บรรยากาศวันเนาว์ เทศกาลปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ “วัดเจ็ดยอด” ประชาชนเข้าวัดทำบุญปักตุงก่อเจดีย์ทรายคึกคัก!

บรรยากาศวันเนาว์ เทศกาลปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ ที่วัดเจ็ดยอด ประชาชนเข้าวัดทำบุญปักตุงก่อเจดีย์ทรายคึกคัก ขณะที่นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญถวายไม้ค้ำสะหลีโพธิ์ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิดระบาดเข้ม

เมื่อวันนี้ 14 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าที่วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามประเพณีชาวล้านนาจะถือว่าเป็น “วันเนาว์” หรือ “วันเน่า” โดยพบว่ามีประชาชนนักท่องเที่ยวและกลุ่มชาติพันธุ์สวมใส่เสื้อสีสันสดใสพร้อมกับตระเตรียมข้าวปลาอาหารและสังฆทานเดินทางมาทำบุญถวาย ขอพรพระ และทางวัดเจ็ดยอดได้จัดเตรียมเจดีย์ทรายไว้ให้ประชาชนสามารถนำตุงไส้หมูและตุงสิบสองนักษัตมาปักกัน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้รวมทำบุญถวายไม้ค้ำสะหลีโพธิ์ หรือไม้ค้ำโพธ์ ซึ่งประชาชนนักท่องเที่ยวจะเขียนชื่อของคนในครอบครัวลงไปบนไม้ค้ำโพธิ์ ก่อนที่จะนำไปไว้ที่ต้นโพธิ์ เพราะเชื่อว่าจะช่วยค้ำจุนชีวิตและความเป็นสิริมงคลโดยทางวัดจัดไว้ให้บูชาอันละ 99 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาร่วมทำบุญที่วัดแห่งนี้ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทำตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ของทางวัด

ขณะที่ ภายในตลาดต้นลำไย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก็มีประชาชนออกมาจับจ่ายทั้งสิ่งของจำเป็นสำหรับทำบุญตามประเพณี อย่างตุงไส้หมู ตุง 12 นักษัตร คือ ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ และกุน เพื่อนำไปทำบุญและปักพระเจดีย์ทรายในวัด สิ่งของจำเป็นสำหรับงานประเพณีรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งข้าวแต๋น ข้าวแคบ บุหรี่ขี้โย ข้าวตอกดอกไม้ และน้ำขมิ้นส้มป่อย

ด้าน บรรยากาศที่วัดโลกโมฬี วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จากผู้คนที่พากันเข้าวัดทำบุญและปักตุงบนกองทราย รวมทั้งสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดที่ทางวัดอัญเชิญมาตั้งภายนอก เพื่อให้ผู้คนได้ร่วมกันสักการะในช่วงปีใหม่เมือง

ด้านพระครูไพบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี กล่าวว่า วันเนาว์ หรือ วันเน่า นี้จะเป็นวันที่จัดเตรียมของต่างๆ เพื่อจะนำไปทำบุญที่วัด หรือเรียกอีกอย่างว่า วันดา วันเนาว์นี้ ก็จะมีการขนทรายเข้าวัด ประชาชนขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นการตอบแทนวัด เพื่อจะก่อเจดีย์ทรายในวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันพญาวัลย์ก็จะมีการนำตุงสัญลักษณ์นักษัตรไปปักที่เจดีย์ทราย ซึ่งในวันที่ 13 เมษายน นั้นเรียกกันว่าวันสังขารล่องเป็นวันที่ล่วงเลยผ่านไปแล้ว ทิ้งสิ่งไม่ดีให้ผ่านไป ส่วนวันที่ 14 เมษายน นั้นเป็นวันเนาว์ นับเป็นวันเริ่มต้นศักราชใหม่ ห้ามพูดคุยสิ่งที่ไม่ดี ไม่ด่าทอ ไม่ว่ากันในวันนี้ ใส่เสื้อผ้าใหม่ คิดดี ทำดี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของการเริ่มต้นชีวิตใหม่นี้ด้วย


ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ 14 เมษายน 2565 เวลา 13.30 น. จะมีขบวนแห่ไม้ค้ำสะหลีและขนทรายเข้าวัด โดยจะมีการตั้งขบวนบริเวณด้านหน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน บนถนนท่าแพ ไปตามวัดหลายแห่งตามความเชื่อการถวายไม้ค้ำสะหลีโพธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลซึ่งชาวล้านนาเชื่อกันว่าเมื่อนำไม้ค้ำสะหลีมาถวายวัดแล้วนำไปค้ำต้นโพธิ์ เจดีย์ วิหารต่างๆ แล้ว จะเป็นเหมือนการได้ทำบุญหนุนนำชีวิตในปีใหม่

สำหรับวันนี้เป็นวันเนาว์ หรือ วันเน่า ในแง่ของโหราศาสตร์แล้ว วันนี้ควรจะเรียกว่า วันเนาว์ เพราะเป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรอยู่ระหว่างราศีมีนและราศีเมษ อันเป็นวันที่ถัดจากวันสังขารล่อง แต่ในการออกเสียงแล้วทั่วไปมักเรียกวันเน่า ทำให้เกิดความคิดที่ห้ามการกระทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล โดยเฉพาะห้ามการด่าทอทะเลาะวิวาทกัน กล่าวกันว่าผู้ใดที่ด่าทอผู้อื่นในวันนี้แล้ว ปากของผู้นั้นจะเน่า และหากวิวาทกันในวันนี้ บุคคลผู้นั้นจะอัปมงคลไปตลอดปี ส่วนผู้ประสงค์จะปลูกเรือนด้วยไม้ไผ่ ก็ให้รีบตัดในวันนี้ เพราะเชื่อกันว่าไม้จะเน่าและไม่มีมอดหรือปลวกมากินไม้ดังกล่าว วันเนาว์นี้จะเป็นวันเตรียมงาน ชาวบ้านจะพากันไปซื้อของเพื่อกินและใช้ในวันพญาวัน เมื่อถึงตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด กองรวมกัน การขนทรายเข้าวัดนี้ถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทนส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัดซึ่งเสมอกับได้ลักของจากวัด วันเนาว์นี้อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันดา เพราะเป็นวันที่ ดา หรือจัดเตรียมสิ่งของต่างๆ ที่จะใช้ทำบุญนั่นเอง.