บิวตี้บล็อกเกอร์ดัง เปิดใจทุ่มเงินแสนซื้อกล่องสุ่มเครื่องสำอางค์พิมรี่พาย วอนอย่าดราม่า ให้คิดว่าเสียเงินทำคอนเทนท์ เผยจะจัดประมูลสินค้าแล้วเอาเงินไปบริจาค
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. น.ส.นพลักษณ์ กุลธวัชชัย หรือ นุ่น บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ กรณีทุ่มเงินหลักแสนบาท ซื้อกล่องสุ่มเครื่องสำอางค์จาก น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ว่า ที่ซื้อเพราะอยากทำคอนเทนท์อยู่แล้ว ถ้าคนติดตามจะเห็นตนทำคอนเทนท์กล่องสุ่มมาตลอด ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางค์ พอเปิดมาก็ใช้เลยว่าแต่งหน้าได้ไม่ได้ ส่วนสาเหตุที่อยากซื้อราคาหลักแสน นั้น ก่อนหน้านี้เคยเห็นเขาขายกล่องละ 32,000 บาท แต่ซื้อไม่ทัน คิดว่าถ้าซื้อหลักหมื่นเขาไม่ขายแน่ เลยถามว่าหลักแสนขายไหม เพราะไม่เคยซื้อกล่องสุ่มจากเขาเลย ตอนนั้นก็บังเอิญเป็นช่วงเริ่มไลฟ์ เขาเห็นก็เลยมาตอบตน นี่เป็นครั้งแรกที่ซื้อ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ของยังไม่มา คิดว่าน่าจะมีเครื่องสำอางค์ทั่วไป แต่เคยมียูทูบเบอร์เปิดกล่องสุ่มน้ำหอมราคา 2,500 บาท ก็ได้น้ำหอมดังหลายขวด มองว่าคุ้ม คิดว่าหลักแสนก็น่าจะคุ้ม คิดว่าเขาน่าจะเฉลี่ยราคากันไปคละๆ ราคาถูกและแพง อาจมีราคาสูง 1 ชิ้น มองว่ากล่องสุ่มคือการตลาดอย่างหนึ่ง เราสามารถซื้อของในราคานี้โดยให้แม่ค้าเลือกมาใส่ แต่จะคุ้มไม่คุ้มก็อยู่ที่ดวง
น.ส.นพลักษณ์ กล่าวยอมรับว่าตนไม่ได้หวังว่าจะมีคนอื่นมาซื้อกล่องสุ่มแบบนี้ถึงพันกล่อง ก็ทึ่งไปพร้อมคนอื่นเหมือนกัน แต่ตนเคยลงทุนทำคอนเทนท์หลักแสนมาหลายอย่าง ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ไม่ได้คิดว่ามันต้องเกิดการเปรียบเทียบว่าคนรวยเท่านั้นจะซื้อได้ ตนพอใจจะซื้อมาทำคอนเทนท์เพราะคิดว่ามันคุ้มค่า ดูเราสนุกๆ ก็ได้ ไม่มีกำลังซื้อไม่เป็นไร ถ้าดูคอนเทนเราแล้วอยากได้อะไรในกล่องไปซื้อเป็นชิ้นตามกำลังที่มี ซื้อมาแล้วได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริง เพราะตนก็เริ่มจากจน เคยไม่มีเงินมาก่อน ทุกบาทที่เสียไปต้องคุ้มค่า
ทั้งนี้ พิมรี่พาย บอกว่าจะได้ของเยอะมาก เขาบอกให้เช่าห้องเก็บเครื่องสำอางค์ได้เลย ตนคิดว่าใช้ไม่หมด เลยคิดว่าจะไปจัดประมูลเป็นชิ้นแล้วเอาเงินไปบริจาค ก็มองว่าเสียเงินไปได้คอนเทนท์ แต่ได้กลับมาเป็นบุญ ถ้าเขาจะทำกล่องสุ่มแพงกว่านี้ ก็ต้องดูก่อนว่าจะคุ้มไหม และกำลังทรัพย์เป็นยังไง เพราะตนใช้เงินจะคิดเสมอ ครั้งนี้ก็วางแผนกับทีมงานมาแล้ว ไม่อยากให้เป็นดราม่า เพราะเครื่องสำอางค์มันของฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว อยากให้มองว่าเราซื้อเครื่องสำอางค์ 1 แสนบาทแค่นั้น ถือเป็นการใช้เงินซื้อความสุขในรูปแบบการทำคอนเทนท์ เพราะสำหรับตนเงิน 1 แสนบาทเอามาทำคอนเทนท์ถือว่าไม่เยอะ ถ้าคนดูได้ความสุขก็ดีใจ