“บิ๊กตู่” โชว์บทผู้นำตัวจริง สั่งเลื่อนประชุม ครม.ไปดู น้ำท่วมอุบลฯ “เฮ้ง” สวน คิดเองเออเอง ไม่ใช่ มติพรรค ย้ำมา พปชร.หนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ พท.เย้ย พปชร.ชงชื่อ “ลุงป้อม” คู่แข่งหน้าเก่ากินนิ่มกว่าเดิม “สุทิน” เอาแน่อภิปรายไม่ลงมติทิ้งทวนรัฐบาล “อมรัตน์” ถามไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่า “ตู่-ป้อม” แล้วหรือ ฉะเก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติผลัดกันชมของ 3 ป. “จุรินทร์” ย้ำ ปชป.ต้องจบ 2 ภารกิจสุดท้าย ยึดโควตาเดิมถ้ามีปรับ ครม. “นิพนธ์” ตั้งเป้ากวาด 70-80 ที่นั่ง “เดชอิศม์” เล่นเป็นยังไม่คั่ว รมต. “สุรนันทน์” เรียกร้องรีบยุบสภา บ.ก.ลายจุด นัดแต่งดำทุกอาทิตย์ “จตุพร” เชื่อคนไทยไม่ได้เลือกตั้ง
เกมอำนาจเริ่มสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) หลังนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ระบุหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ. พรรค พปชร.ระบุเป็นความคิดเห็นของคนเพียงคนเดียว
พท.เย้ย พปชร.ชงชื่อ “ลุงป้อม”
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์กรณีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งสมัยหน้า แล้วให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นรองนายกฯ ควบกระทรวงใหญ่ ว่า สามารถคิดได้ แต่ต้องถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตรแล้วหรือยัง ทั้งคู่ยังไปด้วยกันได้อยู่หรือที่สำคัญนายวีระกรลองฟังเสียงประชาชนหรือยัง เท่าที่ฟังมาคนไทยอยากหลุดพ้นจาก 3 ป. เต็มทนแล้ว อยากก้าวไปสู่ผู้นำใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ และแนวทางบริหารประเทศใหม่ๆ 8 ปีกับ 3 ป. ประชาชนระทม พอแล้ว เมื่อถามว่าถ้าเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรจริง จะเป็นผลดีผลเสียกับเพื่อไทยอย่างไร นายสุทินตอบว่า เราไม่ได้วิตกกับคู่แข่ง เราวิตกกับประชาชนเท่านั้น เชื่อมั่นว่าถ้าเป็นคู่แข่งหน้าเดิมๆน่าจะชนะได้ง่ายกว่าเดิม
เอาแน่อภิปรายโดยไม่ลงมติ
เมื่อถามถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายสุทินตอบว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าควรใช้ช่องทางดังกล่าว ให้เป็นประโยชน์กับการบริหารประเทศในช่วงที่เหลือ มีหลายปัญหาที่เราอยากซักถามรัฐบาลว่า ทำไมไม่แก้ปัญหา เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านหวังผลการเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ นายสุทินตอบว่า ถ้ารัฐบาล ทำดีคนจะให้เครดิตเอง ฝ่ายค้านจะทำไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้ารัฐบาลทำไม่ดีหากการอภิปรายครั้งนี้จะมีผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลก็ช่วยไม่ได้ แค่ผลพลอยได้ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก
ท้าชูชื่อ “บิ๊กตู่” แคนดิเดตมีแต่เสีย
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรค พปชร.จะเสนอใคร หากไม่ นึกถึงหัวใจประชาชนก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่ก้าวล่วง ให้ประชาชนตัดสินใจเอง แต่แคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน ของเพื่อไทย ต้องสามารถเป็นได้ครบเทอม ประชาชนต้องหวังพึ่งพาได้ ไม่ใช่แบบบางพรรคเสนอชื่อคนที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นนายกฯได้แค่อีก 2 ปี ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ต้องให้ประชาชนหวังพึ่งพาได้ถึงจะถูก แต่ไม่ว่าพรรคไหนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มองว่าเสียมากกว่าได้ ไม่เชื่อก็ลองดู
“นพดล” ย้ำแก้ 272 สู่ปรองดอง
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มองข้ามไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯได้ถึงเมื่อไหร่ เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าอำนาจจะกลับมาอยู่ในมือประชาชน ประเด็นคือ เราควรกำหนดกติกาการเข้าสู่อำนาจของ นายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร ต้องก้าวข้าม ตัวบุคคล เข้าสู่การมีระบบกติกาที่เป็นประชาธิปไตย เป็นธรรมกับทุกพรรค และกับทุกคนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ สำคัญที่สุดคือการเคารพประชาชน 66 ล้านคน บทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยควรได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา 272 ให้เฉพาะ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น มีอำนาจโหวตนายกฯ จะขจัดปมความขัดแย้ง เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเข้าสู่ถนนปรองดองของคนในชาติ กอบกู้ภาพลักษณ์ประเทศ คืนศักดิ์ศรีและความสง่างาม ให้ผู้นำรัฐบาล
ฉะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้หรือ
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตรขึ้นมาทำงานแทนในช่วง 1 เดือน คนอาจรู้สึกดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในแง่การสื่อสาร การเมือง และคาแรกเตอร์ หรือความแข็งกร้าว แต่เป็นแค่ความรู้สึกหลังจากอยู่ในหลุมดำมานาน ไม่ได้หมายความว่ากระแสความนิยมจะดีขึ้น ไม่ได้ดีขึ้นในระดับที่ประชาชนจะยอมรับให้เป็นแคนดิเดตนายกฯแน่ อย่าเพิ่งฝันหวาน พล.อ.ประวิตรมีสภาพเหมือนเครื่องยนต์หมดสภาพไปต่อไม่ได้แล้ว ยังจะให้สี่คนหามสามคนแบกอีกหรือ และคนที่คิดจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร ดูถูกประชาชนไปหรือเปล่า คิดจะส่งตัวถังรถแบบนั้นมาให้คนยุคสมัยนี้ใช้งาน ยุคนี้เขาไฮเปอร์ลูปกันแล้ว ไม่ได้บูลลี่เรื่องวัย อายุ หรือสุขภาพ แต่พูดเรื่องศักยภาพความสามารถ ต้องตั้งคำถามกลับว่าไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้แล้วจริงหรือ อย่าดูถูกประชาชน ตำแหน่งนายกฯไม่ใช่สมบัติที่พี่น้อง 3 ป.จะผลัดกันชม ยิ่งเสนอมาแบบนี้แสดงว่ายอมอยู่ในวังวนแบบนี้ตลอดไป ไม่ได้แคร์สายตาใครเลยใช่ไหม พปชร.สิ้นคนดีขนาดนั้นเลยหรือ
“บิ๊กตู่” เลื่อน ครม. ดูน้ำท่วมอุบลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำหนังสือเวียนถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเลื่อนการประชุม ครม.จากวันที่ 4 ต.ค.ไปเป็นวันที่ 5 ต.ค. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีภารกิจลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำและเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ วันที่ 3 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์มีประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่กระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เรื่องบริหารจัดการน้ำ การดูแลเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
“เฮ้ง” ตอก “วีระกร” คิดเอาเอง
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตเป็นนายกฯ เป็นความเห็นส่วนตัวของนายวีระกร แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่คนคนเดียวจะคิดและตัดสินใจแทนคนทั้งพรรค ต้องให้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบก่อน พวกตนที่ตัดสินใจมาอยู่กับ พปชร.เพราะพรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และให้กำลังใจมาโดยตลอด เมื่อถามว่าไม่ขัดใช่หรือไม่หากสมาชิกพรรคสนับสนุน พล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายสุชาติตอบว่าต้องดูความเห็นส่วนรวม ส่วนตัวยังยืนหยัดว่าพรรคเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เป็นเจตนารมณ์ที่มาพรรคนี้
ปชป.ระดมพลรับศึกเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมอวานี พลัส เกาะลันตา จ.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์จัดสัมมนา ส.ส.พรรค เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีผู้บริหารและแกนนำพรรค อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าและผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาฯ รองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค และ ส.ส.พรรคเข้าประชุมพร้อมเพรียง
ต้องจบ 2 ภารกิจสุดท้ายรัฐบาล
นายจุรินทร์กล่าวระหว่างสัมมนาว่า ขอเน้นย้ำกับ ส.ส.ว่าหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เป็นปัจจัยหนึ่งในการฉายภาพการเมืองไทย พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี รัฐบาลนี้ยังมี 2 ภารกิจสำคัญ คือ 1.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 2.ภารกิจของพรรค ต้องทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ต้องเร่งสร้างผลงานต่อเนื่องให้เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ต้องเตรียมการเลือกตั้งเพราะเหลืออีก 6 เดือน เป้าหมายคือ ส.ส.เดิมต้องกลับมาทั้งหมด และต้องทำให้ประชาชนยอมรับมากกว่าเดิม ส่วนการเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ต้องเติมในส่วนที่ขาด ภายใต้กติกาการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ จากนั้นมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ทั้ง 3 เขต คือ เขต 1 นายธนวัฒน์ ภูเก้าล้วน เขต 2 นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ 3 สมัย และเขต 3 น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ยึดโควตาเดิมถ้ามีปรับ ครม.
นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกพรรคต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กำหนดออกมา 180 วันก่อนเลือกตั้ง แต่อยากให้ กกต.ตั้งสายด่วนคอยตอบคำถามให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือผู้ที่สงสัยในภาคปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบของ กกต.ได้ถูกต้องแม่นยำ เข้าใจตรงกันมากขึ้น เมื่อถามถึงการปรับ ครม. นายจุรินทร์ตอบว่าต้องนับหนึ่งที่นายกฯเพราะเป็นผู้นำรัฐบาล ให้ท่านเริ่มกลับมาปฏิบัติงานปกติก่อน อยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ เมื่อถามว่าเหลือเวลาอยู่ไม่กี่เดือน นายจุรินทร์ตอบว่าไม่มีเงื่อนไขอะไรบังคับ จะเหลือเวลาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ส่วนเรื่องโควตากระทรวง ถ้ามีการปรับคงเป็นไปตามเดิมยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลง พรรคจะไม่เกิดแรงกระเพื่อมภายใน ทุกอย่างเรียบร้อย ราบรื่น ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม หรือจะมีการยุบสภา นายจุรินทร์ตอบว่าเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาล คิดว่าเมื่อถึงเวลาน่าจะมีการหารือกัน เชื่อว่านายกฯคงให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ทุกพรรคต้องเตรียมรับมือทุกสถานการณ์ หากจะยุบคงต้องผ่านพ้นเอเปกไปก่อน
“นิพนธ์” ตั้งเป้ากวาด 70–80 ที่นั่ง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าและ ผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าว่า ขณะนี้เตรียมตัวผู้สมัครในพื้นที่เป้าหมายหลักเกือบครบหมดแล้ว รวมถึงนโยบายที่จะใช้รณรงค์หาเสียง คาดว่าจะชัดเจนในเดือน พ.ย.นี้ เมื่อเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งมาเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนตัวมีความมั่นใจและตั้งเป้าว่าพรรคจะทำให้ได้ ส.ส. 70-80 ที่นั่งในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า
“เดชอิศม์” เล่นเป็นยังไม่คั่ว รมต.
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า ได้แสดงเจตจำนงในที่ประชุมสัมมนาพรรคว่าหากมีการปรับ ครม. จะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคครั้งนี้ เพราะเพิ่งมารับหน้าที่รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ยังไม่ได้สร้างผลงาน ขอให้พรรคพิจารณาบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิก่อน ขอรอดูผลการเลือกตั้งที่มีตนเป็นแม่ทัพภาคใต้ก่อน
“สุรนันทน์” เรียกร้องรีบยุบสภา
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค สร้างอนาคตไทย ประธานภาค กทม. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์กลับมาปฏิบัติงานต่อว่า ต้องเคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลหมดสภาพการบริหารประเทศแล้ว ควรรีบยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะให้รัฐบาลชุดนี้กลับมาบริหารประเทศต่อ หรือจะเลือกใคร ขณะนี้การเมืองไม่นิ่งมีความวุ่นวายพยายามยื้อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อ มีการช่วงชิงอำนาจกันในรัฐบาลโดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก เรามีตัวอย่างในอดีตสมัยจอมพลถนอมปฏิวัติตัวเอง ในปี 2514 และอีก 2 ปีต่อมา 14 ตุลาคม 2516 ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็เกิดขึ้น ไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว ขอเรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว
ปลุกสังคมสั่งสอนนักการเมือง
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กเป็นคลิปนโยบายสร้างโอกาสให้ประชาชนระบุว่า เราต่างหากคือคนกำหนดนักการเมือง กำหนดคนที่ไปคุมกลไกบ้านเมือง แต่เราทำให้ตัวเราเล็ก เพราะเราไม่สามารถไปเลือกนักการเมือง พรรคการเมืองไปทำหน้าที่นี้ได้ จึงอยากเชิญชวนมารวมพลังกันกำหนดตัวเราให้ใหญ่ ว่าเราจะเลือกนักการเมือง และพรรคการเมืองที่เป็นของเราเอง ไม่ใช่แค่เลือก ไม่ใช่จะมาเอาเสียงแล้วจึงมาหา แต่เลือกคนที่ทำงานกับเรา เพื่อให้ตัวเราใหญ่ขึ้น เสียงของเราจะได้ดังขึ้น วันนี้การเมืองนับว่าเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ คนที่จะสั่งสอนนักการเมืองบนการเมืองเลวร้าย คือพี่น้องประชาชน และชุมชน
“เจ๊หน่อย” ยกน้ำวาระแห่งชาติ
ที่ จ.เชียงใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อม น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค ทีมผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่-ลำพูน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย และติดตามสถานการณ์น้ำท่วม มีประชาชนเข้ามาสวมกอดและร่ำไห้กับคุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน 2 จังหวัดว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ทำบ้านเรือนพื้นที่การเกษตรเสียหาย เกิดจากการขาดการบูรณาการแก้ไขปัญหา ขอเรียกร้องให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหา รวมถึงเร่งชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พรรคไทยสร้างไทยขอประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งอย่างยั่งยืน เป็น “วาระแห่งชาติ” ช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้ประชาชน
โพลชี้เร่งแก้เศรษฐกิจ-ปากท้อง
วันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1,159 ตัวอย่างครัวเรือนระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค. เรื่อง “ตัวช่วยกับเวลาที่เหลืออยู่” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 35.8 เห็นว่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อไป หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน เพื่อเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน รองลงมาร้อยละ 28.4 ให้ยุบสภาทันที ร้อยละ 28 ให้ยุบสภาหลังประชุมเอเปก ร้อยละ 26.9 ให้ลาออกทันที และร้อยละ 25.4 ระบุ ปรับ ครม. ส่วนสมการความน่าจะเป็นของผู้เหมาะสมเป็นนายกฯ แบ่งเป็นกลุ่มรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 22.5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 12.5 และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.5 ส่วนกลุ่มฝ่ายค้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 19.2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 11.4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 3.5 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ร้อยละ 2.8 กลุ่มตัวช่วยผู้ไม่สังกัดฝ่าย พบว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร้อยละ 10.1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 10.0 และอื่นๆ ร้อยละ 4.5 ตามลำดับ
บก.ลายจุดนัดแต่งดำทุกอาทิตย์
เวลา 13.00 น. ที่บริเวณศูนย์การค้าสยามสแควร์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พร้อมแนวร่วมต่อต้านประชาธิปไตยจากปลายกระบอกปืน ส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดง และกลุ่มราษฎร แต่งกายในชุดเสื้อสีดำ รวมตัวชุมนุมแบบแฟลชม็อบ “วันอาทิตย์สีดำ” ประท้วงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกฯตามเสียงเรียกร้องของประชาชน ด้วยการช่วยกันนำสติกเกอร์พิมพ์ข้อความ “#ไล่ประยุทธ์” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สัญจรผ่านเป็นจำนวนมาก นายสมบัติกล่าวว่า กิจกรรมวันอาทิตย์สีดำวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชนทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง ยุติบทบาททางการเมือง ได้แสดงพลังทางการเมืองทุกวันอาทิตย์ ไปจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะลาออกไป ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดถือจริยธรรมทางการเมือง ด้วยการแสดงสปิริตประกาศลาออก
“จตุพร” เชื่อคนไทยไม่ได้เลือกตั้ง
ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ร่วมกันแถลงเปิดปฏิทินลงถนนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พ้นจากอำนาจการเมืองว่า จากการหารือพวกเรามีความเชื่อว่าหลังวันที่ 24 มี.ค.2566 คนไทยไม่ได้เลือกตั้งตามที่หวังไว้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ยังหวงอำนาจ หลังจากวันนี้คณะหลอมรวมประชาชนจะรวมพลังกับกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม เดินสายให้ความรู้ให้ประชาชนหูตาสว่าง และเห็นกระบวนความคิดของกลุ่ม 3 ป. ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าการระดมมวลชนชุมนุมไม่ได้ผล ยิ่งชุมนุมยิ่งทำให้ระบบ 3 ป.อยู่ยาว จนถึงตอนนี้ยังไม่เชื่อว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง เพราะเห็นแล้วว่าเลือกตั้งไปมีแต่แพ้กับแพ้พรรคเพื่อไทย
