วย ปม ‘สลายขั้ว’ จัดตั้งรัฐบาลพิเศษ เลือก ‘อิ๊งค์’ เหมาะนั่งนายกฯ มากกว่า ‘เศรษฐา’
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เรื่องวุ่น ๆของพรรคเพื่อไทย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 ส.ค.2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับเรื่องวุ่น ๆ ของพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงการเลือกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.62 ระบุว่า ไม่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย (หรือพรรคไทยรักไทย หรือพรรคพลังประชาชน) รองลงมา ร้อยละ 33.13 ระบุว่า เคยเลือก รวมถึงในการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค. 2566 ร้อยละ 26.72 ระบุว่า เคยเลือก แต่ไม่ได้เลือกในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ยังไม่เคยไปเลือกตั้งเลย
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ “สลายขั้ว” ของพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 47.71 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.47 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 16.79 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 15.11 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 0.92 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.63 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 36.56 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน ร้อยละ 8.47 ระบุว่าเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ และร้อยละ 16.34 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในขณะนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.85 ระบุว่า เป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญต่อกัน รองลงมา ร้อยละ 27.33 ระบุว่า เป็นแค่คนรู้จักกัน ร้อยละ 20.99 ระบุว่าเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน และร้อยละ 1.83 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 18.01 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.44 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.74 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.71มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.79 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.93 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.74 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.11 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.13 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.76 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่นๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 34.50 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.59 สมรส และร้อยละ 1.91 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่
ตัวอย่าง ร้อยละ 25.04 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.87 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 7.63 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 26.11 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.35 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตัวอย่าง ร้อยละ 9.47 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 15.88 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 22.21 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.44 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.57 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.93 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.50 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ตัวอย่าง ร้อยละ 20.99 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 20.46 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 27.94 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 10.61 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 3.97 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 5.04 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 10.99 ไม่ระบุรายได้